ไม่สูบบุหรี่แต่เป็นถุงลมโป่งพอง
หลายคนอาจจะรู้สึกโล่งใจว่าตนเองไม่เคยสูบบุหรี่เลย ดังนั้นจึงปลอดภัยจากการเป็น โรคถุงลมโป่งพอง แน่นอน ซึ่งไม่ถูกต้องนัก แม้ว่าจะเป็นความจริงที่การสูบบุหรี่ทำให้มีแนวโน้มเป็นถุงลมโป่งพองสูงกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 6 เท่า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่จะไม่เสี่ยงต่อโรคถุงลมโป่งพองเลย เพราะต่อให้คุณไม่สูบบุหรี่เอง แต่การสูดดมควันบุหรี่เข้าไปบ่อย ๆ โดยที่อาจจะมาจากคนในครอบครัว เพื่อน หรือแฟนที่ชอบมานั่งสูบบุหรี่ใกล้ ๆ คุณก็เสี่ยงที่จะได้รับสารพิษจากควันบุหรี่ไม่ต่างไปจากผู้ที่สูบบุหรี่เลย
มลภาวะทางอากาศทั้งฝุ่น ควัน หรือละอองสารเคมีต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงาน ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดถุงลมโป่งพอง เพราะหากมลภาวะที่เป็นพิษเข้าไปในปอดมาก ๆ ก็จะค่อย ๆ ทำลายปอดและถุงลมจนเสื่อมสภาพ นอกจากนี้โรคทางพันธุกรรมอย่างภาวะขาดแคลน AAT ก็เสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคถุงลมโป่งพองด้วยเช่นกัน
ดังนั้นแล้ว ต่อให้คุณไม่สูบบุหรี่หรือชีวิตนี้ไม่คิดจะสูบบุหรี่เลย ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เสี่ยงต่อการเป็นถุงลมโป่งพองแต่อย่างใด
อาการของ ถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคที่ไม่ได้แสดงอาการในทันที ดังนั้นในระยะแรกผู้ป่วยอาจจะไม่รู้ตัวเองเสียด้วยซ้ำว่ากำลังเป็นโรคถุงลมโป่งพอง เนื่องจากพัฒนาการของโรคจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ค่อย ๆ ทำลายสุขภาพของปอดไปเรื่อย ๆ เมื่ออายุมากขึ้น ปอดก็จะทำงานหนักขึ้นและเริ่มเสื่อมสภาพลง ทำให้อาการของโรคเริ่มแสดงออกมาในลักษณะที่มีความรุนแรง อย่างไรก็ตาม อาการโดยทั่วไปในเบื้องต้นของโรคถุงลมโป่งพองที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
- หายใจถี่และสั้น
- หายใจแล้วมีเสียงหวีด
- มีอาการไอเรื้อรัง
- แน่นหน้าอกหรือเจ็บหน้าอก
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย