ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) หรือ ผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) เป็นโรคที่ส่งผลให้ผิวหนังเป็นผื่นสีแดงและคัน ส่วนใหญ่เกิดในเด็กเล็ก แต่ก็อาจขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเป็นอาการเรื้อรังและต่อเนื่อง บางครั้งพบว่าเด็กเป็น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจากการแพ้อาหาร ได้ และอาจมาพร้อมกับอาการหอบหืด หรือไข้ละอองฟาง
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจากการแพ้อาหาร
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังบางครั้งอาจมีสาเหตุมาจากการแพ้อาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กก่อนวัยหนึ่งปี งานวิจัยในเด็กและเด็กเล็กด้านภูมิแพ้ผิวหนังระบุว่า หนึ่งในสามเกือบจะสองในสามของเด็กที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมาจากการแพ้อาหาร
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า การแพ้อาหารคือสาเหตุทั้งหมดของผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ดังนั้น การหลีกเลี่ยงอาหารที่เด็กแพ้จึงไม่ส่งผลในการรักษาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง มันแค่อาจจะช่วยป้องกันเด็กจากอาการแพ้แบบฉับพลัน (เช่น ลมพิษ บวม หายใจติดขัด) ที่เกิดจากอาหารที่เด็กแพ้
ในทารกบางรายที่มีอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังชนิดรุนแรง การงดอาหารบางอย่างอาจช่วยควบคุมอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้ แต่ควรอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักโภชนาการที่เชี่ยวชาญด้านการแพ้อาหาร ถ้าอาการของผิวหนังดีขึ้น จะเริ่มให้กินอาหารทีละอย่าง (Food Challenge Test) เพื่อดูว่ามันจะทำให้ผื่นกำเริบขึ้นมาหรือเปล่า ถ้าไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นในสองอาทิตย์ หลังจากการงดอาหาร ก็หมายความว่า อาหารอาจไม่ใช่ต้นเหตุก็เป็นได้
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อมีผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
อาหารที่มักสัมพันธ์กับอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังโดยปกติแล้วมักจะได้แก่
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- ไข่
- ถั่วและธัญพืช
- ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
- ข้าวสาลี
- ปลา
จะทราบได้อย่างไรหากอาหารทำให้ภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบ
ในบางกรณี การแพ้อาหาร อาจเกิดขึ้นทันที โดยอาการอาจเกิดขึ้นภายในสองชั่วโมงหลังจากที่รับประทานอาหารที่แพ้เข้าไป อาการคันและการเกาจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานหลังจากที่รับประทานอาหารซึ่งกระตุ้นอาการแพ้ สัญญาณที่พบได้บ่อยก็คือ ผื่นแดง รอยบวม และอาการระคายเคืองรอบๆ ริมฝีปาก อาการทางผิวหนังอย่างอื่นได้แก่ การเกิดลมพิษ ซึ่งจะมีตุ่มคัน และตุ่มน้ำใสๆ ปรากฏขึ้นบนผิว คล้ายกับโดนต้นตำแย อาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ปวดท้อง อาเจียน หายใจลำบาก คันบริเวณดวงตาและจาม
ในบางรายอาการแพ้อาหารอาจแสดงล่าช้า โดยอาการอาจเกิดขึ้น 6-24 ชั่วโมง หลังจากรับประทานอาหารที่แพ้เข้าไป อาการที่พบได้แก่ผื่นภูมิแพ้และอาการคันที่เป็นมากขึ้นเรื่อนๆ บางครั้งอาจมีอาการปวดท้องและท้องเสียร่วมด้วย
หากคุณสงสัยว่าอาหารคือสาเหตุที่ทำให้อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังแย่ลง คุณควรรีบพบหมอ ซึ่งอาจขอให้คุณจดบันทึกในช่วง 4-6 สัปดาห์ เพื่อบันทึกอาการและอาหารและเครื่องดื่มที่รับประทานเข้าไป เพื่อช่วยในการบ่งชี้อาหารที่คุณอาจแพ้
หมออาจใช้การตรวจหลายอย่างเพื่อวินิจฉัยภูมิแพ้อาหาร รวมทั้งการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (skin-prick test) และการตรวจเลือด อย่างไรก็ตาม การทดสอบด้วยการรับประทานอาหาร (food challenge) เป็นวิธีเดียวที่แพทย์จะสามารถบอกคุณได้อย่างแน่ชัดว่า อาหารคือต้นเหตุของอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือไม่
เพื่อยืนยันการวินิจฉัยภูมิแพ้อาหาร คุณควรพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ ไม่แนะนำให้งดอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง โดยไม่ได้รับการยืนยันอาการแพ้จากผู้เชี่ยวชาญ
[embed-health-tool-bmr]