backup og meta

คอดำ เบาหวาน สาเหตุ การรักษาและการป้องกัน

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล · โรคเบาหวาน · โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 22/03/2022

    คอดำ เบาหวาน สาเหตุ การรักษาและการป้องกัน

    อาการคอดำ สามารถมีสาเหตุได้หลากหลาย แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานจะมีลักษณะเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งมีลักษณะผิวคล้ำ หนา นูน หยาบกร้าน หรือบางคนอาจมีติ่งเนื้อยื่นออกมา เกิดจากร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ระดับอินซูลินเพิ่มสูงขึ้นและกระตุ้นการเจริญเติบโตของผิวหนังมากขึ้น มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีรูปร่างอ้วน ดังนั้น หากมีอาการคอดำเกิดขึ้นอย่างกะทันหันควรเข้าพบคุณหมอทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวาน

    อาการคอดำ ในผู้ป่วยเบาหวาน

    อาการคอดำ เป็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ได้แก่ ผิวคล้ำขึ้น ผิวหนา หยาบกร้าน บางคนอาจมีติ่งเนื้อยื่นออกมา และอาจมีอาการคันหรือมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย ส่วนใหญ่อาจพบตามบริเวณรอยพับของผิวหนัง เช่น รักแร้ ขาหนีบ คอ ทั้งนี้ควรเข้าพบคุณหมอหากมีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือมีอาการคัน เจ็บปวด มีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ

    สาเหตุของคอดำ ในผู้ป่วยเบาหวาน

    คอดำ ในผู้ป่วยเบาหวาน มีสาเหตุจากระดับอินซูลินที่สูงขึ้นไปกระตุ้นเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเจริญเติบโตมากกว่าปกติ ภาวะนี้ทางการแพทย์ เรียกว่า โรคผิวหนังช้าง (Acanthosis Nigricans) ส่วนใหญ่พบมากผู้ที่มีน้ำหนักเกินและมีรูปร่างอ้วน หรือในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินและมีรูปร่างอ้วน

    การรักษาคอดำ ในผู้ป่วยเบาหวาน

    ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาอาการคอดำ อาจเป็นเพียงการรักษาในกรณีของผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนให้ลดน้ำหนัก โดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ซึ่งอาจช่วยให้อาการคอดำจางลงได้ นอกจากนี้ อาจมีคำแนะนำอื่น ๆ ที่ช่วยรักษาอาการคอดำ ในผู้ป่วยเบาหวานให้จางลงได้ ดังนี้

    • ใช้สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียสูตรอ่อนโยน เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก หลีกเลี่ยงการขัดผิวรุนแรง เพราะอาจทำให้ผิวมีรอยแผลหรืออักเสบได้
    • ใช้โลชั่นหรือครีมตามใบสั่งคุณหมอ เช่น ครีมที่มีส่วนประกอบของเตรติโนอิน (Tretinoin) ที่ออกฤทธิ์ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง ช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสีย คือ กรดอนุพันธ์วิตามินเอ ยูเรีย (Urea) วิตามินดี กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) อาจช่วยให้อาการคอดำจางลงและช่วยให้ผิวนุ่มขึ้น
    • การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peels) เช่น การใช้กรดไตรคลอโรอะซิติก (Trichloroacetic Acid) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้เกิดการทำลายของผิวหนังชั้นนอก และกระตุ้นการซ่อมแซมบาดแผล ทำให้เกิดการสร้างเยื่อบุผิวใหม่อีกครั้งพร้อมกับผิวที่เรียบเนียนขึ้น
    • ยาเรตินอยด์ชนิดรับประทาน (Retinoids) เช่น ไอโซเตรติโนอิน (Isotretinoin) อะซิเตรติน (Acitretin) มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบของผิวและอาจช่วยให้อาการคอดำจางลง
    • อเล็กซานไดร์ท เลเซอร์ (Alexandrite Laser) เป็นเลเซอร์ที่มีจุดช่วงคลื่น 755 และ 810 นาโนเมตร อาจช่วยสลายเม็ดสีเมลานินที่ก่อตัวบนผิวหนังและลดความหมองคล้ำของผิวได้

    การป้องกันคอดำ ในผู้ป่วยเบาหวาน

    การป้องกันอาการคอดำ ในผู้ป่วยเบาหวาน อาจต้องจัดการกับโรคเบาหวานซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการ ดังนี้

  • การควบคุมน้ำหนัก ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมอาหาร  โดยการรับประทานอาหารที่หลากหลายทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินและเกลือแร่ เช่น ข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน พืชตระกูลถั่ว  หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์ เช่น เค้ก คุกกี้ น้ำอัดลม น้ำผลไม้เติมน้ำตาล
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี นมไขมันต่ำ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เช่น อาหารแปรรูป ลูกอม ไส้กรอก น้ำอัดลม น้ำผลไม้ผสมน้ำตาล
  • หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล

    โรคเบาหวาน · โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช


    เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 22/03/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา