โดยรูปแบบของโรคเส้นประสาทเสื่อมจากเบาหวานที่มักพบบ่อยที่สุด คือ เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม (Peripheral Neuropathy) ซึ่งอาจทำให้มีอาการมือเท้าชา หรืออาการอื่น ๆ เช่น ไวต่อการสัมผัสผิดปกติ รู้สึกเสียวหรือแสบร้อนตามมือ เท้า หรืออาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้
ทั้งนี้ สมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา (American Diabetes Association) แนะนำว่า ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ควรได้รับการตรวจส้นประสาทเมื่อได้รับวินิจัยโรคเบาหวานเลย และหลังจากนั้นอาจเป็นการตรวจประจำปี ส่วนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ควรได้รับการตรวจเส้นประสาทหลังจากได้รับการวินิจฉัยโรคเบาหวานไปแล้ว 5 ปี และหลังจากนั้นเป็นประจำทุก ๆ ปี
มือเท้าชารักษาอย่างไร
อาการมือเท้าชาเนื่องจากเส้นประสามเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวาน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เเต่หากรับการรักษาที่ถูกต้องอาการจะไม่พัฒนาไปมากขึ้น โดยเมื่อไปพบคุณหมอ คุณหมอจะตรวจเส้นประสาทเบื้องด้น ได้เเก่ การตรวจการรับรู้ความรู้สึกและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงอาจมีการประเมินการทำงานของหลอดเลือดส่วนปลายร่วมด้วย เนื่องจากหากเลือดไหลเวียนไม่ดีอาจเป็นอีกสาเหตหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการมือเท้าชาได้ อย่างไรก็ตามการรักษาหลักของ อาการเส้นประสาทเสือมจากเบาหวานคือการ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย คือระดับน้ำตาลก่อนมื้ออาหารอยุ่ระหว่าง 80-130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และ ระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหาร มีค่าไม่เกิน180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร นอกจากนี้ในกรณีที่มีอาการเจ็บปวดหรือรู้สึกแสบร้อนบริเวณมือหรือเท้า คุณหมออาจให้การรักษาด้วยยากลุ่มที่สามารถบรรเทาอาการปวดจากเส้นประสาทได้ เช่นพรีกาบาลิน (Pregabalin) กาบาเพนติน (Gabapentin) อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) หรือนอร์ทริปไทลีน (Nortriptyline)
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย