backup og meta

เช็คเบาหวานด้วยตัวเอง ทำอย่างไร

เช็คเบาหวานด้วยตัวเอง ทำอย่างไร

โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่เกิดจากร่างกายผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาจนำไปสู่การเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น การ เช็คเบาหวานด้วยตัวเอง จึงอาจช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เลือกรับประทานอาหาร รวมถึงปฏิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอาจช่วยควบคุมอาการ รวมถึงป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

[embed-health-tool-bmi]

เช็คเบาหวานด้วยตัวเอง มีประโยชน์อย่างไร

การเช็คเบาหวานด้วยตัวเองทำให้ทราบถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานตั้งเเต่ระยะเเรกเริ่ม เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาโรครวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานรุนแรงที่อาจตามมา ได้แก่

  • โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่่ทำให้หลอดเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจและหลอดเลือดสมองอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีอาการเจ็บเเน่นหน้าอก  หัวใจวาย และ อัมพฤกษ์ อัมพาต  
  • เบาหวานขึ้นตา เมื่อร่างกายมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังจะทำให้เส้นเลือดที่บริเวณจอประสาทตาเสือม รวมถึงทำให้เลนส์ตาบวม ส่งผลให้เกิดอาการ ตาพร่ามัว และอาจเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก ต้อหิน และ ตาบอดได้
  • เส้นประสาทเสื่อม ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงทำให้หลอดเลือดและเส้นประสาทบริเวณปลายมือเเละเท้าเสียหาย ส่งผลให้เกิดอาการชา หรือในบางรายมีอาการปวดแสบร้อน และหากมีแผลยังทำให้แผลหายช้าอีกด้วย

วิธีเช็คเบาหวานด้วยตัวเอง

วิธีตรวจเบาหวานง่าย ๆ เบื้องต้น สามารถทำได้โดยหมั่นสังเกตสุขภาพของตนเอง โดยผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงอาจมีอาการดังต่อไปนี้

  • กระหายน้ำบ่อย
  • หิวบ่อย
  • ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะตอนกลางคืน
  • น้ำหนักลดผิดสังเกต
  • เหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย รู้สึกไม่สดชื่น
  • แผลหายช้า
  • ตามัว มองเห็นไม่ชัดเจน
  • ชาปลายมือ ปลายเท้า

นอกจากการสังเกตอาการเเล้ว อาจทำการตรวจระดับน้ำตาลเบื้องต้นเองด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว ซึ่งจะทำให้ทราบค่าระดับน้ำตาลว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่

วิธีตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว

การตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยชุดเครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว สามารถทำได้ ดังนี้

  1. ล้างมือให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง
  2. เปิดเครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้วและนำแถบแบบทดสอบระดับน้ำตาลสอดเข้ากับเครื่องตรวจ
  3. ทำความสะอาดนิ้วปลายนิ้วที่จะเจาะเลือด ด้วยแอลกอฮอล์
  4. ใช้ชุดเข็มสำหรับเจาะเลือดปลายนิ้ว เจาะเลือดที่ปลายนิ้วมือและบีบปลายนิ้วเบา ๆ ให้เลือดหยดลงบนแถบกระดาษทดสอบ
  5. ทำความสะอาดปลายนิ้วมือที่เจาะเลือดและปิดแผลเบา ๆ เพื่อห้ามเลือด
  6. ค่าระดับน้ำตาลในเลือดจะปรากฏขึ้นบนจอ
  7. แนะนำให้ทำการจดบันทึกค่าน้ำตาลในเเต่ละครั้ง รวมถึงช่วงเวลาที่ทำการตรวจ เช่น ก่อน/หลังจากรับประทานอาหาร หลังการออกกำลังกาย เพิ่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา เมื่อไปพบคุณหมอ

การแปลผลอ่านค่าระดับน้ำตาลในเลือด

การแปลผลค่าระดับน้ำตาลในเลือด อาจแตกต่างกันออกไปตามวิธีการตรวจ ดังนี้

  • การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบสุ่ม เป็นการตรวจโดยที่ไม่ต้องงดอาหารและเครื่องดื่ม สามารถตรวจในช่วงเวลาใดก็ได้ หากค่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงถึงมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในเกณฑ์การวินิจจัยโรคเบาหวาน
  • การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบอดอาหาร การตรวจวิธีนี้ผู้ที่เข้ารับการตรวจจะต้องงดอาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานเป็นเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยสามารถแปลผลได้ 3 ระดับคือ 
    • ระดับปกติ – ค่าระดับน้ำตาลน้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
    • ภาวะก่อนเบาหวาน/เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน – ค่าระดับน้ำตาลอยู่ระหว่าง 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
    • โรคเบาหวาน –  ค่าระดับน้ำตาลสูงตั้งเเต่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เป็นต้นไป

การป้องกันโรคเบาหวาน

การป้องกันโรคเบาหวาน สามารถทำได้ดังนี้

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ พืชตระกูลถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี ไขมันดี เช่น มะเขือเทศ พริก บร็อคโคลี่ หัวกะหล่ำ ขนมปังโฮลวีต เมล็ดทานตะวัน อัลมอนด์ ปลาแซลมอน ปลาทู และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น โดนัท น้ำอัดลม เค้ก มันฝรั่ง ไอศกครีม ขนมปังขาว ฟักทอง แตงโม
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือ 150 นาที/สัปดาห์ โดยเเนะนำให้การออกกำลังกายแบบแอโรบิค ที่มีความเหนื่อยระดับกลาง เช่น เดิน วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน เพราะ นอกจากการออกกำลังกายช่วยทำให้ร่างกายเเข็งเเรงโดยรวมเเล้ว ยังช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ทำให้สามารถจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้นด้วย
  • หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Diabetes prevention: 5 tips for taking control. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/type-2-diabetes/in-depth/diabetes-prevention/art-20047639.Accessed June 21, 2022

How and When to Test Your Blood Sugar With Diabetes. https://www.webmd.com/diabetes/guide/how-test-blood-glucose.Accessed June 21, 2022

Monitoring Your Blood Sugar. https://www.cdc.gov/diabetes/managing/managing-blood-sugar/bloodglucosemonitoring.html.Accessed June 21, 2022

Diabetes Tests. https://www.cdc.gov/diabetes/basics/getting-tested.html.Accessed June 21, 2022

Home Blood Sugar Testing. https://www.webmd.com/diabetes/home-blood-glucose-testing.Accessed June 21, 2022

Diabetes. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diabetes/diagnosis-treatment/drc-20371451.Accessed June 21, 2022

Blood sugar test. https://medlineplus.gov/ency/article/003482.htm.Accessed June 21, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

16/03/2023

เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

ปัสสาวะขุ่น สัญญาณเตือนของโรคเบาหวาน

เบาหวาน อาการ หนัก เป็นอย่างไร รวมถึงการป้องกันและการดูแลตัวเอง


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 16/03/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา