backup og meta

เบาหวานมีกี่ชนิด มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง

เบาหวานมีกี่ชนิด มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง

เบาหวานมีกี่ชนิด เบาหวานสามารถแบ่งออกได้หลัก ๆ เป็น 4 ชนิด ได้แก่ เบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) และโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes) ซึ่งเบาหวาน คือโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง แต่ร่างกายไม่สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้ เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินที่ทำหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หากปล่อยให้ระดับน้ำตาลเลือดสูงเป็นเวลานานและไม่ทำการรักษาโรคเบาหวาน อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนจำนวนมาก เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง จอประสาทตาเสื่อม ไตวาย รวมถึงความผิดปกติในระบบประสาท

[embed-health-tool-bmi]

เบาหวานมีกี่ชนิด

เบาหวาน แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ เบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะก่อนเบาหวาน และโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ 

เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง ส่งผลให้ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นำไปสู่ภาวะน้ำตาลสะสมในเลือดสูงขึ้น จนทำให้เกิดความผิดปกติต่าง ๆ รวมถึงโรคแทรกซ้อนตามมา โรคเบาหวานชนิดที่ 1 มักพบในเด็กและวัยรุ่นมากกว่าในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงวัย 4-7 ปี และ 10-14 ปี นอกจากนี้เบาหวานชนิดที่ 1 อาจส่งต่อผ่านทางพันธุกรรม คือ หากมีพ่อหรือแม่เป็นโรคนี้มาก่อน อาจทำให้ลูกเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 1 ได้

เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้อย่างเพียงพอ หรือในบางกรณีเกิดจากการดื้ออินซูลินของเซลล์ในกล้ามเนื้อ ไขมัน หรือตับ โรคเบาหวานชนิดนี้พบได้มากที่สุด หรือราว 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด โดยมักเกิดกับผู้อยู่ในวัยกลางคนหรือวัยชรา ผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการเป็นเบาวหวาน เช่น ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีความดันสูง ส่วนในเด็กมีแนวโน้มเกิดกับคนที่เป็นโรคอ้วน กลุ่มเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ยังรวมถึงผู้มีน้ำหนักเกินหรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน 

หมายถึง ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่สูงพอวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของภาวะก่อนเบาหวานนั้นเหมือนกับเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้มีภาวะก่อนเบาหวานมักไม่ทราบว่าตัวเองเสี่ยงเป็นเบาหวาน ในขณะที่อาจมีโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวานเกิดขึ้นในร่างกายแล้ว เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต หากผู้มีภาวะก่อนเบาหวานไม่ปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิต อย่างการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมหรือออกกำลังกาย เพื่อระดับน้ำตาลกลับมาเป็นปกติ ก็อาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้

เกิดจากภาวะดื้ออินซูลินของเซลล์ในร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ อันเป็นผลมาจากฮอร์โมนที่ผลิตจากรก (Placenta) โรคเบาหวานชนิดนี้เกิดขึ้นได้ในทุกระยะของการตั้งครรภ์ และอาจสามารถหายเองได้หลังคลอด ทั้งนี้ โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อครรภ์และสุขภาพของทารกได้ อย่างเช่นเพิ่มโอกาสเสียชีวิตก่อนหรือหลังคลอด รวมถึงเพิ่มโอกาสป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ให้ทารกในอนาคต

นอกจากนี้ มารดาซึ่งเคยเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ยังเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หลังคลอดมากกว่าคนทั่วไป ปัจจัยเสี่ยงหลัก ๆ ของโรคเบาหวานชนิดนี้ คล้ายกับของเบาหวานชนิดที่ 2 และภาวะก่อนเบาหวาน คือ มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ขาดการออกกำลังกาย มีบุคคลในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น

อาการของโรคเบาหวาน

อาการของผู้ป่วยเบาหวานมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลในเลือด โดยอาการผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 มีแนวโน้มรุนแรงและชัดเจนกว่าโรคเบาหวานชนิดอื่น ในขณะที่ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะก่อนเบาหวาน และเบาหวานขณะตั้งครรภ์อาจไม่แสดงอาการใด ๆ ที่เด่นชัด ทั้งนี้ 

อาการที่อาจพบในผู้ป่วยเบาหวานมีดังนี้

  • ปัสสาวะบ่อย
  • กระหายน้ำมากกว่าปกติ
  • หิวมากกว่าปกติ
  • อ่อนเพลีย
  • หงุดหงิดง่าย
  • แผลหายช้า
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ปากแห้ง
  • พบการติดเชื้อบ่อย ๆ อย่างเช่นที่เหงือก ผิวหนัง หรือช่องคลอด
  • ความต้องการทางเพศที่ลดลง
  • ชาปลายมือปลายเท้า
  • ผิวแห้งมาก

โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน

การเป็นโรคเบาหวานในระยะยาวโดยไม่ได้รับการรักษา อาจนำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังนี้โรคในกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง

  • ความผิดปกติของเส้นประสาท
  • การได้ยินที่แย่ลง
  • ความผิดปกติของจอตา
  • โรคอัลไซเมอร์
  • โรคซึมเศร้า
  • ภาวะสมองเสื่อม
  • การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  • ภาวะครรภ์เป็นพิษ (ในกรณีของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์)

การรักษาโรคเบาหวาน

ในการรักษาโรคเบาหวาน คุณหมอจะรักษาคนไข้เบาหวานแต่ละประเภท ด้วยวิธีการที่ต่างกัน ดังนี้

  • เบาหวานชนิดที่ 1 คุณหมอจะฉีดอินซูลินให้ผู้ป่วย หรือให้อินซูลินผ่านเครื่องปั๊ม เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินเองได้ การรักษาจะทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย โดยคุณหมอจะแนะนำให้ผู้ป่วยนับปริมาณคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันที่บริโภคต่อวัน เพื่อให้แน่ใจว่าสารอาหารที่ได้รับ จะไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในเลือดมากเกินไป 
  • เบาหวานชนิดที่ 2 คุณหมอจะใช้ยารักษาเบาหวานชนิดรับประทาน ซึ่งมีหลายชนิด
  • ภาวะก่อนเบาหวาน คุณหมอจะแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่นเดียวกับของโรคเบาหวานประเภทที่ 1 และ 2 รวมทั้งให้รับประทานยาเมทฟอร์มิน เพื่อป้องการไม่ให้ผู้ป่วยกลายเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2
  • โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ คุณหมอจะแนะนำให้ผู้ป่วยคอยตรวจระดับน้ำตาลในเลือด รับประทานอาหารที่เหมาะสมและออกกำลังกายที่ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือเลือกฉีดอินซูลินให้ผู้ป่วยแทน

การป้องกันโรคเบาหวาน

ขณะนี้ยังไม่มีวิธีป้องกันโรคเบาหวาน แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังต่อไปนี้ อาจช่วยป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น อาหารไขมันต่ำ มีเส้นใยอาหารสูง เน้นผัก -ผลไม้ หรือธัญพืชไม่ขัดสี
  • ออกกำลังกายประมาณ 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
  • ลดน้ำหนักส่วนเกิน (ยกเว้นในกรณีของหญิงตั้งครรภ์)
  • นอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ 

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Diabetes: An Overview

https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/7104-diabetes-mellitus-an-overview. Accessed January 20, 2022

5 Signals That You Might Have Type 2 Diabetes

https://accelresearchsites.com/5-signals-type-2-diabetes/#:~:text=Things%20like%20dry%2C%20itchy%20skin,the%20blood%20vessels%20and%20nerves. Accessed January 20, 2022

Diabetes Symptoms

https://www.cdc.gov/diabetes/basics/symptoms.html. Accessed January 20, 2022

Diabetes

https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diabetes/symptoms-causes/syc-20371444 Accessed January 20, 2022

รู้ลึก รู้จริง “อินซูลิน”

https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=778. Accessed January 20, 2022

Type 1 diabetes

https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/type-1-diabetes/symptoms-causes/syc-20353011. Accessed January 20, 2022

Treatment, Gestational diabetes

https://www.nhs.uk/conditions/gestational-diabetes/treatment/. Accessed January 20, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

09/04/2023

เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

อาการเบาหวานขึ้น หรือภาวะน้ำตาลในเลือดสูง มีสัญญาณเตือนอย่างไร

ข้าวสำหรับคนเป็นเบาหวาน


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

นายแพทย์กมล โฆษิตรังสิกุล

โรคเบาหวาน · โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 09/04/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา