backup og meta

OGTT คือ อะไร สำคัญต่อการคัดกรองโรคเบาหวานอย่างไร

OGTT คือ อะไร สำคัญต่อการคัดกรองโรคเบาหวานอย่างไร

OGTT คือ การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาลของร่างกาย เพื่อตรวจคัดกรองภาวะก่อนเบาหวาน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational diabetes) วิธีนี้เป็นการทดสอบความสามารถในการเผาผลาญน้ำตาลของร่างกาย หากมีระดับน้ำตาล OGTT สูงกว่าเกณฑ์ แสดงถึงร่างกายไม่สามารถจัดการกับน้ำตาลได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นความเสี่ยงในการเกิดภาวะก่อนเบาหวาน และโรคเบาหวาน ซึ่งการตรวจ OGTT ช่วยให้คุณหมอสามารถวางแผนการรักษาและให้คำแนะนำแก่ผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

[embed-health-tool-bmi]

OGTT คือ อะไร

OGTT หรือ Oral glucose tolerance test คือ การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาลของร่างกาย ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องงดรับประทานอาหารเเละเครื่องดื่มที่ให้พลังงานก่อนการตรวจอย่างน้อย 8 ชั่วโมง จากนั้นจะเจาะเลือดตรวจค่าระดับน้ำตาลหลังอดอาหารก่อน แล้วจะให้ดื่มสารละลายกลูโคสเพื่อทดสอบการทนทานต่อน้ำตาลของร่างกาย จากนั้นจึงเจาะเลือดตรวจค่าระดับน้ำตาลซ้ำอีกครั้ง หากค่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เป็นสัญญาณบอกว่าผู้รับการทดสอบนั้นมีภาวะก่อนเบาหวานหรือเป็นโรคเบาหวานแล้ว

ควรทดสอบความทนทานต่อน้ำตาลเมื่อใด

แนะนำ การตรวจ OGTT ในผู้ที่มีภาวะสุขภาพดังต่อไปนี้

  • มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ (ค่าดัชนีมวลกาย   25 กก./ม2 ) หรือเป็นโรคอ้วน
  • มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
  • เป็นโรคความดันโลหิตสูง
  • มีระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง
  • มีภาวะกลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic ovarian syndrome)
  • ผู้ที่เคยเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือ เคยคลอดบุตรที่มีน้ำหนักแรกเกิดเกิน 4 กิโลกรัม

วิธีทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล OGTT

การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล สามารถทำได้ดังนี้

บุคคลทั่วไป

ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจ OGTT จะต้องงดอาหารและเครื่องดื่มอื่นที่ให้พลังงาน ก่อนเข้ารับการทดสอบอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (แต่ไม่เกิน 14 ชั่วโมง)

เมื่อถึงเวลานัด บุคลากรทางการแพทย์จะทำการเจาะเลือดครั้งที่1 เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร  จากนั้นให้ผู้เข้ารับการตรวจดื่มสารละลายกลูโคสปริมาณ 75 กรัม แล้วรอเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง จึงเจาะเลือดครั้งที่ 2 เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดซ้ำอีกครั้งเพื่อวัดความทนทานต่อน้ำตาลของร่างกาย โดยในช่วงระยะเวลา 2 ชั่วโมงนี้ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องงดอาหารเเละเครื่องดื่มด้วย

หญิงตั้งครรภ์

สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ส่วนมากเเล้วจะเข้ารับการตรวจ OGTT เมื่ออายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ เพื่อตรวจภาวะโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยมีขั้นตอนแตกต่างจากบุคคลทั่วไปเล็กน้อยดังนี้

ในขั้นแรกผู้เข้ารับการตรวจไม่ต้องงดอาหารมา โดยเมื่อถึงเวลานัด จะให้ดื่มสารละลายกลูโคสปริมาณ 50 กรัม แล้วรอเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะทำการเจาะเลือดตรวจค่าระดับน้ำตาล โดยหากมีระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคสไม่เกิน 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เเต่หากมีระดับน้ำตาลหลังดื่มสารละลายกลูโคส มากกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ คุณหมอจึงจะนัดตรวจในขั้นที่ 2 อีกครั้ง 

การตรวจในขั้นที่ 2 ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องงดอาหารเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง และจะทำการเจาะเลือดตรวจค่าระดับน้ำตาลในเลือดทั้งหมด 4 ครั้ง มีขั้นตอนดังนี้

  • เจาะเลือดครั้งที่ 1 เพื่อตรวจระดับน้ำตาลหลังงดอาหาร
  • ดื่มสารละลายกลูโคสปริมาณ 100 กรัม หลังจากนั้นรอเจาะเลือดตรวจระดับน้ำตาลหลังดื่มสารละลายกลูโคสไปแล้วที่ 1 2 และ 3 ชั่วโมงตามลำดับ
  • โดยระหว่างการเจาะเลือดเเต่ละครั้ง ผู้เข้ารับการตรวจจะยังต้องงดอาหารเเละเครื่องดื่มด้วย

ค่า OGTT บ่งบอกภาวะทางสุขภาพได้อย่างไรบ้าง

การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล หรือ OGTT สามารถบอกผลทางสุขภาพได้ดังนี้

สำหรับบุคคลคนทั่วไป

  • หากระดับน้ำตาลหลังดื่มสารละลายกลูโคสน้อยกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงถึงร่างกายมีความทนทานต่อน้ำตาลปกติ 
  • หากระดับน้ำตาลหลังดื่มสารละลายกลูโคสอยู่ระหว่าง 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงถึงร่างกายมีความทนทานต่อน้ำตาลบกพร่อง มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และอาจมีภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) ซึ่งคุณหมออาจแนะนำให้ทำการตรวจเพิ่มเติม รวมทั้งให้ออกกำลังกายและควบคุมอาหารเพื่อลดความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวานในอนาคต
  • หากระดับน้ำตาลหลังดื่มสารละลายกลูโคสมีค่าตั้งเเต่ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป จะเข้าหนึ่งในเกณฑ์ของการวินิจฉัยโรคเบาหวาน 

สำหรับหญิงตั้งครรภ์

  • การตรวจขั้นที่1 (ดื่มสารละลายกลูโคส 50 กรัม) 
    • หากมีระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส 1 ชั่วโมง ไม่เกิน 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์ 
    • หากระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส 1 ชั่วโมง มีค่าสูงกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร แสดงถึงอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยคุณหมอจะนัดให้มารับการทดสอบขั้นที่ 2 เพิ่มเติม
  • การตรวจขั้นที่2 (ดื่มสารละลายกลูโคส 50 กรัม) 

เป็นการทดสอบเพิ่มเติม เพื่อวินิจฉัยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์  หากผลตรวจในครั้งนี้สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดตั้งแต่ 2 ค่าขึ้นไป จะถือว่ามีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์

  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารควรน้อยกว่า 95 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 
  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส  1 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 
  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส  2 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 155 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 
  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส 3 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 

หากมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เบื้องต้นคุณหมอจะแนะนำให้ควบคุมอาหาร โดยลดปริมาณอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตลงให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้งเลือกรับประทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เพื่อให้คุณแม่และทารกในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ได้

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Glucose tolerance test – non-pregnant. https://medlineplus.gov/ency/article/003466.htm. Accessed January 31, 2023.

Do I Need an Oral Glucose Tolerance Test?. https://www.webmd.com/diabetes/guide/oral-glucose-tolerance-test. Accessed January 31, 2023.

Oral Glucose Tolerance Test (OGTT) to diagnose Gestational Diabetes. https://www.northdevonhealth.nhs.uk/pathology/departments/biochemistry/dynamic-function-tests/oral-glucose-tolerance-test/. Accessed January 31, 2023.

Gestational diabetes. https://www.nhs.uk/conditions/gestational-diabetes/. Accessed January 31, 2023.

Glucose tolerance test. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/glucose-tolerance-test/about/pac-20394296. Accessed January 31, 2023.

ขั้นตอนการตรวจคัดกรองเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์. https://www.si.mahidol.ac.th/th/research-academics/research/Research_Network/Download/Poster_DM/12.%20ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา.pdf. Accessed January 31, 2023.

 

 

เวอร์ชันปัจจุบัน

02/05/2023

เขียนโดย ศุภานิช สุริโย

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

อัปเดตโดย: ศุภานิช สุริโย


บทความที่เกี่ยวข้อง

GCT คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับโรคเบาหวาน

Postprandial Glucose คือ อะไร เกี่ยวกับเบาหวานอย่างไร


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 02/05/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา