Postprandial Glucose คือ ระดับน้ำตาลกลูโคสหลังมื้ออาหาร ซึ่งหากมีค่ามากกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสมอาจหมายถึงเป็นโรคเบาหวานได้ วิธีตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสหลังมื้ออาหารโดยทั่วไป คุณหมอจะให้ผู้รับการตรวจดื่มน้ำเชื่อมกลูโคสแล้วรอเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จึงเจาะเลือดเพื่อตรวจค่าระดับน้ำตาล
[embed-health-tool-bmi]
Postprandial Glucose คือ อะไร
Postprandial Glucose หรือระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังมื้ออาหาร หมายถึง ระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งจะเพิ่มสูงขึ้นหลังบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง มันฝรั่งทอด น้ำหวาน
โดยทั่วไป ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดจะขึ้นสูงสุดในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังมื้ออาหาร และจะค่อย ๆ ลดลงจนอยู่ในระดับปกติภายใน 2-3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังมื้ออาหารของผู้ที่มีสุขภาพปกติจะไม่เกิน 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หากระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่านั้น หมายความว่า เป็นโรคเบาหวาน
ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังมื้ออาหาร ตรวจได้อย่างไร
การตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังมื้ออาหาร สามารถตรวจด้วยวิธีที่เรียกว่า 2-hour Glucose Tolerance Test หรือการตรวจความทนทานต่อกลูโคสแบบ 2 ชั่วโมง โดยผู้ที่เข้ารับการตรวจจะต้องงดอาหารเเละเครื่องดื่มที่มีพลังงานอย่างน้อย 8 – 12 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการตรวจ
เมื่อถึงห้องตรวจ จะให้ผู้รับการตรวจดื่มสารละลายกลูโคส 75 กรัม ให้หมดภายใน 5 นาที จากนั้นรอ 2 ชั่วโมงเเล้วจึงเจาะเลือดตรวจระดับน้ำตาล ซึ่งจะเป็นตัวบอกว่าร่างกายสามารถจัดการกับน้ำตาลได้ดีมากน้อยเพียงใด โดยระหว่างนี้ยังมิให้รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มก่อนเจาะเลือด สำหรับค่าระดับน้ำตาล สามารถแปลผลได้ดังต่อไปนี้
- ระดับน้ำตาลต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หมายถึง สุขภาพปกติ
- ระดับน้ำตาล 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หมายถึง เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานหรือมีภาวะก่อนเบาหวาน
- ระดับน้ำตาลตั้งแต่ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป หมายถึง เข้าข่ายเป็นโรคเบาหวาน
ทั้งนี้ ระหว่างรอเจาะเลือด ไม่ควรสูบบุหรี่หรือออกกำลังกาย เพราะอาจทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนได้ อีกทั้งควรทำจิตใจให้สบาย ไม่ควรวิตกกังวล เพราะความเครียดอาจทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนได้เช่นกัน
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจ Postprandial Glucose
ปกติแล้ว คุณหมอจะขอตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังมื้ออาหาร ในผู้ที่เสี่ยงเกิดโรคเบาหวาน เช่น เคยมีภาวะก่อนเบาหวาน เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือมีอาการที่อาจเป็นสัญญาณของเบาหวานเช่น
- ถ่ายปัสสาวะบ่อย
- กระหายน้ำมากกว่าปกติ
- สายตาพร่ามัว
- รู้สึกเหนื่อยล้า หมดแรง
- หิวบ่อย
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- แผลหายช้า
Postprandial Glucose ต่างกับ Fasting Blood Glucose อย่างไร
Postprandial Glucose คือ ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังมื้ออาหาร ในขณะที่ Fasting Blood Glucose คือ ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดขณะอดอาหาร
ทั้งนี้ ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดขณะอดอาหาร ต้องงดอาหารและเครื่องดื่มที่มีพลังงานมาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง แล้วจึงเจาะเลือดตรวจ (โดยไม่ต้องดื่มน้ำเชื่อมหรือนั่งรอ) และสามารถแปลผลค่าระดับน้ำตาลได้ดังนี้
- ระดับน้ำตาลต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หมายถึง สุขภาพปกติ
- ระดับน้ำตาล 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หมายถึง เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานหรือมีภาวะก่อนเบาหวาน
- ระดับน้ำตาล 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรขึ้นไป หมายถึง เข้าข่ายกำลังเป็นโรคเบาหวาน
ทั้งนี้ หลังตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังมื้ออาหาร ด้วยวิธีตรวจความทนทานต่อกลูโคสแบบ 2 ชั่วโมงแล้ว บางครั้งอาจจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจระดับน้ำตาลด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบอดอาหาร หรือการตรวจระดับน้ำตาลสะสม โดยเฉพาะในผู้ที่มีค่าระดับน้ำตาลระหว่าง 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เพื่อให้สามารถวินิจฉัยได้ชัดเจนขึ้น