ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ทั่วโลกหันมารับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 ด้วยการให้ประชาชนชนใช้ชีวิตตามหลักการเว้นระยะห่างจากสังคม (Social Distancing) เช่น พยายามไม่ออกจากบ้านหากไม่จำเป็น เว้นระยะจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ไม่รับประทานอาหารร่วมจานกับคนอื่น ทำงานที่บ้าน แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ไม่ยอมเว้นระยะห่างจากสังคมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ บางกลุ่มถึงขั้นชุมนุมประท้วงเสียด้วยซ้ำ แล้วคุณรู้ไหมว่า การที่คนไม่ยอมเว้นระยะห่างจากสังคมจะส่งผลอย่างไรบ้าง หรือถ้าเราเจอคนที่ ไม่เว้นระยะห่างจากสังคม เราควรจะรับมือยังไงดี Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้แล้ว
ทำไมบางคนถึง ไม่ยอมเว้นระยะห่างจากสังคม
แม้ทุกภาคส่วนจะออกประกาศและรณรงค์ให้ทุกคนเว้นระยะห่างจากสังคม เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่ยอมเว้นระยะห่างจากสังคม ซึ่งนั่นอาจเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้
การเหมารวม
บางคนไม่ยอมเว้นระยะห่างจากสังคม เพราะเขาเหมารวมหรือทึกทักไปเองว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ก็เหมือนกับการระบาดของโรคติดเชื้อจากไวรัสชนิดอื่น ๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น โรคซาร์ส โรคไข้หวัดใหญ่ ไม่มีทางร้ายแรงไปกว่านั้นแน่ ๆ เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างจากสังคม ทั้ง ๆ ความเป็นจริงแล้ว โรคโควิด-19 ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ ซึ่งมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับโรคนี้ที่เรายังไม่รู้แน่ชัด เช่น การระบาดจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ หรือตอนไหนถึงจะมียารักษาหรือวัคซีนเฉพาะ
การยึดมั่นในสิทธิของตัวเอง
บางคนเชื่อว่าตัวเองมีสิทธิเสรีภาพในการจะทำอะไรก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการ รวมถึงเรื่องการเว้นระยะห่างจากสังคมด้วย ในเมื่อตัวเองไม่อยากเว้นระยะห่างจากสังคม ก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็ได้ โดยที่อาจไม่ได้คิดเลยว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้ส่งผลเสียต่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้คนรอบข้างหรือคนที่ตัวเองรัก เช่น พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ต้องมาเสี่ยงติดเชื้อโรคไปด้วย
ผลเสียที่ตามมา เมื่อคน ไม่เว้นระยะห่างจากสังคม
จากการศึกษาข้อมูลของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ผู้เชี่ยวชาญพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยในระยะไม่เกิน 6 ฟุต หรือประมาณ 2 เมตรเป็นเวลานาน เมื่อผู้ป่วยไอ จาม พูดคุย จึงอาจทำให้ละอองฝอย เช่น น้ำลาย เสมหะ น้ำมูก กระเด็นออกมาจากปากและจมูกของผู้ป่วย และแพร่กระจายไปในอากาศ จนเข้าสู่ปาก จมูก หรือปอดของผู้ที่อยู่รอบข้าง และส่งผลให้คน ๆ นั้นติดเชื้อไปด้วยได้
อีกทั้งในปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญยังพบว่า มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 บางรายที่ไม่แสดงอาการว่าติดเชื้อเลย ฉะนั้น เมื่อคน ๆ นั้นไม่เว้นระยะห่างจากสังคม ก็มีโอกาสแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นได้อีกมากโดยที่เขาอาจไม่รู้ตัวเลย
นอกจากนี้ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ก็ยังสามารถอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ ได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงไปจนถึงหลายวัน ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นผิว อุณหภูมิ ความชื้น เป็นต้น ฉะนั้น ต่อให้เห็นว่าบริเวณปลอดคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดโควิด-19 ด้วย หากเราไปสัมผัสเชื้อเข้าก็อาจทำให้ติดเชื้อ หรือเป็นพาหะพาเอาเชื้อไปติดอุณหภูมิ โควิดคนอื่นรอบข้างที่อยู่ในบริเวณอื่นได้ด้วย
เมื่อคนไม่เว้นระยะห่างจากสังคม แล้วทำให้โรคแพร่กระจายไปทั่ว ก็อาจทำให้ขาดแคลนยารักษาโรค ห้องพักฟื้น เครื่องมือ หรือบุคลากรทางการแพทย์ที่สามารถรับมือกับการแพร่กระจายของเชื้อโรคนี้ได้ จึงส่งผลให้การรักษา การป้องกัน และการหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น
เมื่อคนอื่น ไม่เว้นระยะห่างจากสังคม เราควรทำยังไง
ให้คำแนะนำตามสมควร
หากเป็นคนใกล้ตัว เราสามารถให้ความรู้หรือแนะนำให้เขาเห็นความสำคัญของการเว้นระยะห่างจากสังคมได้ แต่หากเป็นคนแปลกหน้า ก็ไม่ควรไปเผชิญหน้า ด่าทอ หรือออกคำสั่งให้พวกเขายอมเว้นระยะห่างจากสังคม เพราะอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือทำให้เขาไม่พอใจ จนถึงขั้นมีปากเสียง หรือลงไม้ลงมือกันได้
แม้คนอื่นจะไม่เว้นระยะห่างจากสังคม ก็อย่าตีตนก่อนไข้
การรู้จักป้องกันตัวเองให้พ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นับเป็นเรื่องดี แต่คุณก็ไม่ควรกังวลเกินเหตุหรือตีตนก่อนไข้ จนไม่เป็นอันทำอะไรหรือจ้องแต่จะจับผิดผู้อื่น อย่าคิดว่า ถ้ามีคนไม่เว้นระยะห่างจากสังคม ไม่ว่ายังไงคุณก็จะต้องติดเชื้อจากเขาแน่ ๆ เพราะผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ความเสี่ยงในการติดโควิด-19 จากการที่ผู้อื่นไม่เว้นระยะห่างจากสังคมนั้นยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก
อีกทั้งการมานั่งเครียดหรือโมโหเกินความจำเป็นเวลาเห็นคนอื่นไม่เว้นระยะห่างจากสังคมก็มีแต่จะทำให้คุณเสียสุขภาพเปล่า ๆ
วางตัวเป็นกลาง
คนเรานั้นร้อยพ่อพันแม่ แม้แต่คนในครอบครัวเดียวกันก็อาจมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันได้ นับประสาอะไรกับคนอื่น โดยเฉพาะเมื่อเป็นคนแปลกหน้า ฉะนั้น แทนที่จะคิดว่าคนที่ไม่ยอมเว้นระยะทางสังคมเป็นคนเห็นแก่ตัว อวดเก่ง ก็ให้ลองคิดว่า เขาอาจจะเข้าใจเรื่องความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 แตกต่างออกไป เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำตามหลักการเว้นระยะห่างจากสังคมก็ได้ เมื่อคุณวางตัวเป็นกลาง ลองมองเขาด้วยมุมมองใหม่ คุณเองก็จะใช้ชีวิตได้สบายใจขึ้น
ในเมื่อเรารู้แล้วว่า การไม่เว้นระยะห่างจากสังคมสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคได้ ฉะนั้น สิ่งที่เราควรทำก็คือดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงที่ชุมชนให้มาก และล้างมือหรือสิ่งของที่จับต้องรอบ ๆ ตัวคุณเองให้สะอาด เพื่อให้ตัวเราเองและคนในครอบครัวเสี่ยงติดเชื้อโรคน้อยลง
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด