ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยา ไอทราโคนาโซล (Itraconazole) ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อราต่างๆ ยานี้อยู่ในกลุ่มของยาต้านเชื้อราเอโซล (azole antifungals) ทำงานโดยการยับยั้งการเติบโตของเชื้อรา
ยา ไอทราโคนาโซล ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไอทราโคนาโซลบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยา หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยา ไอทราโคนาโซล ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อสินค้าหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาไอทราโคนาโซลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ยาไอทราโคนาโซลอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยานี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกัญชา อาจทำให้อาการง่วงซึมรุนแรงขึ้นได้ อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว จนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปรึกษาแพทย์ หากคุณใช้กัญชา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคตับที่รุนแรงได้อีกด้วย
ยาไอทราโคนาโซลอาจมีปฏิกิริยากับอาหาร หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาไอทราโคนาโซลอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคบลาสโตไมโคสิส (Blastomycosis)
คำแนะนำ
การใช้งาน เพื่อรักษาโรคบลาสโตไมโคสิส (ภายในปอดและภายนอกปอด) ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและไม่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา (Infectious Diseases Society of America)
การติดเชื้อที่ปอดระดับเบาถึงปานกลางหรือการติดเชื้อที่แพร่กระจายระดับเบาถึงปานกลางโดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนกลาง
การติดเชื้อที่ปอดระดับปานกลางถึงรุนแรงหรือการติดเชื้อที่แพร่กระจายระดับปานกลางถึงรุนแรงโดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนกลาง หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี (amphotericin B) เข้าหลอดเลือดดำ
การติดเชื้อที่ระบบประสาทส่วนกลาง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ)
การป้องกันการกำเริบ (การป้องกันแบบทุติยภูมิ) สำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ:
คำแนะนำ
ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำที่ไม่สามารถแก้ไขได้ อาจจำเป็นต้องใช้ยานี้ตลอดชีวิต
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคฮีสโตพลาสโมสิส (Histoplasmosis)
คำแนะนำ
การใช้งาน เพื่อรักษาโรคฮีสโตพลาสโมสิส (รวมไปถึงโรคโพรงในปอดเรื้อรัง [chronic cavitary pulmonary disease] และโรคฮีสโตพลาสโมสิสแบบลุกลามและโรคฮีสโตพลาสโมสิสที่ไม่เกี่ยวข้องกับเยื่อหุ้มสมอง) ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและไม่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา
การติดเชื้อที่ปอดระดับเบาถึงปานกลางหรือการติดเชื้อที่แพร่กระจายระดับเบาถึงปานกลางโดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนกลาง:
การติดเชื้อที่ปอดระดับปานกลางถึงรุนแรงหรือการติดเชื้อที่แพร่กระจายระดับปานกลางถึงรุนแรงโดยไม่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนกลาง หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี (amphotericin B) เข้าหลอดเลือดดำ:
การติดเชื้อโรคโพรงในปอดเรื้อรัง:
การติดเชื้อแบบลุกลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระดับเบาถึงปานกลาง:
การติดเชื้อแบบลุกลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระดับปานกลางถึงรุนแรง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ):
การติดเชื้อโดยมีเนื้องอกในบริเวณประจันอกที่แสดงอาการ (symptomatic mediastinal granuloma) หรือมีอาการแทรกซ้อน เช่น ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis) กลุ่มอาการรูมาโทโลจิก (rheumatologic syndromes) ต่อมน้ำเหลืองอักเสบในบริเวณประจันอกที่แสดงอาการ (symptomatic mediastinal lymphadenitis) ที่จำเป็นต้องรักษาด้วยคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroid):
การติดเชื้อที่ระบบประสาทส่วนกลาง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ):
การป้องกันแบบปฐมภูมิสำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
การป้องกันการกำเริบ (การป้องกันแบบทุติยภูมิ)
คำแนะนำ
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (CDC) สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อแบบลุกลามที่รุนแรงน้อยกว่า
การติดเชื้อแบบลุกลามที่รุนแรงปานกลางจนถึงรุนแรง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ)
อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis) ที่ยืนยันแล้ว (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ)
การป้องกันแบบปฐมภูมิ
การรักษาเพื่อกดอาการในระยะยาว (การป้องกันแบบทุติยภูมิ)
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคแอสเปอร์จิลโลสิส (Aspergillosis) – เชื้อแอสเปอร์จิลโลมา (Aspergilloma)
คำแนะนำ
การใช้งาน: เพื่อรักษาโรคแอสเปอร์จิลโลสิส (ภายในปอดและภายนอกปอด) ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและไม่มีภูมิคุ้มกันต่ำที่ไม่ทนหรือดื้อต่อยาแอมโฟเทอริซิน บี
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคแอสเปอร์จิลโลสิส (Aspergillosis) – รุกราน
คำแนะนำ
การใช้งาน: เพื่อรักษาโรคแอสเปอร์จิลโลสิส (ภายในปอดและภายนอกปอด) ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและไม่มีภูมิคุ้มกันต่ำที่ไม่ทนหรือดื้อต่อยาแอมโฟเทอริซิน บี
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาเชื้อราในช่องปาก (Oral Thrush)
การติดเชื้อแคนดิดาที่คอหอยส่วนปาก (Oropharyngeal candidiasis): 200 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 1 ถึง 2 สัปดาห์
การติดเชื้อแคนดิดาที่คอหอยส่วนปากที่ไม่ตอบสนอง/ดื้อต่อการรักษาด้วยยาเม็ดฟลูโคนาโซล (fluconazole): 100 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
คำแนะนำ
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา
การติดเชื้อแคนดิดาที่คอหอยส่วนปาก: 200 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาในการรักษาสำหรับการติดเชื้อที่ไม่ซับซ้อน: 7 ถึง 14 วัน
คำแนะนำ
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อแคนดิดาที่หลอดอาหาร (Esophageal Candidiasis)
คำแนะนำ
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
200 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 14 ถึง 21 วัน
คำแนะนำ
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี:
200 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 14 ถึง 21 วัน
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเชื้อราที่เล็บ (Onychomycosis) – เล็บเท้า
คำแนะนำ
การใช้งาน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเชื้อราที่เล็บ (Onychomycosis) – เล็บนิ้วมือ
การรักษาแบบกินยาเป็นช่วงๆ (Treatment pulse): 200 มก. รับประทานวันละสองครั้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์
คำแนะนำ
การใช้งาน เพื่อรักษาโรคเชื้อราที่เล็บนิ้วมือเนื่องจากเชื้อราในกลุ่มเดอร์แมโทไฟต์ (dermatophytes) อย่างทิเนียอันเกียม (tinea unguium) ในผู้ป่วยที่ไม่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคค็อกสิดิออยโดไมโคสิส (Coccidioidomycosis)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา: 200 มก. รับประทานวันละ 2 หรือ 3 ครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี:
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคสปอโรทริโคสิส (Sporotrichosis)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
การติดเชื้อที่ผิวหนังหรือต่อมน้ำเหลือง:
ระยะเวลาในการรักษา: 2 ถึง 4 สัปดาห์หลังจากที่แผลทั้งหมดหายไป (โดยปกติระยะเวลาโดยรวมคือ 3 ถึง 6 เดือน)
การติดเชื้อที่กระดูกและข้อ: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษาทั้งหมด: อย่างน้อย 12 เดือน
การติดเชื้อที่ปอดระดับรุนแรงน้อยกว่า: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา:อย่างน้อย 12 เดือน
การติดเชื้อที่เยื่อหุ่มสมอง การติดเชื้อที่ลุกลาม หรือการติดเชื้อที่ปอดระดับรุนแรงหรือถึงแก่ชีวิต (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษาทั้งหมด: อย่างน้อย 12 เดือน
เพื่อป้องกันการกำเริบของการติดเชื้อที่เยื่อหุ่มสมองหรือการติดเชื้อที่ลุกลาม (การป้องกันแบบทุติยภูมิ) สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์และผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอื่นๆ: 200 มก. รับประทานวันละครั้ง
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
การติดเชื้อที่ปอดระดับเบาถึงปานกลาง (ไม่ใช่ที่เยื่อหุ้มสมอง) ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 6 ถึง 12 เดือน
การรักษาเพื่อประคับประคอง (กดอาการ) และป้องกันโรคสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: อย่างน้อย 1 ปี
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อคริปโตค็อกคัส (Cryptococcal Meningitis) – ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี:
การรักษาร่วมกัน (Consolidation therapy): 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: อย่างน้อย 8 สัปดาห์
คำแนะนำ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอด (Vaginal Candidiasis)
การติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอด (Vulvovaginal candidiasis): 200 มก. รับประทานวันละสองครั้งเป็นเวลา 1 วัน
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอดที่ไม่ซับซ้อน: รับประทานวันละ 200 มก. เป็นเวลา 3 ถึง 7 วัน
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคไมโครสปอริดิโอซิส (Microsporidiosis)
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อที่ลุกลามเนื่องจากเชื้อเทรคิปเลอิสโทฟอร่า (Trachipleistophora) หรือเชื้อแอนคาลิเอีย (Anncaliia): รับประทานวันละ 400 มก.
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อราทั่วร่างกาย (Systemic Fungal Infection)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
การรักษาโดยยังไม่ทราบเชื้อก่อโรค (Empirical therapy): 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการติดเชื้อรา
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
ยาต้านเชื้อราเพื่อป้องกันสำหรับผู้ป่วยภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (neutropenia) เนื่องจากการทำเคมีบำบัด: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคเกลื้อน (Tinea Vesicolor)
งานวิจัย (n=36)
200 มก. รับประทานวันละครั้งเป็นเวลา 7 วัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคพาราค็อกสิดิออยโดไมโคสิส (Paracoccidioidomycosis)
200 มก. รับประทานวันละเป็นเวลา 6 เดือน
การปรับขนาดยาสำหรับไต
ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
การปรับขนาดยาสำหรับตับ
ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
การปรับขนาดยา
ผู้เชี่ยวชาญบบางรายแนะนำให้ปรับขนาดยาโดยขึ้นอยู่กับระดับของเซรั่มของยา และ/หรือปฏิกิรยาของยา
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคบลาสโตไมโคสิส (Blastomycosis)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับเด็ก:
การติดเชื้อระดับเบาถึงปานกลาง: 10 มก./กก. รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 400 มก./วัน
ระยะเวลาในการรักษา: 6 ถึง 12 เดือน
การติดเชื้อระดับปานกลางถึงรุนแรง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): 10 มก./กก. รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 400 มก./วัน
ระยะเวลาในการรักษาทั้งหมด: 12 เดือน
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคฮีสโตพลาสโมสิส (Histoplasmosis)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับเด็ก:
การติดเชื้อที่ปอดฉับพลัน: 5 ถึง 10 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 2 ครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 400 มก./วัน
การติดเชื้อแบบลุกลามที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): 5 ถึง 10 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 2 ครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 400 มก./วัน
ระยะเวลาในการรักษาทั้งหมด: 3 เดือน อาจจำเป็นต้องรักษานานกว่านี้สำหรับผู้ป่วยขั้นรุนแรง มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้ป่วยในกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดปฐมภูมิ (primary immunodeficiency syndromes)
ป้องกันการกำเริบ (การป้องกันแบบทุติยภูมิ): 5 มก./กก. รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./วัน
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สมาคมโรคติดเชื้อแห่ง สหรัฐอเมริกา สมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก (PIDS) และสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (AAP) สำหรับผู้ป่วยที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี
การติดเชื้อที่ปอดฉับพลันแบบปฐมภูมิ: 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน ตามด้วย 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./ครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 12 เดือน ระยะเวลา 12 สัปดาห์อาจเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันจากเซลล์ที่ใช้งานได้ (cellular immunity)
การติดเชื้อแบบลุกลามระดับเบา: 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน ตามด้วย 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./ครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 12 เดือน
การรักษาร่วมสำหรับการติดเชื้อแบบลุกลามระดับปานกลางถึงรุนแรง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน ตามด้วย 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./ครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 12 เดือน
การรักษาร่วมสำหรับการติดเชื้อที่ระบบประสาทส่วนกลาง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน ตามด้วย 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./ครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: อย่างน้อย 12 เดือนและจนกว่าความผิดปกติของน้ำในโพรงสมองจะเป็นปกติและไม่สามารถตรวจพบฮีสโตพลาสมาแอนติเจน
การป้องกันแบบทุติยภูมิ (รักษาเพื่อกดอาการ): : 5 ถึง 10 มก./กก. รับประทานวันละครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./ครั้ง
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อแบบลุกลามที่รุนแรงน้อยกว่า: 200 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน แล้วตามด้วย 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: อย่างน้อย 12 เดือน
การติดเชื้อแบบลุกลามที่รุนแรงปานกลางจนถึงรุนแรง (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): 200 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน แล้วตามด้วย 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษาทั้งหมด: อย่างน้อย 12 เดือน
อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่ยืนยันแล้ว (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): 200 มก. รับประทานวันละ 2 หรือ 3 ครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา:อย่างน้อย 12 เดือนและจนกว่าความผิดปกติของน้ำในโพรงสมองจะเป็นปกติ
การป้องกันแบบปฐมภูมิ:200 มก. รับประทานวันละครั้ง
การรักษาเพื่อกดอาการในระยะยาว (การป้องกันแบบทุติยภูมิ): 200 มก. รับประทานวันละครั้ง
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาเชื้อราในช่องปาก (Oral Thrush)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
การติดเชื้อแคนดิดาที่คอหอยส่วนปากสำหรับผู้ป่วยที่อายุ 5 ปีขึ้นไป: 2.5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สมาคมโรคติดเชื้อแห่ง สหรัฐอเมริกา สมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก และสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา สำหรับผู้ป่วยที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อแคนดิดาที่คอหอยส่วนปากและดื้อต่อยาฟลูโคนาโซล: 2.5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 400 มก./วัน
ระยะเวลาในการรักษา: 7 ถึง 14 วัน
การป้องกันแบบทุติยภูมิ: 2.5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อแคนดิดาที่คอหอยส่วนปาก (การรักษาช่วงแรก): 200 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: 7 ถึง 14 วัน
การป้องกันแบบทุติยภูมิ (รักษาเพื่อกดอาการ): 200 มก. รับประทานวันละครั้ง
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อแคนดิดาที่หลอดอาหาร (Esophageal Candidiasis)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา:
5 ปีขึ้นไป: 2.5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สมาคมโรคติดเชื้อแห่ง สหรัฐอเมริกา สมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก และสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา สำหรับผู้ป่วยที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี: 2.5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: อย่างน้อย 3 สัปดาห์และอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากแก้อาการได้แล้ว
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี:
ระยะเวลาในการรักษา: 14 ถึง 21 วัน
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคค็อกสิดิออยโดไมโคสิส (Coccidioidomycosis)
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สมาคมโรคติดเชื้อแห่ง สหรัฐอเมริกา สมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก และสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา สำหรับผู้ป่วยที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อที่ไม่ใช่ที่เยื่อหุ้มสมองระดับเบาถึงปานกลาง เช่นโรคปอมบวมเฉพาะที่: 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 3 วันตามด้วย 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./ครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: ขึ้นอยู่กับการตอบสนองทางการแพทย์
รักษาเพื่อกดอาการตลอดชีพ (การป้องกันแบบทุติยภูมิ): 2 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./ครั้ง
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อระดับเบา เช่นโรคปอมบวมเฉพาะที่ (focal pneumonia): 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
การติดเชื้อที่ไม่ใช่ที่เยื่อหุ้มสมองระดับรุนแรง (ภายในปอดแบบลุกลามหรือผู้ป่วยหนักที่ป่วยเป็นโรคแบบลุกลามที่ทางเดินหายใจนอก (extrathoracic disseminated disease) – ระยะเฉียบพลัน: 400 มก. รับประทานวันละครั้ง
การติดเชื้อภายในเยื่อหุ้มสมอง: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
รักษาเพื่อกดอาการเรื้อรัง (การป้องกันแบบทุติยภูมิ): 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อคริปโตค็อกคัส (Cryptococcal Meningitis) – ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สมาคมโรคติดเชื้อแห่ง สหรัฐอเมริกา สมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก และสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา สำหรับผู้ป่วยที่เปิดรับเชื้อเอชไอวีและเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การรักษาร่วมกันสำหรับการติดเชื้อที่ระบบประสาทส่วนกลาง: 2.5 ถึง 5 มก./กก. รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 3 วัน ตามด้วย 5 ถึง 10 มก./กก./วัน แบ่งรับประทาน 1 หรือ 2 ครั้ง
ขนาดยาสูงสุด:
ระยะเวลาในการรักษา: อย่างน้อย 8 สัปดาห์
คำแนะนำ:
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การรักษาร่วมกัน: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ระยะเวลาในการรักษา: อย่างน้อย 8 สัปดาห์
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอด (Vaginal Candidiasis)
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อแคนดิดาในช่องคลอดที่ไม่ซับซ้อน: รับประทานวันละ 200 มก. เป็นเวลา 3 ถึง 7 วัน
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคไมโครสปอริดิโอซิส (Microsporidiosis)
คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับวัยรุ่นที่ติดเชื้อเอชไอวี:
การติดเชื้อที่ลุกลามเนื่องจากเชื้อเทรคิปเลอิสโทฟอร่าหรือเชื้อแอนคาลิเอีย: รับประทานวันละ 400 มก.
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคสปอโรทริโคสิส (Sporotrichosis)
คำแนะนำจากสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกาสำหรับเด็ก:
การติดเชื้อที่ผิวหนังหรือต่อมน้ำเหลือง: รับประทานวันละ 6 ถึง 10 มก./กก.
การติดเชื้อที่ลุกลาม (หลังจากที่เริ่มต้นรักษาด้วยการฉีดยาแอมโฟเทอริซิน บี เข้าหลอดเลือดดำ): รับประทานวันละ 6 ถึง 10 มก./กก.
คำแนะนำ:
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis)
การรักษาอย่างต่อเนื่อง:
การรักษาเป็นช่วงๆ:
คำแนะนำ:
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย