โรคตับ

ตับ คืออวัยวะสำคัญชิ้นหนึ่งในร่างกาย เพราะมีหน้าที่หลายอย่างตั้งแต่การสังเคราะห์โปรตีน ผลิตสารเคมีต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการย่อยอาหาร รวมไปถึงช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย หากเกิดปัญหากับตับก็อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานทั่วทั้งร่างกายได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรคตับ ประเภทต่าง ๆ ตลอดจนถึงการดูแลรักษาสุขภาพตับ ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคตับ

โรคตับแข็ง

โรคตับแข็ง (Cirrhosis) เกิดจากการที่ตับอักเสบทำให้เนื้อเยื่อตับเป็นพังผืด เกิดความเสียหายและไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดการขัดขวางกระแสเลือดภายในตับบางส่วน โดยมีปัจจัยเสี่ยงคือพันธุกรรม การดื่มแอลกอฮอล์ และโรคอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกิน [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ โรคตับแข็ง คืออะไร โรคตับแข็ง (Cirrhosis) เป็นภาวะที่ตับได้รับความเสียหายและไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม มักเกิดขึ้นเมื่อตับมีการอักเสบทำให้เนื้อเยื่อตับเป็นพังผืด และไปขัดขวางกระแสเลือดภายในตับเป็นบางส่วน ทั้งนี้ ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดภายในร่างกาย ทำหน้าที่สำคัญหลายประการ โดยหน้าที่หลักของตับ ได้แก่ ดูดซึมและสะสมสารอาหารที่จำเป็นในระหว่างการย่อยอาหาร ได้แก่ โปรตีน น้ำตาล และไขมัน แล้วลำเลียงสารอาหารเหล่านี้ไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย สังเคราะห์โปรตีนขึ้นใหม่เพื่อสร้างสารที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และสารภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายและต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ สังเคราะห์น้ำดีเพื่อสลายไขมันในอาหารในระหว่างย่อยอาหารเพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมไขมัน คอเลสเตอรอล และวิตามินที่ละลายในไขมัน กรองเลือดเพื่อกำจัดของเสีย เช่น สารพิษต่าง ๆ ไขมันส่วนเกิน และคอเลสเตอรอล ของเสียดังกล่าวก่อตัวขึ้นเป็นอุจจาระแล้วปลดปล่อยออกจากร่างกายในระหว่างการขับถ่าย โดยปกติแล้ว ตับสามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายได้ ยกเว้นในกรณีที่เกิดความเสียหายรุนแรงเกินไปเป็นเวลานาน ส่งผลให้เนื้อเยื่อตับกลายเป็นเนื้อเยื่อแผลเป็น ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพังผืด (fibrosis) การเกิดพังผืดของตับเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เมื่อเวลาผ่านไปก็จะก่อให้เกิดตับแข็งในที่สุด โรคตับแข็งในระยะเริ่มแรก ตับยังคงทำงานและเมื่อเข้าสู่สู่ระยะต่อไปตับอาจล้มเหลวได้ ควรเข้ารับการตรวจทันทีเพื่อป้องกันตับล้มเหลว (liver failure) โรคตับแข็ง พบได้บ่อยเพียงใด โรคตับแข็งพบได้ทั่วไป โดยมักพบอยู่ในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังระยะสุดท้าย (chronic liver disease) […]

สำรวจ โรคตับ

โรคตับ

เนื้องอกตับ อาการ สาเหตุ และการรักษา

เนื้องอกตับ เป็นก้อนเนื้อในตับที่ไม่ใช่มะเร็งและไม่เป็นอันตราย ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากพันธุกรรม ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือความซับซ้อนของเส้นเลือดในตับ เนื้องอกตับมักไม่มีอาการที่ชัดเจน ดังนั้ จึงควรหมั่นสังเกตและดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติเกิดขึ้นควรเข้าพบคุณหมอ เพื่อเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยอาการ [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ เนื้องอกตับ คืออะไร เนื้องอกตับชนิดฮีแมงจิโอมา (Liver Hemangioma) เป็นก้อนเนื้อในตับที่ไม่ใช่มะเร็ง และไม่เป็นอันตราย โดยเนื้องอกตับอาจเกิดจากความซับซ้อนของเส้นเลือดในตับ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักตรวจพบเนื้องอกที่ตับระหว่างการตรวจร่างกายหรือการรักษาโรคอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกที่ตับมักไม่ค่อยมีสัญญาณบ่งชี้หรืออาการที่ชัดเจน และไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา แม้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า เนื้องอกในตับที่ไม่ได้รับการรักษาจะสามารถก่อให้เกิดมะเร็งตับได้ แต่การตรวจพบเนื้องอกในตับก็อาจทำให้เกิดความกังวลใจได้ ดังนั้น จึงควรหมั่นสังเกตตัวเองและดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาคุณหมอ เนื้องอกตับพบบ่อยเพียงใด เนื้องอกที่ตับเป็นเนื้องอกในบริเวณตับที่ไม่เป็นอันตรายที่พบได้มากที่สุด โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการ อาการของเนื้องอกตับ ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ เนื้องอกตับไม่มีสัญญาณบ่งชี้หรืออาการใด ๆ แต่อาจมีสัญญาณบ่งชี้และอาการบางอย่างที่สัมพันธ์กับการเกิดเนื้องอกที่ตับ ดังนี้ มีอาการปวดที่ช่องท้องด้านขวาบน รู้สึกอิ่มแม้รับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย คลื่นไส้ อาเจียน อย่างไรก็ดี อาการเหล่านี้ไม่ชัดเจนและอาจเกิดจากโรคอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังอาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้นปรากฏได้อีกด้วย ดังนั้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ โปรดปรึกษาคุณหมอ ควรไปหาคุณหมอเมื่อไหร่ หากมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาคุณหมอ เนื่องจากร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของตัวเอง สาเหตุ สาเหตุของเนื้องอกตับ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดเกี่ยวกับการที่เส้นเลือดเกาะตัวกันและทำให้เกิดเนื้องอกที่ตับ อย่างไรก็ตาม คุณหมอคาดว่าอาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม […]


โรคตับ

ไขมันพอกตับ สาเหตุ อาการ การรักษาและป้องกัน

ไขมันพอกตับ (Fatty liver) คือ ภาวะการก่อตัวของไขมันในตับ หากในตับมีไขมันมันมากกว่าร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักตับ จะถือว่ามีภาวะไขมันพอกตับ ภาวะนี้พบได้ทั่วไป และมักไม่แสดงอาการให้สังเกตเห็นได้ง่าย อย่างไรก็ตาม สามารถรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม และไขมันพอกตับมักไม่ทำให้ตับเสียหายถาวร คำจำกัดความไขมันพอกตับ คืออะไร ไขมันพอกตับ (Fatty liver) หรือไขมันจับตับ (Steatosis) คือ ภาวะการก่อตัวของไขมันในตับ แม้ว่าปกติตับจะมีไขมันอยู่แล้ว แต่หากมีปริมาณไขมันมากกว่าร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักตับ จะถือว่ามีภาวะไขมันพอกตับ ภาวะนี้สามารถรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ไขมันพอกตับมักไม่มีอาการและมักไม่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างถาวร ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในร่างกาย มีหน้าที่จัดการทุกสิ่งที่รับประทานหรือดื่มเข้าไป รวมทั้งช่วยกรองสารพิษตกค้างจากกระแสเลือด กระบวนการดังกล่าวจะถูกขัดขวางหากมีไขมันมากเกินไป ตับมักซ่อมแซมตัวเองโดยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเซลล์เดิมเสียหาย หากตับเกิดความเสียหายซ้ำ ๆ จะเกิดพังผืดถาวรขึ้น เรียกว่าตับแข็ง (cirrhosis) ไขมันพอกตับ พบได้บ่อยแค่ไหน ไขมันในตับพบได้ทั่วไป ผู้ที่มีไขมันในตับมากเกินไปมักไม่มีอาการอักเสบหรือเกิดความเสียหายใด ๆ ที่ทำให้สังเกตได้ อย่างไรก็ดี โรคนี้สามารถจัดการได้โดยลดความเสี่ยง อาการอาการของไขมันพอกตับ ไขมันพอกตับมักไม่มีอาการที่สัมพันธ์กัน อาจมีอาการอ่อนเพลีย หรือปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ ตับอาจโตขึ้นเล็กน้อย โดยคุณหมอสามารถตรวจพบได้ในระหว่างการตรวจร่างกาย ไขมันส่วนเกินสามารถทำให้ตับอักเสบ จนส่งผลให้เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดท้อง อ่อนเพลีย และมึนงง สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น หากมีข้อสงสัยใด ๆ […]


โรคตับ

ไวรัสตับอักเสบ ซี (Hepatitis C)

ไวรัสตับอักเสบ ซี  (Hepatitis C) คือการที่ตับโดยไวรัสตับอักเสบ ซี สามารถนำไปสู่การอักเสบในตับ เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบที่พบได้ทั่วไป และถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในไวรัสที่อันตรายที่สุด คำจำกัดความ ไวรัสตับอักเสบ ซี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบ ซี (Hepatitis C) หมายถึง สภาวะของการที่ตับถูกทำลายโดยไวรัสตับอักเสบ ซี (hepatitis C virus) ซึ่งจะนำไปสู่การอักเสบในตับ และทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนี้ ไวรัสตับอักเสบซีเป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบที่พบได้ทั่วไป และจัดว่าเป็นหนึ่งในไวรัสที่อันตรายที่สุด โดยปกติ ไวรัสตับอักเสบซีนั้นไม่แสดงอาการ คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อนี้จนกระทั่งมีสัญญาณของตับเสียหายในหลายสิบปีต่อมา และจะทราบว่าตัวเองมีเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเมื่อตรวจร่างกาย ดังนั้น จึงควรตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี ไวรัสตับอักเสบซีพบได้บ่อยได้แค่ไหน โรคนี้เป็นโรคที่พบได้ทั่วไป สามารถเกิดได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย โรคนี้เป็นโรคที่พบได้มากที่สุดจากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลก (WHO) อาการ อาการของไวรัสตับอักเสบซีเป็นอย่างไร หากเป็นไวรัสตับอักเสบซีในระดับเบา ร่างกายจะไม่แสดงอาการอะไรจนกระทั่งมันเปลี่ยนไปเป็นการติดเชื้อที่ร้ายแรงมากขึ้น สัญญาณและอาการของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีที่พบได้ในช่วงแรกคือ เหนื่อยล้า คลื่นไส้ หรือไม่อยากอาหาร ปวดท้อง ปัสสาวะสีเข้ม ดวงตาและผิวหนังเป็นสีเหลือง หรือดีซ่าน มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ หลังจากที่การติดเชื้อรุนแรงมากยิ่งขึ้น สัญญาณและอาการอาจจะมี เลือดออกและมีรอยช้ำได้ง่าย คันที่ผิวหนัง มีของเหลวสะสมในช่องท้อง หรือท้องมาน (Ascitis) ขาบวม น้ำหนักลด สับสน […]


โรคตับ

ไวรัสตับอักเสบ (Viral Hepatitis)

ไวรัสตับอักเสบ (Viral Hepatitis) เป็นอาการติดเชื้อที่ตับ ทำให้เกิดแผลเป็นเรียกว่า ตับแข็ง อาจทำให้เป็นมะเร็งตับ ตับวาย หรือเสียชีวิตได้ คำจำกัดความไวรัสตับอักเสบ คืออะไร ไวรัสตับอักเสบ (Viral Hepatitis) เป็นอาการที่ตับติดเชื้อไวรัส ซึ่งเกิดขึ้นเพราะเชื้อไวรัสตับอักเสบ (Hepatitis Virus) การอักเสบเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันสัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกปลอมหรืออันตราย เช่น ไวรัส ที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งในร่างกาย จึงส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมาในบริเวณนั้นเพื่อปกป้องร่างกาย อาการนี้ทำให้เกิดรอยแดง บวมหรือเจ็บในบางครั้ง เชื้อไวรัสตับอักเสบจะทำลายตับ และทำให้เกิดแผลเป็นในตับ เรียกว่าตับแข็ง โดยอาการตับแข็งอาจทำให้เป็นมะเร็งตับ ตับวาย หรือเสียชีวิตได้ ตับทำหน้าที่เปลี่ยนอาหารที่คุณรับประทานให้เป็นพลังงาน กำจัดแอลกอฮอล์และของเสียจากเลือด ช่วยกระเพาะอาหารและลำไส้ในการย่อยอาหาร รวมถึงสร้างโปรตีนที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ เพื่อควบคุมและหยุดการไหลของเลือดด้วย ไวรัสตับอักเสบแบ่งได้เป็นหลายชนิด คือ ไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ดี และอี ไวรัสเหล่านี้จะมีวิธีการถ่ายทอดเชื้อที่แตกต่างกัน ไวรัสตับอักเสบพบได้บ่อยแค่ไหน โรคไวรัสตับอักเสบ เป็นโรคที่พบได้บ่อย ผู้คนในวัยใดก็สามารถป่วยเป็นโรคนี้ได้ โรคนี้อาจควบคุมได้โดยการลดปัจจัยเสี่ยง ไวรัสตับอักเสบเอ ส่งผลต่อผู้หญิงและผู้ชายในทำนองเดียวกัน ไวรัสตับอักเสบบี จะส่งผลต่อผู้หญิงต่างไปจากผู้ชาย ส่วนไวรัสตับอักเสบซี จะส่งผลต่อผู้หญิงต่างไปจากผู้ชายเช่นกัน โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการอาการของ โรคไวรัสตับอักเสบ อาการของโรคไวรัสตับอักเสบแต่ละชนิดคล้ายคลึงกัน อาการเหล่านี้ได้แก่ มีไข้ต่ำๆ (อุณหภูมิระหว่าง 37.5-38.3 องศาเซลเซียส) เหนื่อยล้า เบื่ออาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน อาเจียน ปวดท้อง ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระมีสีเหมือนดินเหนียว ปวดข้อต่อ ดีซ่าน […]


โรคตับ

ตับอักเสบ เอ (Hepatitis A)

ตับอักเสบ เอ (Hepatitis A) เป็นอาการติดเชื้อทางตับที่มีโอกาสติดต่อได้สูง ก่อให้เกิดการอักเสบและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของตับ คำจำกัดความตับอักเสบ เอ คืออะไร ไวรัสตับอักเสบ เอ (Hepatitis A) เป็นอาการติดเชื้อทางตับ ที่มีสาเหตุมาจากไวรัสตับอักเสบ เอ เป็นไวรัสที่มีโอกาสติดต่อสูง และเป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบประเภทหนึ่งในไวรัสหลายประเภท ที่ก่อให้เกิดการอักเสบและส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของตับ หลายคนหายจากโรคนี้ได้ใน 2 ถึง 6 เดือน โดยไม่มีปัญหาสุขภาพรุนแรงใดๆ แต่ในบางกรณีตับอักเสบ เอ สามารถนำไปสู่อาการแทรกซ้อนของโรคหัวใจล้มเหลวได้ ตับอักเสบ เอพบได้บ่อยแค่ไหน ผู้ป่วยตับอักเสบ เอ มักจะเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตหรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ หรือเดินทางไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสตับอักเสบ เอ เพราะเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย ผ่านทางการกินดื่มอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ คุณสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นโรคนี้ได้ โดยลดปัจจัยเสี่ยงของคุณ โปรดปรึกษากับหมอของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการอาการของตับอักเสบ เอ อย่างแรก คุณต้องเข้าใจว่าไม่ใช้ทุกคนที่จะมีอาการนี้ ปกติแล้ว อาการมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนแรกหลังการติดเชื้อ ได้แก่ ดีซ่าน อุจจาระมีสีซีดหรือสีเทา ปัสสาวะสีเข้ม คันไปทั่วร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีอาการอื่นๆ ที่คล้ายไข้หวัด ได้แก่ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ต่ำ เจ็บที่ช่องท้อง อาจมีอาการบางประเภทที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ข้างบน ถ้าคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาหมอของคุณ ควรไปพบหมอเมื่อใด นัดหมายกับหมอของคุณ หากคุณมีสัญญาณหรืออาการของตับอักเสบ เอ เกิดขึ้น หากคุณสัมผัสกับตับอักเสบ เอ การได้รับวัคซีนตับอักเสบ เอ หรือการบำบัดระบบภูมิคุ้มกันอิมมูโนโกลบูลิน (immunoglobulin […]


โรคตับ

ตับอักเสบ บี (Hepatitis B)

รู้เรื่องเบื้องต้นตับอักเสบ บี คืออะไร ตับอักเสบ บี (Hepatitis B) เป็นโรคติดเชื้อทางตับ ที่มีสาเหตุมาจากไวรัสตับอักเสบ บี (HBV) เป็นหนึ่งในไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อตับ ตับอักเสบ บี มี 2 รูปแบบ คือ โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ชนิดฉับพลัน เป็นโรคระยะสั้นที่เกิดขึ้นภายใน 6 เดือนแรก หลังจากที่มีการสัมผัสกับไวรัสตับอักเสบ บี การติดเชื้ออย่างฉับพลัน สามารถนำไปสู่อาการติดเชื้อเรื้อรัง–แต่ก็ไม่เสมอไป โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ชนิดเรื้อรัง เป็นโรคติดเชื้อระยะยาวที่เกิดขึ้น เมื่อยังมีไวรัสหลงเหลืออยู่ในร่างกาย พบได้บ่อยแค่ไหน โรคฉับพลันที่มาพร้อมกับอาการ พบได้บ่อยในหมู่ผู้ใหญ่ ขณะที่การติดเชื้อเรื้อรัง มักพบได้บ่อยในหมู่เด็กทารกและเด็กเล็กมากกว่าผู้ใหญ่ อ้างอิงจากสถิติขององค์กรอนามัยโลก ประชากรโลกจำนวน 2 พันล้านคนป่วยเป็นโรคตับอักเสบ บี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชากรจำนวน 250 ล้านคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี เรื้อรัง พบว่าอยู่ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก รู้จักอาการอาการของตับอักเสบ บี ตับอักเสบ บี ถือเป็นโรคฆาตกรเงียบ เพราะหลายคน ไม่แสดงอาการใดๆ ดังนั้น โรคจึงมักจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ทันสังเกตได้เป็นเวลาหลายปี อาการแรกๆ อาจได้แก่ เกิดผื่น เจ็บกระดูกข้อต่อ อ่อนเพลีย ดีซ่าน อาการที่ตามมา […]


โรคตับ

ตับแข็งที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มสุรา (Nonalcoholic Cirrhosis)

คำจำกัดความโรค ตับแข็งที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มสุรา คืออะไร โรคตับแข็ง (Cirrhosis) คือ ระยะสุดท้ายของการเกิดแผล (พังผืด) ที่ตับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคและอาการต่างๆ ของตับ เช่น โรคตับอักเสบ (hepatitis) และโรคพิษสุราเรื้อรัง (chronic alcoholism) ตับมีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง รวมไปถึงการล้างพิษที่อันตรายในร่างกาย ทำความสะอาดเลือด และสร้างสารอาหารที่สำคัญ โรคตับแข็งอาจเกิดได้จากการตอบสนองต่ออาการบาดเจ็บที่ตับ ทุกๆ ครั้งที่เกิดอาการบาดเจ็บ ตับของคุณพยายามจะซ่อมตัวของมันเอง ทำให้เกิดเนื้อเยื่อแผลเป็น และยิ่งอาการของโรคตับแข็งยิ่งมีมากเท่าใด แผลเป็นก็จะยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นทำให้ตับยากที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคตับแข็งมักจะเป็นคนที่ดื่มหนัก แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมด แม้แอลกอฮอล์จะเป็นสาเหตุหลักในการเกิดโรคตับแข็ง แต่ผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังมีโอกาสที่จะเกิดโรคตับแข็งได้ แผลเป็นบริเวณตับที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากแอลกอฮอล์จะเรียกว่า โรคตับแข็งที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มสุรา (Nonalcoholic Cirrhosis) โรค ตับแข็งที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มสุรา พบได้บ่อยได้แค่ไหน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดปรึกษาแพทย์ อาการอาการของโรคตับแข็งที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มสุราเป็นอย่างไร โรคตับแข็งนั้นมักจะไม่มีสัญญาณหรืออาการใดๆ จนกระทั่งตับได้รับความเสียหายแล้ว อาการที่อาจจะเกิดขึ้นมีดังนี้ มีอาการเหนื่อยล้า มีเลือดออกง่าย มีรอยช้ำง่าย มีอาการคันที่ผิว สีผิวหรือดวงตาเป็นสีเหลือง หรืออาการของโรคดีซ่าน (jaundice) ท้องมาน มีน้ำในช่องท้อง (ascites) ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้ มีอาการบวมที่ขา น้ำหนักลด มีอาการมึนงง เซื่องซึม และพูดไม่ชัด เป็นอาการทางสมองเนื่องจากโรคตับ (hepatic encephalopathy) มองเห็นเส้นเลือดบนผิวหนังได้ชัดเจน มีรอยปื้นแดงที่บริเวณฝ่ามือ มีอาการตีบของอัณฑะในผู้ชาย หน้าอกมีการขยายใหญ่ขึ้นในผู้ชาย อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาหมอของคุณ ควรไปพบหมอเมื่อไร ถ้าคุณมีอาการใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษากับคุณหมอ เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดจึงควรพูดคุยกับหมอเพื่อหาแนวทางในการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ สาเหตุสาเหตุของโรค […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม