น้ำคร่ำน้อย คือ ภาวะที่ระดับของน้ำคร่ำภายในครรภ์ต่ำเกินไป จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ และเพิ่มความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด ปัญหาการคลอดยาก การผ่าคลอด หรืออาจทำให้ทารกเสียชีวิตได้ ดังนั้น คุณแม่จึงควรคอยสังเกตอาการของภาวะน้ำคร่ำน้อย และเข้ารับการรักษาในทันทีเพื่อป้องกันอันตรายต่อสุขภาพของทารกในครรภ์
[embed-health-tool-due-date]
น้ำคร่ำน้อย คือ อะไร
ภาวะน้ำคร่ำน้อย เป็นภาวะที่เกิดขึ้น เมื่อระดับน้ำคร่ำ มีน้อยเกินไปในช่วงตั้งครรภ์ น้ำคร่ำมีบทบาทสำคัญ ในการรักษากลไกชีวิตของทารกที่อยู่ในครรภ์ น้ำคร่ำปกป้องและช่วยทารกในด้านพัฒนาการของอวัยวะต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อ แขนขา ปอดและระบบขับถ่าย ของเหลวชนิดนี้ถูกผลิตขึ้นทันทีหลังจากกถุงน้ำคร่ำเริ่มสร้างขึ้น ประมาณ 12 วันหลังจากมีการปฏิสนธิ ในช่วงแรก น้ำคร่ำถูกสร้างจากน้ำที่อยู่ในร่างกายของผู้เป็นแม่ จากนั้น ประมาณสัปดาห์ที่ 20 ปัสสาวะของทารกจะกลายเป็นสารหลักของน้ำคร่ำ ประมาณร้อยละ 8 ของผู้ที่ตั้งครรภ์ สามารถมีปริมาณน้ำคร่ำน้อยได้ และร้อยละ 4 มักได้รับการวินิจฉัยว่า มีภาวะน้ำคร่ำน้อยกว่าปกติ ภาวะนี้สามารถเกิดได้ทุกเมื่อขณะตั้งครรภ์ แต่ช่วงเวลาที่เกิดโดยส่วนใหญ่ อยู่ระหว่างช่วงที่ 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์
ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะน้ำคร่ำน้อย
- ปัจจัยแรกคือ การพิการแต่กำเนิด หมายถึง ทารกมีความผิดปกติทางด้านเจริญเติบโตของไต หรือทางเดินปัสสาวะ จึงส่งผลให้มีการผลิตปัสสาวะได้น้อย ทำให้ระดับน้ำคร่ำน้อยตามไปด้วย
- ความผิดปกติของรก เป็นสาเหตุที่สองในการเกิดภาวะน้ำคร่ำน้อย การที่เลือดและสารอาหาร ไม่สามารถส่งไปยังทารกผ่านรกได้นั้น ทำให้การไหลเวียนของของเหลวในร่างกายของทารกหยุดลง
- ประการที่สาม คือถุงน้ำคร่ำรั่วหรือแตก การรั่วไหลของน้ำคร่ำจากถุงน้ำคร่ำ ทำให้ปริมาณของน้ำคร่ำน้อยลง ซึ่งเกิดจากสาเหตุการฉีกขาดของเยื่อบุถุงน้ำคร่ำ อาการถุงน้ำคร่ำแตกก่อนเจ็บท้องคลอด ส่งผลต่อปริมาณน้ำคร่ำที่ลดลงได้เช่นกัน
- สาเหตุต่อมาคือ การตั้งครรภ์เกินกำหนด สามารถทำให้เกิดภาวะน้ำคร่ำน้อยได้ ผู้ที่ตั้งครรภ์เกิดกำหนด คือเกินกว่า 42 สัปดาห์ อาจประสบกับภาวะปริมาณน้ำคร่ำน้อย ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของรกลดลง
- สาเหตุประการสุดท้าย คือภาวะแทรกซ้อนของผู้เป็นแม่ เช่น ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษ เบาหวาน และภาวะเลือดมีออกซิเจนน้อย ล้วนเป็นสาเหตุการเกิดภาวะน้ำคร่ำน้อยได้
ความเสี่ยงการเกิดภาวะน้ำคร่ำน้อย ขึ้นอยู่กับลักษณะการตั้งครรภ์ ปริมาณน้ำคร่ำเป็นสิ่งสำคัญในการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ แขนขา ปอด และระบบย่อยอาหารของทารก โดยทั่วไป ทารกจะเริ่มหายใจและกลืนน้ำคร่ำเพื่อช่วยในการเติบโตของปอด ในช่วงอายุครรภ์ในไตรมาสที่สอง นอกจากนี้ น้ำคร่ำยังเป็นพื้นที่ที่ทำให้ทารกได้เคลื่อนไหวในครรภ์อีกด้วย