เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ธาตุเหล็ก วิตามินเค คนท้องสามารถรับประทานได้เพราะมีสารอาหารที่ดีต่อตนเองและทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตาม คนท้องควรรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยความระมัดระวัง รับประทานแต่พอดี เพราะหากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้
[embed-health-tool-pregnancy-weight-gain]
ประโยชน์ของเม็ดะม่วงหิมพานต์ต่อการตั้งครรภ์
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อาจมีประโยชน์ต่อคนท้อง ดังต่อไปนี้
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมด้วยโปรตีนและไขมันดี
เมื่อเปรียบเทียบกับถั่วชนิดอื่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์จัดเป็นถั่วที่มีโปรตีนและไขมันดีต่อทารกมากที่สุด อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรต และใยอาหารที่ช่วยในเรื่องการขับถ่ายสะดวก นอกจากนั้น การรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังช่วยลดระดับไขมันเลว ซึ่งอาจมีส่วนช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับหัวใจได้อีกด้วย
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง หญิงตั้งครรภ์ต้องการปริมาณธาตุเหล็ก 27 มิลลิกรัมต่อวัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ออนซ์ ประกอบด้วยธาตุเหล็ก 1.7 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงเหมาะสำหรับการบริโภคในหญิงตั้งครรภ์
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยวิตามินเค
วิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ปริมาณที่แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานอยู่ที่ 90 ไมโครกรัมต่อวัน หากรับประทานได้ตามปริมาณที่กำหนด หญิงตั้งครรภ์เสี่ยงน้อยต่อภาวะเลือดออกซึ่งอาจเกิดขึ้นระหว่างการคลอด
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นแหล่งที่ดีของทองแดง
ทารกในครรภ์จำเป็นต้องได้รับธาตุทองแดงสำหรับการสร้างเส้นเลือด ระบบประสาท และพัฒนาการด้านหัวใจ ปริมาณที่หญิงตั้งครรภ์ควรบริโภคต่อวันคือ 1 มิลลิกรัม โดยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ออนซ์ ให้แร่ธาตุทองแดงถึง 0.6 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระมัดระวังการบริโภคทองแดง เพราะหากได้รับทองแดงมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง เสี่ยงโรคหัวใจ และปวดศีรษะได้
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบ
แมกนีเซียม เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียม จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อของหญิงตั้งครรภ์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง ความตึงเครียด อ่อนเพลีย และไมเกรนได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการบริโภคเม็ดมะม่วงหิมพานต์
- ยูรุชิออล (Urushiol) ที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาจทำให้เกิดผื่นคันที่ผิวหนัง ซึ่งภาวะนี้อาจส่งผลต่อการนอนหลับของหญิงตั้งครรภ์ได้
- หญิงตั้งครรภ์ควรควบคุมปริมาณการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เนื่องจากหากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
- ออกซาเลต (Oxalate) ที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาจเพิ่มปริมาณของเหลวในร่างกาย และนำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงทางสุขภาพครรภ์ก่อนคลอด
- เลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่มีรสธรรมชาติ หากชนิดที่เติมเกลือ อาจมีปริมาณโซเดียมสูง อาจกระทบต่อสุขภาพครรภ์ได้
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการเลือกรับประทานอาหารทุกประเภทในขณะตั้งครรภ์ และควรรับประทานให้หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาคุณหมอถึงโภชนาการสำหรับหญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะ