คุณแม่ที่เพิ่งผ่านการผ่าคลอด อาจประสบปัญหาแผลผ่าคลอดปริ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อ เนื้อตาย การดูแลรักษาแผลได้ไม่ดี แผลถูกกระทบกระเทือนหรืออาจเกิดจากภาวะสุขภาพที่ส่งผลต่อการสมานตัวของแผล เมื่อ แผลผ่าคลอดปริ อาจทำให้มีอาการเจ็บปวด เลือดออกมาก มีไข้สูง มีหนอง หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาทันที
[embed-health-tool-ovulation]
สาเหตุของแผลผ่าคลอดปริ
แผลผ่าคลอดปริ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
การดูแลรักษาแผลได้ไม่ดี
การดูแลรักษาแผลอาจช่วยให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น แต่สำหรับบางคนอาจดูแลรักษาแผลได้ไม่ดีพอหรืออาจมีภาวะสุขภาพบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของบาดแผล ทำให้แผลหายช้าลงจนเกิดแผลปริ
แผลถูกกระทบกระเทือน
หลังการผ่าคลอดคุณแม่ควรพักฟื้นและพักผ่อนให้เพียงพอและดูแลตนเอง เพื่อให้แผลสมานตัวดีและไม่เกิดปัญหาแผลปริ หลีกเลี่ยงการเกิดแรงกดทับหรือแรงดันที่ท้องมากเกินไป เช่น การอุ้มเด็กที่มีน้ำหนักมาก การยกของหนัก การลุกขึ้นจากท่านั่งยอง ๆ การเริ่มออกกำลังกายเร็วเกินไป ซึ่งอาจส่งผลทำให้แผลเปิดหรือฉีกขาดได้
การติดเชื้อ
แผลติดเชื้อจะทำให้การสมานตัวของแผลช้าลงหรืออาจทำให้เนื้อเยื่อตายจนแผลไม่สามารถสมานตัวต่อได้
ในบางกรณีรูปแบบการผ่าตัดคลอดอาจเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดแผลปริได้เช่นกัน โดยการผ่าคลอดอาจแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
- ผ่าตัดแนวตั้ง คือ แนวแผลจากใต้สะดือไปจนถึงไรขนอวัยวะเพศ
- ผ่าตัดแนวนอน คือ แนวแผลตามขวางบริเวณเหนือไรขนอวัยวะเพศ
ซึ่งการผ่าตัดคลอดแบบแนวนอนอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลปริน้อยกว่า การดูแลรักษาง่ายกว่า ซึ่งอาจทำให้แผลสมานตัวได้เร็ว
อาการเมื่อแผลผ่าคลอดปริ
ควรพบคุณหมอทันทีหากมีสัญญาณของแผลปริ ดังนี้
- มีไข้สูง
- มีเลือดออกบริเวณแผลและช่องคลอด
- อาการปวดรุนแรง รอบแผลแดง หรือมีอาการบวมรอบแผล
- ลิ่มเลือดในช่องคลอด ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
- บริเวณแผลมีกลิ่นเหม็น มีหนอง
- เจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ
การดูแลแผลผ่าคลอดปริ
แผลผ่าคลอดปริอาจต้องมีการดูแลเป็นพิเศษเพื่อทำให้แผลหายสนิทและป้องกันแผลปริซ้ำ ดังนี้
- การบรรเทาอาการปวด ด้วยการรับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด รับประทานยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ยาอะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) หรือยาอื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการปวด
- เข้าพบคุณหมอเพื่อประเมินแผลที่ปริ ว่าควรได้รับยาฆ่าเชื้อเป็นแบบรับประทาน หรือมีภาวะรุนแรงถึงขั้นต้องให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด
- ควรทำความสะอาดแผลทุกวันจนกว่าแผลจะแห้ง
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือสิ่งที่ทำให้เกิดแรงดันและแรงกด เช่น การยืนนานเกินไป การออกกำลังกายหนักเกินไป การสวมเสื้อผ้าคับแน่น การลุกขึ้นจากท่านั่งยอง ๆ เนื่องจาก พฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้อาจทำให้เกิดแรงดันในมดลูกและแผลผ่าคลอดจนอาจทำให้แผลผ่าคลอดปริได้
- หลังการผ่าคลอดหรือหลังเกิดแผลปริ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และการกระทบกระเทือนบริเวณแผลที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบและแผลปริได้
- หลีกเลี่ยงการขัดถู การกดบริเวณแผล ทั้งยังควรลุกและนั่งอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจนกระทบกระเทือนแผล