วิธีนับรอบเดือน ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ ด้วยการคำนวณวันไข่ตก การจดบันทึกรอบเดือนหรือประจำเดือนจึงเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังช่วยให้คำนวณวันปลอดภัยในรอบเดือน เป็นการคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ
ประจำเดือน คืออะไร
ในทุกเดือนไข่ 1 ใบจะเคลื่อนตัวออกจากรังไข่ โดยไข่ที่ออกมาจะเคลื่อนไปตามท่อรังไข่หรือปีกมดลูกไปยังมดลูก ในช่วงเวลานั้นหากไข่ผสมกับตัวอสุจิก็จะเคลื่อนไปฝังตัวที่มดลูก แต่หากไข่ไม่ได้รับการผสมกับตัวอสุจิ ผนังมดลูกและไข่จะหลุดลอกออกมาทางช่องคลอด เลือดที่ไหลออกมาทางช่องคลอดของผู้หญิง จะเรียกว่า ประจำเดือน แต่ละครั้งจะมีประมาณ 3-7 วัน
วิธีนับรอบเดือน
ช่วงเวลาระหว่างประจำเดือนแต่ละครั้งจะเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนมาจนถึงวันก่อนมีประจำเดือนครั้งต่อไป โดยทั่วไป ระยะห่างของแต่ละรอบเดือนอยู่ที่ 24-38 วัน สามารถลองเทียบได้จากวันแรกของประจำเดือนรอบนี้ กับวันแรกของประจำเดือนครั้งก่อน
คำนวณหาวันปลอดภัยด้วยวิธีนับรอบเดือน
การคำนวณหาวันปลอดภัยเป็นการคุมกำเนิดที่เหมาะกับผู้ที่มีรอบประจำเดือนสม่ำเสมอ ช่วงที่ปลอดภัยหรือมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ตั้งครรภ์ คือ ก่อน 7 หลัง 7 เป็นช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำ จึงต้องใช้วิธีนับรอบเดือนเพื่อหาช่วงก่อนมีประจำเดือน 7 วัน และหลังจากมีประจำเดือน 7 วัน วิธีนี้มีความผิดพลาดได้ค่อนข้างสูง หากใช้วิธีนับรอบเดือนเพื่อการคุมกำเนิด ควรใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย
- วิธีคำนวณกรณีประจำเดือนมาสม่ำเสมอให้วันที่ 12 – 16 เป็นวันที่ ไม่ปลอดภัย เช่น หากประจำเดือนห่างกันรอบละ 30 วัน วันที่ 1-7 หลังมีประจำเดือน และก่อนมีประจำเดือน 7 วันจะเป็นระยะปลอดภัย
นับวันตกไข่ด้วยวิธีนับรอบเดือน
ในแต่ละเดือนไข่ที่ตกจะรอปฏิสนธิอยู่ที่ปลายท่อนำไข่ 12-24 ชั่วโมง การนับวันตกไข่ด้วยตัวเอง โดยทั่วไปผู้หญิงจะมีรอบเดือนทุก 28 วัน ให้นับหลังจากวันที่ประจำเดือนมาเป็นวันที่ 1 ส่วนวันที่ 14 จะเป็นวันที่ตกไข่ หากต้องการมีบุตรควรมีเพศสัมพันธ์ 1-2 วันก่อนไข่ตก เพราะอสุจิจะรอปฏิสนธิอยู่ในรังไข่ได้ 2 วัน จึงพอดีกับวันไข่ตก หรือหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงกลางรอบประจำเดือนประมาณ 10-14 วันนับหลังจากวันแรกของประจำเดือนรอบล่าสุด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้
สังเกตอย่างไรว่าอยู่ในช่วงวันตกไข่
- มูกที่ปากมดลูก เกิดจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้มูกที่ปากมดลูกที่มีลักษณะคล้ายไข่ขาวดิบ เกิดความข้นเหนียวและยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อนำพาอสุจิเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ง่ายขึ้น
- อารมณ์ทางเพศเพิ่มขึ้น ขณะตกไข่จะส่งผลให้มีเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณช่องคลอด รวมถึงการสร้างของเหลวหล่อลื่นมากเป็นพิเศษ
- อุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้น ระหว่างการตกไข่ ร่างกายจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น อุณหภูมิร่างกายจึงสูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส
- เจ็บคัดเต้านมและปวดท้องน้อยข้างเดียว อาการปวดท้องน้อยข้างเดียวในขณะที่มีการตกไข่ เพราะรังไข่เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพให้เหมาะสมกับการฝังตัวของตัวอ่อน แต่เมื่อไม่เกิดการปฏิสนธิ ผนังภายในรังไข่จะมีการหลุดลอกส่งผลให้ปวดท้องน้อยได้มากขึ้น
สำหรับผู้ที่ต้องการความแม่นยำสามารถใช้ชุดตรวจการตกไข่ โดยตรวจด้วยปัสสาวะเพื่อคาดคะเนการตกไข่ได้อย่างแม่นยำ
หรือเลือกใช้ เครื่องคำนวณวันตกไข่ของ Hello คุณหมอ !
[embed-health-tool-ovulation]
สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ความเครียดจากปัญหาชีวิต การเรียน การทำงาน อาจทำให้ไข่ไม่ตกได้
- เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานรังไข่ เช่น อร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนต่อมใต้สมองหรือว่าฮอร์โมนน้ำนม
- ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังในผู้หญิง จากภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ พบได้บ่อยจากการทำงานที่ผิดปกติของตัวรังไข่ ทำให้ผู้หญิงมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
- อาการเลือดออกที่ผิดปกติ ที่ไม่ใช่เลือดจากประจำเดือน