การนับวันไข่ตกเป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งท้องได้ แต่หลายคนยังอาจมีคำถามว่า ไข่ตกกี่วันถึงจะท้อง ซึ่งการรู้ถึงวันที่ไข่ตกอาจช่วยให้คู่รักมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสตั้งท้องได้มากที่สุด โดยการตั้งท้องสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อตัวอสุจิผสมกับไข่ตั้งแต่วันแรกของการตกไข่
[embed-health-tool-due-date]
ไข่ตกกี่วันถึงจะท้อง
รอบประจำเดือนจะเกิดขึ้นอย่างเป็นวัฏจักรเฉลี่ย 28 วัน และการตกไข่จะเกิดขึ้นประมาณ 14 วัน ก่อนเริ่มรอบเดือนถัดไป อย่างไรก็ตาม ระยะเวลารอบเดือนของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ดังนั้น การจดบันทึกรอบเดือนจึงอาจเป็นวิธีที่จะช่วยประมาณการวันไข่ตกได้
บางคนอาจมีข้อสงสัยว่า ไข่ตกกี่วันถึงท้อง โดยปกติหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงไข่ตกก็สามารถทำให้ตั้งท้องได้ทันทีตั้งแต่วันแรกของการตกไข่ โดยเฉพาะ 5 วันก่อนไข่ตกจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด เนื่องจากตัวอสุจิจะสามารถมีชีวิตอยู่ในช่องคลอดได้นานถึง 5 วัน ซึ่งหลังจากไข่ตกตัวอสุจิที่รออยู่จะสามารถเข้าไปผสมกับไข่ได้ทันที
ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์ภายใน 5 วันก่อนไข่ตกจึงอาจเพิ่มโอกาสในการตั้งท้องได้มากขึ้น เพราะตัวอสุจิสามารถเข้าไปผสมกับไข่ได้ตั้งแต่วันแรกของการตกไข่
สัญญาณไข่ตก
สัญญาณไข่ตกที่ควรสังเกตเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งท้องให้มากขึ้น อาจมีดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงของสารคัดหลั่งในช่องคลอด โดยสารคัดหลั่งอาจมีปริมาณมากขึ้น หนา เหนียวและลื่น มีลักษณะคล้ายไข่ขาว
- อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ในช่วงที่ไข่ตก ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จึงส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ทำให้รู้สึกมีอาการตัวร้อนรุม ๆ
- ปวดท้องเล็กน้อย อาจเกิดจากรังไข่ที่ตึงตัวเต็มที่พร้อมจะปล่อยไข่ จึงอาจทำให้มีอาการปวดท้องเล็กน้อย
- เจ็บเต้านม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ส่งผลให้มีอาการคัดตึงเต้านมเกิดขึ้น
- ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน รวมทั้งเป็นการตอบสนองของร่างกายในการสืบพันธุ์
อย่างไรก็ตาม สัญญาณไข่ตกเหล่านี้เป็นเพียงอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งบางคนอาจไม่มีอาการใด ๆ เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ
ปัญหาการเจริญพันธุ์ที่อาจทำให้ท้องยาก
การตั้งท้องไม่สามารถกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอนได้ ซึ่งบางคนที่ท้องยากอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงของภาวะเจริญพันธุ์ เมื่ออายุมากขึ้นผู้หญิงและผู้ชายอาจมีภาวะเจริญพันธุ์ที่น้อยลง เช่น ความต้องการทางเพศลดลง ไข่ลดลง อสุจิไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้ท้องยากขึ้น
- ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ ปัญหาต่อมไทรอยด์
- ความผิดปกติทางร่างกาย เช่น เบื่ออาหาร ผอมเกินไป โรคอ้วน ออกกำลังกายมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ฮอร์โมนไม่ปกติและส่งผลต่อการตกไข่
- ความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ เช่น การติดเชื้อ ท่อนำไข่อุดตัน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) จำนวนอสุจิน้อย
- วัยหมดประจำเดือน