เรื่องเล็กๆ ในการใช้ชีวิต ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพแบบคาดไม่ถึง!

นิสัยส่วนตัว ที่คุณทำอยู่ทุกวันนั้น ถ้าทำได้อย่างถูกต้องเหมาะสม อย่างเช่น การแปรงฟันหลังตื่นนอนในตอนเข้า และก่อนเข้านอนในตอนเย็น การพยายามกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ก็มีส่วนช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้อย่างแน่นอน แต่ถ้านิสัยส่วนตัวของคุณไม่ถูกต้องเหมาะสม ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือคุณอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าคุณทำอะไรผิด ฉะนั้นลองอ่านรายละเอียดที่ Hello คุณหมอ แนะนำ ว่าคุณกำลังทำเรื่องเล็กๆ ที่อาจทำร้ายสุขภาพของคุณอยู่หรือเปล่า

นิสัยส่วนตัว ที่อาจทำให้เสียสุขภาพโดยไม่รู้ตัว

ใช้ภาชนะพลาสติกใส่อาหาร

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเก็บอาหารไว้ในกล่องพลาสติก เพราะจะช่วยกำหนดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อได้อย่างเหมาะสมนั้น คุณอาจต้องทบทวนการกระทำของคุณซะใหม่นะ เพราะอาหารที่อยู่ในกล่องนั้นอาจจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้ แต่ตัวกล่องพลาสติก อาจส่งผลในทางตรงกันข้าม เนื่องจากภาชนะพาสติกส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า BPA (Bisphenol) ที่ว่ากันว่าเป็นสารก่อมะเร็ง และการแบ่งอาหารใส่กล่องที่เล็กเกินไป จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้ยากขึ้นด้วย ฉะนั้นแทนที่การแบ่งอาหารใส่กล่องแล้วจะทำให้สุขภาพดี ก็อาจจะส่งผลในทางตรงกันข้ามได้

ส่องกระจก แล้วพูดไม่ดีกับตัวเอง

ถ้าใครมองตัวเองในกระจกแล้วรู้สึกแย่กับรูปโฉมของตัวเองล่ะก็ คุณต้องปรับเปลี่ยนความรู้สึกต่อตัวเองซะใหม่แล้วนะ เพราะการกระทำแบบนั้นจะทำให้คุณขาดการยอมรับนับถือในตัวเอง แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของคุณด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้บอกว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะยืนอยู่หน้ากระจก แล้วดึงนั่นจับนี่ให้เข้าที่เข้าทางพร้อมๆ กับพูดกับตัวเองไปด้วย และหลายครั้งที่อาจเผลอดูถูกตัวเอง ซึ่งไม่ส่งผลดีเลยนะ เพราะสมองจะจดจำสิ่งที่คุณพร่ำบอกกับตัวเอง แล้วเชื่อว่าเป็นไปตามนั้นโดยปริยาย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้แก้ไขซะ โดยทุกครั้งที่มองตัวเองในกระจก ก็ควรหาเรื่องชมตัวเองบ้าง

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการมองโลกในแง่ร้าย

การตื่นขึ้นมาพร้อมกับความคิดลบๆ จะยิ่งทำให้วันเวลาของคุณดูยากเย็นแสนเข็ญเข้าไปใหญ่ ความคิดของคุณคือปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้คุณสามารถเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีเพียงใด ฉะนั้นจึงควรคิดแต่สิ่งดีๆ เป็นอันดับแรกในตอนเช้าๆ โดยอาจจดเป็นรายการถึง 3 สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกซาบซึ้งใจ และ 3 สิ่งที่คุณทำได้สำเร็จในวันนั้น ความซาบซึ้งใจจะช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส ซึ่งนั่นจะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่ต้องเจอในวันนั้นได้ง่ายขึ้น

พกกระเป๋าสตางค์ไว้ตรงกระเป๋าหลัง

การนั่งทับกระเป๋าสตางค์ตุงๆ ไว้เป็นเวลานานๆ อาจทำให้คุณรู้สึกปวดหลัง เจ็บสะโพก หรือมีอาการเจ็บปวดที่ลามไปถึงหลังส่วนบนและไหล่ได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ระบบประสาทในบริเวณหลังส่วนล่างและขาเกิดการแปรปรวนได้ ฉะนั้นปล่อยกระเป๋าหลังให้ว่างเถอะ โดยพกกระเป๋าสตางค์ไว้ในกระเป๋าหน้าหรือกระเป๋าถือแทน

ใช้เครื่องเป่ามือให้แห้ง

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกนี้ อาจช่วยประหยัดกระดาษเช็ดมือได้อย่างมากมาย แต่การศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า เครื่องเป่ามือให้แห้งที่ติดตั้งไว้ตามห้องน้ำสาธารณะนั้น จริงๆ แล้วบางที่อาจมีเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด รวมทั้งเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อรา ฉะนั้นทางที่ดีก็ควรพกผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชูไว้สำหรับเช็ดมือให้แห้งจะดีกว่า

ทายาทาเล็บโดยไม่มีการระบายอากาศ

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยดุ๊ค (Duke University) พบว่า การทายาทาเล็บจะทำให้เกิดสารพิษบางอย่างซึมเข้าสู่ร่างกาย และไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมน แถมยังมีงานวิจัยอีกมากมายที่ระบุว่า การสูดเอากลิ่นยาทาเล็บเข้าไปก็เป็นภัยต่อร่างกายด้วย เพราะในยาทาเล็บนั้นมักจะมีส่วนผสมที่เป็นสารพิษอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) พาทาเลต (Phthalates) และโทลูอีน (Toluene) ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ อย่างเช่น มะเร็ง โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และเกิดสารพิษทางระบบประสาทและสมอง ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะให้ใช้ยาทาเล็บของแบรนด์ที่ไว้ใจได้ และควรทาเล็บในสถานที่โล่งแจ้ง ไม่ใช่ในห้องอับๆ ของร้านทำเล็บ

กลั้นตด

ขอบอกว่าการผายลมนั้นเป็นอะไรที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากจะช่วยระบายก๊าซเสียออกจากร่างกาย และถ้าใครเคยกลั้นตดเอาไว้ก็จะรู้ดีกว่าจะทำให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อาการแสบร้อนกลางอก รวมทั้งอาจทำให้ความดันเลือดพุ่งสูงขึ้น และหัวใจเต้นเร็วขึ้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ปล่อยลมออกมาทันทีที่รู้สึกอยากระบายแก๊ส (หรือจะเดินไปหาที่เงียบๆ แล้วค่อยปล่อยลมก็ได้) แล้วเวลากินอะไรก็อย่าลืมเคี้ยวให้ช้าๆ หน่อยล่ะ และจะได้ลดปริมาณลมที่จะเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหาร รวมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารที่มีก๊าซเยอะหรือก่อให้เกิดก๊าซในกระเพาะอาหารอย่าง ถั่ว ด้วย

[embed-health-tool-bmi]