backup og meta

ชอบแชร์เครื่องสำอางต้องระวัง! อาจเป็น โรคติดต่อ จากเครื่องสำอางไม่รู้ตัว

ผู้หญิงกับความสวยงามนั้นเป็นของคู่กัน ดังสุภาษิต “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ ดังนั้นเครื่องสำอางจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจเมื่อแต่งหน้า แต่ในบางครั้ง เครื่องสำอางเพิ่มความสวย ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาวๆ ที่ชอบแบ่งปันเครื่องสำอางให้คนอื่นใช้ ใช้เครื่องสำอางร่วมกับเพื่อนบ่อยๆ หรือคนที่ชอบลองเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์ เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไร หากแค่ลองสีหรือลองเนื้อสัมผัสที่หลังมือหรือที่แขน ก็คงไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ชอบลองทาเครื่องสำอางลงไปบนหน้าโดยตรงอาจต้องระมัดระวังให้ดี เพราะเครื่องสำอางสีสันสวยงาม เห็นแล้วใจพองโตเหล่านี้ อาจนำพา โรคติดต่อ มาหาเราโดยไม่รู้ตัว

ชอบแชร์เครื่องสำอางต้องระวัง! อาจเป็น โรคติดต่อ จากเครื่องสำอางไม่รู้ตัว

โรคติดต่อ จากการใช้เครื่องสำอางร่วมกัน

การใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องสำอางสำหรับทดลองที่ใช้ตามเคาน์เตอร์ ที่อาจไม่ได้รับการดูแลรักษาความสะอาดดีพอ จนเกิดปัญหาเครื่องสำอางปนเปื้อน อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดดรคติดต่อ ดังนี้

1. โรคตาแดง

ดวงตาและบริเวณรอบดวงตา ถือเป็นส่วนที่บอบบางอย่างมาก เครื่องสำอางสำหรับตกแต่งดวงตา เช่น อายไลเนอร์ อายแชโดว์ มาสคาร่า แม้กระทั่งอุปกรณ์แต่งหน้าอย่างที่ดัดขนตา ขนตาปลอม หรือแปรงแต่งตา ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องรักษาความสะอาดให้ดี และใช้อย่างระมัดระวัง ยิ่งหากสาว ๆ ใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องสำอางของเพื่อนสนิท หรือการทดลองใช้เครื่องสำอางฟรีตามเคาท์เตอร์ ก็ล้วนแต่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อ อย่างโรคตาแดงได้ทั้งสิ้น

โรคตาแดงเป็นโรคติดต่อที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรียและไวรัส สามารถติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางการสัมผัส หรือการใช้สิ่งของร่วมกันกับผู้ที่เป็นโรค โดยอาการของโรคตาแดงที่พบได้ทั่วไป คือ ตาขาวจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือสีแดง เนื่องจากเยื่อบุตาติดเชื้อจนทำให้เกิดการอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการเริ่มต้น คือ รู้สึกเคืองตา เจ็บตา มีเมือกใสในดวงตา ตาแดง คันตา หากโรคตาแดงที่เป็นเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมีขี้ตามากกว่าปกติ ทำให้อาจลืมตาไม่ขึ้นเมื่อตื่นนอนตอนเช้าเพราะขี้ตาทำให้เปลือกตาบนและเปลือกตาล่างติดกัน

อาการของโรคตาแดงจะสามารถหายไปเองได้ใน 4-7 วัน โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคตาแดงต้องหมั่นหยอดตา รักษาความสะอาดด้วยการล้างมือสม่ำเสมอ และเลี่ยงการสัมผัสดวงตาเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

สำหรับผู้ที่เป็นโรคติดต่ออย่างตาแดง หากจำเป็นต้องแต่งหน้า ควรรักษาความสะอาดของเครื่องสำอางและอุปกรณ์ให้ดี หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากแบคทีเรียและไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตาแดงสามารถแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่นได้ง่ายผ่านเครื่องสำอาง โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่ใช้ตกแต่งดวงตา

2. โรคเริม

เครื่องสำอางที่ใช้กับริมฝีปาก ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติก ลิปกลอส ลิปมัน ล้วนแต่ต้องสัมผัสกับริมฝีปากโดยตรง และมีโอกาสน้อยมากที่เมื่อใช้แล้วเครื่องสำอางเหล่านี้จะไม่โดนน้ำลาย การใช้ลิปสติกร่วมกับผู้อื่นจึงเสี่ยงต่อโรคติดต่อที่สามารถติดต่อผ่านน้ำลายอย่างเช่น โรคเริม ที่ปากได้

เริมที่ปากเป็นโรคติดต่อที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ โดยผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสนี้จะมีอาการคือ มีแผลตุ่มใสบริเวณปาก เหงือก ลิ้น เพดานปาก หรือในกระพุ้งแก้ม และมีอาการปวดแสบที่แผล อาการของโรคเริมที่ปากสามารถหายไปได้ภายใน 2-12 วัน แต่หากผู้ป่วยมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เป็นไข้ เจ็บปวดกล้ามเนื้อ หรือปัสสาวะน้อยมาก ควรรีบไปปรึกษาคุณหมอ

การป้องกันโรคเริมที่ปาก คือ ไม่สัมผัสกับเชื้อโดยตรงผ่านทางน้ำลาย เช่น การจูบกับผู้ที่มีแผลเริมที่ปาก รวมถึงไม่ใช้ลิปสติกร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อเริมที่ปาก เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้เนื่องจากสัมผัสกับน้ำลายของอีกฝ่ายผ่านทางลิปสติก

3. ไข้หวัด

โรคไข้หวัดดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องสำอาง แต่แท้จริงแล้วไข้หวัดสามารถติดต่อผ่านทางเครื่องสำอางได้เช่นกัน หากผู้ป่วยใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากโรคไข้หวัดมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งสามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสกับผู้ป่วยหรือการใช้สิ่งของร่วมกัน จึงมีความเป็นไปได้ที่การใช้เครื่องสำอางร่วมกันกับผู้ป่วยจะทำให้ติดเชื้อไข้หวัด อาการของโรคไข้หวัดโดยทั่วไป ได้แก่ น้ำมูกไหล ไอ จาม รู้สึกคันคอ เจ็บคอ เสียงแหบ โรคไข้หวัดสามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานยา นอนหลับพักผ่อนให้มากๆ และดื่มน้ำให้เพียงพอ ก็จะสามารถหายจากโรคไข้หวัดได้ภายใน 1-2 สัปดาห์

โรคติดต่อสามารถติดต่อผ่านการใช้เครื่องสำอางร่วมกันได้ ดังนั้น สาวๆ จึงไม่ควรใช้เครื่องสำอางร่วมกับผู้อื่น หรือแม้แต่เครื่องสำอางของตัวเองก็ต้องดูแลรักษาให้ดี ปิดฝาให้สนิทหลังใช้งาน หมั่นทำความสะอาดโต๊ะเครื่องแป้งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค รวมถึงอย่าซื้อเครื่องสำอางมือสองมาใช้ จะได้ห่างไกลจากโรคติดต่อ

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Oral Herpes. https://www.webmd.com/a-to-z-guides/oral-herpes#1. Access June 4, 2018

Common Cold. https://www.webmd.com/cold-and-flu/common_cold_overview. Access June 4, 2018

Conjunctivitis (Pinkeye). https://www.webmd.com/eye-health/eye-health-conjunctivitis#1. Access June 4, 2018

เวอร์ชันปัจจุบัน

14/07/2020

เขียนโดย Sopista Kongchon

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Nattrakamol Chotevichean


บทความที่เกี่ยวข้อง

ไพรเมอร์ ข้อแนะนำในการใช้เพื่อปรับสภาพผิวก่อนแต่งหน้า

แต่งหน้าจัด ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวอย่างไร


ตรวจสอบข้อมูลความถูกต้อง โดย ทีม Hello คุณหมอ · เขียน โดย Sopista Kongchon · แก้ไข 14/07/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา