ภูมิคุ้มกันในเด็ก สัตว์เลี้ยง อาจช่วยป้องกันได้ มีงานวิจัยบางส่วนที่พบว่า การเลี้ยงสัตว์ในบ้าน อาจช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในตัวเด็ก ทำให้เด็กมีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้น้อยลง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็กอาจจะได้ทำความคุ้นเคยกับเชื้อโรคต่าง ๆ และสามารถตอบสนองกับการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น
สาเหตุของ ภูมิแพ้ในเด็ก
- การถ่ายทอดทางพันธุกรรม ภูมิแพ้เป็นภาวะที่สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ หรือญาติเป็นภูมิแพ้ ลูกหลานที่เกิดมาก็จะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ได้มากกว่าคนอื่น ๆ ร้อยละ 30-50 แต่หากทั้งพ่อและแม่มีประวัติเป็นภูมิแพ้ ลูกที่เกิดมาก็จะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ร้อยละ 50-70 ในขณะที่เด็กคนอื่นที่คนในครอบครัวไม่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ก็จะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพียงร้อยละ 10
- สิ่งแวดล้อม อีกหนึ่งสาเหตุของโรคภูมิแพ้ มีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อม หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อากาศเป็นมลพิษ ก็จะได้รับมลพิษเหล่านั้นจนเกิดเป็นภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับอาหารที่กิน สิ่งที่คลุกคลีในชีวิตประจำวันอีกด้วย เช่น สัตว์เลี้ยง สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ได้เช่นกัน
ภูมิแพ้ในเด็ก สัตว์เลี้ยง จะช่วยป้องกันได้หรือไม่
การวิจัยจากการมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโกพบว่าเด็กที่โตในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง ได้สัมผัสกับสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มที่โรคภูมิแพ้จะพัฒนาได้น้อยลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการได้สัมผัสสัตว์เลี้ยงในระยะแรก อาจเป็นประโยชน์มากในการลดความเสี่ยง ต่อการเป็นโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืด นั่นเป็นเพราะในช่วงปีแรกระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังคงเรียนรู้วิธีการจดจำเชื้อจุลิทรีย์ที่เป็นศัตรูต่อร่างกาย และการได้รับเชื้อจากสัตว์เลี้ยงช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายของทารกมีภูมิคุ้มกันได้เร็วขึ้น
ในงานวิจัยก่อนหน้านี้ Fujimura พบว่าฝุ่นในบ้านจากแมวและสุนัขมีแบคทีเรียที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ มากกว่าฝุ่นละอองจากบ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง การศึกษาก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า การมีสัตว์เลี้ยงในวัยเด็กมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ลดลงของโรคหอบหืด สิ่งนี้ทำให้คาดการณ์ได้ว่าจุลินทรีย์ ฝุ่นที่อยู่ในสุนัขสามารถสร้างอาณานิคมบริเวณทางเดินอาหาร ปรับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน และปกป้องการต่อต้านเชื้อโรคได้
ข้อควรระวังของการป้องกันภูมิแพ้ในเด็กด้วยสัตว์เลี้ยง
การมีสัตว์เลี้ยงในบ้านช่วยลดการเกิดโรคภูมิแพ้ก็จริง แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนที่โตมากับสัตว์เลี้ยงจะไม่เกิดโรคภูมิแพ้ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ข้อมูลด้านล่างเป็นข้อควรระวัง
- มีอาการบวม และมีอาการคันในเยื่อหุ้มจมูกหรือรอบดวงตา
- ผิวแดงหลังจากถูกเลียโดยสุนัข
- หายใจถี่ หายใจถี่หรือหายใจเข้าภายใน 15 ถึง 30 นาทีหลังจากสัมผัสสารก่อภูมิแพ้
- ผื่นบนใบหน้าคอหรือหน้าอก
- การหอบหืดรุนแรง (ในคนที่มีโรคหอบหืด)
หากเด็ก ๆ มีอาการดังกล่าวอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นภูมิแพ้ บางรายอาการอาจจะปรากฏช้า ใช้เวลาหลายวันหลังจากสัมผัสแล้ว เพราะมีความไวต่ออาการแพ้ที่ต่ำ แต่หากเกิดอาการ ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรักษาทันที
[embed-health-tool-bmi]