ทารกสะอึก เกิดจากกล้ามเนื้อกระบังลมและฝาปิดกล่องเสียงของทารกหดตัวกะทันหัน จึงทำให้เกิดเสียงสะอึกขึ้นมา โดยทั่วไปการสะอึกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการหายใจหรือภาวะสุขภาพของทารกแต่อย่างใด ทารกสามารถนอนหลับไปพร้อมกับสะอึกไปด้วยได้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรศึกษาวิธีแก้อาการสะอึกของทารกให้ดี เพราะหากแก้อาการสะอึกของทารกแบบผิดวิธีเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]
ทารกสะอึก ควรรับมืออย่างไร
เมื่อ ทารกสะอึก อาจหาวิธีทำให้ทารกหยุดสะอึก ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้
หยุดป้อนนมแล้วปล่อยให้เรอ
หยุดป้อนนมแล้วปล่อยให้ทารกเรอ เพราะการเรอจะช่วยกำจัดแก๊สส่วนเกินออกไป ซึ่งแก๊สพวกนี้อาจเป็นสาเหตุของอาการสะอึกได้ โดยการจับให้ตัวทารกให้อยู่ในท่าตัวตั้งตรง สำหรับทารกที่กินนมแม่ ควรปล่อยให้ทารกเรอก่อนที่จะสลับเต้านมให้นมลูกดูดอีกข้าง
ใช้จุกนมหลอก
อาการสะอึกในทารกอาจไม่ได้เริ่มจากการป้อนนมเสมอไป ฉะนั้น เวลาที่ทารกเริ่มมีอาการสะอึกขึ้นมาเอง อาจปล่อยให้ดูดจุกนมหลอกดู เพราะอาจจะช่วยให้กระบังลมเกิดการผ่อนคลาย แล้วในที่สุดก็หยุดสะอึกได้
ปล่อยให้หยุดเอง
โดยปกติแล้ว อาการสะอึกในเด็กทารกมักจะหยุดได้เอง ถ้าอาการสะอึกไม่ยอมหยุดเอง ควรปรึกษาคุณหมอ เพราะมีบางกรณีที่อาการสะอึกอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่มีอาการรุนแรงได้
วิธีป้องกันทารกสะอึก
การป้องกันการสะอึกนั้นทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเป็นภาวะปกติของร่างกาย แต่อาจลองปฏิบัติตามวิธีดังนี้
- กล่อมให้ทารกอยู่ในอาการสงบขณะป้อนนม โดยอาจจะไม่ต้องรอให้ทารกหิวแล้วค่อยป้อน เพราะเมื่อทารกหิวมาก ๆ อาจจะร้องไห้ หรือมีอาการโยเยก่อนที่จะได้ป้อนนมทำให้เกิดอาการสะอึกได้
- หลังจากป้อนนมเสร็จแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการให้ทารกทำกิจกรรมอะไรหนัก ๆ อย่างเช่น การเขย่าตัว การจั๊กจี้ทารก การปล่อยให้คลานเร็ว ๆ
- หลังป้อนนมเสร็จแล้ว ควรจับทารกให้อยู่ในท่าตัวตั้งตรง เป็นเวลา 20 ถึง 30 นาที
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรทำเมื่อทารกสะอึก
ถึงแม้จะมีวิธีแก้อาการสะอึกที่ใช้กับผู้ใหญ่ได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้กับเด็กทารก เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะวิธีเหล่านี้
แหย่ให้ทารกตกใจ
อย่าพยายามแหย่ทารกให้สะดุ้ง เพราะเสียงดังอาจทำให้แก้วหูที่บอบบางของทารกเกิดความเสียหายได้ และอาการตกใจนั้น อาจทำให้ทารกร้องไห้ไม่หยุด
ให้รับประทานผลไม้หรือขนมรสเปรี้ยว
ถึงแม้ขนมเปรี้ยวๆ อาจช่วยยับยั้งอาการสะอึกในผู้ใหญ่บางรายได้ แต่ไม่ควรนำมาใช้กับทารก เนื่องจากอาหารที่มีรสเปรี้ยวนั้นมักมีส่วนผสมของกรดที่ดีต่อสุขภาพของทารก
ตบหลังทารก
เส้นเอ็นในกระดูกซี่โครงของทารกยังมีความบอบบางอยู่ ฉะนั้นการตบหรือตีแรง ๆ ในบริเวณนั้น ก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
กดลูกตาทารก
กล้ามเนื้อดวงตาที่ช่วยให้ดวงตาทารกเคลื่อนไหวและมองเห็นได้นั้นยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเพื่อความสมบูรณ์ของอวัยวะ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดวงตาทารก เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายจนทารกสูญเสียการมองเห็น
ดึงลิ้นหรือแขนขาทารก
ร่างกายของทารกยังบอบบางอยู่ กระดูกและข้อต่อของทารกยังไม่สามารถทนทานแรงดึงของผู้ใหญ่ซึ่งอาจคาดน้ำหนักในการออกแรงดึงหรือรั้ง ทำให้แขนขาหรือบริเวณที่มีรอยข้อต่อหลุดออกได้