อาการนอนกรนในเด็ก หรือ เด็กนอนกรน เป็นปัญหาสุขภาพเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามพ่อแม่ เด็กนอนกรน อาจเกิดจากปัจจัยทางด้านร่างกาย เช่น กรามเล็ก วามสามารถของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำงานประสานกันได้ไม่ดีตอนนอนหลับ ทำให้ปิดกั้นทางเดินหายใจ ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
เด็กนอนกรน เกิดจากอะไร
อาการนอนกรนในเด็ก เป็นปัญหาสุขภาพเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจาก อาจเกิดจากปัจจัยทางด้านร่างกาย เช่น กรามเล็ก หรือมีทางเดินหายใจที่แคบตั้งแต่เกิด อีกอย่างหนึ่งคือ ความสามารถของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ทำงานประสานกันได้ไม่ดีตอนนอนหลับ ทำให้ปิดกั้นทางเดินหายใจ
แต่สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เด็กนอนกรน คือ ต่อมทอนซิล (Tonsils) มีหน้าที่หลักในการดักจับและกำจัดเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร และต่อมอดีนอยด์ขยาย (Adenoids) ซึ่งเป็นต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ในส่วนหลังของโพรงจมูก มีโครงสร้างภายในใกล้เคียงกับต่อมทอนซิล มีหน้าที่ทำลายเชื้อโรค และผลิตเซลล์สร้างภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น เกิดการอุดกั้นของระบบทางเดินหายใจจนเกิดเสียงกรนที่เป็นภาวะอันตราย
จากการศึกษาพบว่า ปกติแล้ว 11%-12% ของเด็ก ๆ วัย 1-9 ปี มักจะมีอาการกรน โดยจะกรนอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งเสียงดังพอที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ยิน หากกรนมากกว่านี้คือเริ่มไม่ปกติแล้ว หากไม่เข้ารับการรักษาอาจทำให้เด็กถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอนกรน แบบนี้ ไม่ดีแน่
- กรนเสียงดัง นอนอ้าปากกรน หรือมีอาการสำลัก ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เนื่องจากมีการอุดกั้นของทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่จะนอนกรน แต่ไม่ใช่ว่าเด็กนอนกรนจะหมายความว่า เด็กหยุดหายใจขณะหลับ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตว่า ลูกกรนแล้วหยุดเป็นช่วง ๆ ไหม มีอาการนอนกรนแบบอ้าปากพะงาบ ๆ หรือสำลักหรือไม่ หากมีอาการแบบนี้ ควรไปหาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยและรักษาต่อไป
- ลูกกรน และฉี่รดที่นอนขณะนอนหลับ มีงานวิจัยที่ชี้ว่า เด็ก ๆ ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นอนกรนนั้น จะฉี่รดที่นอน 42% และหลังจากการรักษาอาการหยุดหายใจขณะหลับ 66% ของเด็ก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คือ เด็กจะฉี่รดที่นอนลดลง ดังนั้น หากเด็กนอนกรน และฉี่รดที่นอนเป็นประจำ อาจไม่ใช่เรื่องธรรมดาของเด็ก ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรพาไปหาคุณหมอ
- ปวดหัวตอนเช้า ถ้าตอนกลางคืนลูกกรน แล้วตอนเช้าเด็กบ่นปวดหัว นั่นอาจหมายถึง การที่ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย ที่อาจมีสาเหตุมาจากการที่ระบบทางเดินหายใจของลูกมีปัญหา จึงส่งผลต่อการได้รับออกซิเจนของร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย ก็จะทำให้ความดันโลหิตสูงขณะนอนหลับ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ลูกปวดหัวในตอนเช้า หากการกรนรบกวนการนอนหลับแบบนี้ จะไม่ดีต่อสุขภาพเด็กในระยะยาว
วิธีรักษาอาการนอนกรนในเด็ก
- เปลี่ยนท่านอน การนอนหงายอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกนอนกรน คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกนอนตะแคง หรือเอาหมอนมาหนุนที่คอ เพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น แต่วิธีการเอาหมอนหนุนต้องระวัง เพราะอาจจะทำให้ลูกปวดคอได้
- ลดน้ำหนัก ลูกอ้วน เป็นสาเหตุที่ทำให้นอนกรน เพราะการมีไขมันที่คอเยอะ จะทำให้หายใจไม่สะดวกเวลานอน ดังนั้น การให้ลูกลดน้ำหนัก จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยทำให้เด็กหายนอนกรนได้
- อาบน้ำอุ่นก่อนนอน การอาบน้ำอุ่นก่อนนอนจะช่วยเปิดช่องทางเดินหายใจ ทำให้ลูกหายใจได้สะดวกขึ้นตอนนอน นอกจากจะช่วยเรื่องอาการนอนกรน ยังทำให้หายใจสะดวกขึ้นอีกด้วย
- เปลี่ยนหมอน ฝุ่นที่อยู่บนหมอนก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กนอนกรน ดังนั้น การเปลี่ยนหมอนใบใหม่อาจช่วยลดอาการนอนกรนได้ แต่ต้องระวังระดับความสูงของหมอนว่าจะทำให้ลูกปวดคอไหม
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ สำหรับเด็ก ๆ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร การที่เพดานปากแห้ง จมูกแห้ง เนื่องจาก ร่างกายขาดน้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กนอนกรน ดังนั้น ให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ ก็ช่วยได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]