การติดตามพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ ระบบประสาทและสมอง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ สำหรับ พัฒนาการเด็ก 22 เดือน หรือประมาณ 2 ขวบ ซึ่งถือเป็นวัยเตาะแตะ อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง เช่น เริ่มพูดได้มากขึ้น เดินและวิ่งได้คล่องขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพัฒนาการต่าง ๆ ให้ดี หากมีปัญหา หรือสังเกตได้ว่าลูกอาจมีพัฒนาการล่าช้า จะได้สามารถหาวิธีรับมือได้อย่างทันท่วงที
พัฒนาการเด็ก 22 เดือน
พัฒนาการเด็ก 22 เดือนที่อาจพบได้ เช่น
การแสดงอารมณ์ความรู้สึก
เด็กอายุ 22 เดือน อาจอยากผลักของเล่นที่มีล้อ ให้เคลื่อนไปตามทางเดิน และอาจมีความคิดเห็นมากมายในสิ่งที่อยากทำ หากคุณพ่อคุณแม่แสดงความคิดเห็นที่ต่างออกไป อาจพบปฏิกิริยาตอบสนองที่เปลี่ยนไปในทันที เช่น การขัดขืน การไม่ยอมทำในสิ่งที่แนะนำ เด็กในวัยนี้จะค่อนข้างเจ้าอารมณ์ อาจแสดงอาการหงุดหงิดเวลาไม่ได้ดั่งใจ หรือแสดงอาการดีใจเวลาได้สิ่งที่ต้องการ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองของเด็กวัย 22 เดือน
การสนใจในเรื่องต่าง ๆ
เด็กวัย 22 เดือนส่วนใหญ่จะสนใจอะไรแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น และมักจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย นั่นอาจทำให้เด็กสนใจเรียนรู้อะไรในแต่ละครั้งได้ไม่นานนัก หากเห็นว่าลูกไม่สนใจกิจกรรมที่ทำอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรบังคับให้เด็กทำกิจกรรมนั้น ๆ ต่อ เพราะอาจทำให้เด็กหงุดหงิดได้
การรู้พัฒนาการเด็กวัย 22 เดือนในเรื่องนี้ อาจช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รับมือกับลูกวัยนี้ได้ง่ายขึ้น หากมีเหตุการณ์ใด ๆ ทำให้ลูกงอแง หรืออารมณ์ไม่ดี คุณพ่อคุณแม่อาจเบี่ยงเบนความสนใจของลูกไปที่สิ่งอื่นไม่ยากนัก เช่น อุ้มลูกออกจากบริเวณนั้น หาของเล่นให้ลูกเล่น เพียงเท่านี้ก็อาจทำให้เด็กอารมณ์ดีขึ้นได้
การกินอาหารเมนูใหม่
เด็กอายุ 22 เดือนจะเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร นั่นอาจทำให้เด็กเลือกกิน กินยากขึ้น หรือไม่ยอมลองรับประทานอาหารเมนูใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้เด็กขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และส่งผลให้น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ หรือมีพัฒนาการทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ ระบบประสาทและสมองด้อยกว่าเด็กวัยเดียวกันที่ได้รับสารอาหารครบถ้วนได้
อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกลองรับประทานอาหารเมนูใหม่ ควรเริ่มป้อนในปริมาณน้อย ๆ ก่อน และหากลูกไม่อยากรับประทานอาหารนั้น ๆ ก็ไม่ควรบังคับ อาจรอประมาณ 2-3 วันจึงค่อยให้ลูกลองรับประทานอาหารชนิดนั้นอีกครั้ง โดยอาจใช้วิธีการที่ต่างไปจากเดิม
ปัญหาสุขภาพที่ควรใส่ใจ
ปัญหาสุขภาพของเด็กวัย 22 เดือน หรือประมาณ 2 ขวบ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ เช่น
- โรคภูมิแพ้สัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจสังเกตได้จากอาการจาม คันตา น้ำตาไหล คัดจมูก น้ำมูกไหล
- สภาวะสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กที่ฟันกำลังงอก เช่น มีไข้อ่อน ๆ หงุดหงิด อารมณ์เสีย น้ำลายไหลจนอาจทำให้เกิดผื่นที่หน้า เหงือกบวมหรือไวต่อสิ่งกระตุ้น ปฏิเสธอาหาร มีปัญหาในการนอนหลับ
หากเด็กวัย 22 เดือนมีปัญหาสุขภาพดังกล่าว หรือมีความผิดปกติอื่น ๆ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ หรือพฤติกรรม ควรรีบปรึกษาคุณหมอ เพราะหากเด็กมีปัญหาสุขภาพ จะได้วินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
[embed-health-tool-vaccination-tool]