เรียนออนไลน์ มีข้อดีและข้อเสียต่อเด็ก ๆ อย่างไรบ้าง

เรียนออนไลน์ กลายเป็นรูปแบบการเรียนที่สำคัญสำหรับการศึกษาในปัจจุบันและอนาคต นับเป็นทางเลือกใหม่นอกเหนือไปจากการเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหนหรือเวลาใด สามารถเลือกเรียนออนไลน์และหาความรู้ใหม่ ๆ ได้เสมอ อย่างไรก็ตาม เรียนออนไลน์ ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียต่อเด็ก ๆ ที่ผู้ปกครองควรใส่ใจ

[embed-health-tool-bmi]

เรียนออนไลน์ คืออะไร

การเรียนออนไลน์ หมายถึง การเรียนที่ผู้เรียนและผู้สอน เชื่อมต่อบทเรียนผ่านอินเทอร์เนต โดยมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสัญญาณอินเทอร์เนตเป็นเครื่องมือและสื่อกลางในการเรียนรู้ ทำให้แม้ว่าผู้เรียนและผู้สอนจะอยู่ไกลกันก็สามารถสร้างบทเรียนได้ ในปัจจุบันนี้ รูปแบบการเรียนออนไลน์ แบ่งได้เป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้

• Synchronous Classes รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอนนัดผู้เรียนทุกคนมาเรียนพร้อมกันในเวลาเดียวกันผ่านระบบการเรียนทางไกลที่มีอยู่มากมาย โดยถ่ายทอดสดผ่าน Live-Streaming เช่น Zoom, Google Meet, Microsoft Team
• Asynchronous Classes รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอนและผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนพร้อมกันตามตาราง โดยผู้สอนจะอัดคลิปวิดีโอแล้วอัพโหลดคลิปเข้าสู่ไดร์ฟหรือส่งลิงค์สำหรับดาวน์โหลดคลิปให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง รวมทั้งการฝึกทำข้อสอบออนไลน์
• Hybrid Classes รูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ทั้งแบบการเรียนออนไลน์พร้อมกัน การถ่ายทอดสดจากคลาสผ่าน Live-streaming หรือการเข้าเรียนในห้องเรียนแบบเจอตัว

ข้อดีของการ เรียนออนไลน์

เครื่องมือหลากหลาย

ในการเรียนออนไลน์ มีเครื่องมือต่าง ๆ มากมาย ทั้งภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ เสียงเพลง เกม ที่คุณครูสามารถนำมาใช้งานเพื่อดึงความสนใจและสร้างบทเรียนให้มีสีสันมากขึ้น ทำให้การเรียนสนุกและไม่น่าเบื่อ

 ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เรียนได้

การเรียนออนไลน์เปิดโอกาสให้ทั้งครูและนักเรียนสามารถเข้าเรียนได้จากที่ไหนก็ได้ เพียงจัดการเวลาให้ตรงตามตาราง ทำให้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านสถานที่ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เป็นส่วนหนึ่งในการลดการสร้างมลพิษ

ย้อนกลับมาเรียนภายหลังได้

การเรียนออนไลน์ สามารถบันทึกทั้งข้อความภาพและเสียงในขณะที่เรียนได้ ทำให้ผู้ที่ขาดเรียนสามารถเรียนย้อนหลังได้

ข้อเสียของการ เรียนออนไลน์

แม้ว่าการเรียนออนไลน์จะมีข้อดี แต่ในทางตรงกันข้าม ก็มีข้อเสียต่อผู้เรียนเช่นกัน ดังนี้

ใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป

นับเป็นข้อเสียที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความกังวลมากที่สุด เพราะการที่เด็กต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานาน จะส่งผลต่อสมาธิที่ลดลงหรือเป็นโรคสมาธิสั้นได้ สุขภาพสายตาที่ด้อยประสิทธิภาพ ปวดศีรษะ รวมทั้งสภาพร่างกายหรืออวัยวะที่ผิดรูปได้ เช่น กระดูกคอ ข้อมือ หลัง

สภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียน

การเรียนในห้องเรียนที่มีเพื่อนร่วมห้องจะช่วยสร้างบรรยากาศการเรียนให้มีชีวิตชีวา ส่งผลให้ผู้เรียนกระตือรือร้นอยู่เสมอ ในขณะที่การ เรียนออนไลน์ ผู้เรียนเรียนกับหน้าจอ อาจทำให้ขาดแรงบันดาลใจ ไม่มีสมาธิในการเรียน ในบางรายอาจทำให้ผู้เรียนรู้สึกโดดเดี่ยว ขาดปฏิสัมพันธ์ การติดต่อสื่อสารกับเพื่อนที่อยู่ในวัยเดียวกัน

พึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป

แม้ว่าปัจจุบันนี้ แทบทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เนต แต่อาจมีพื้นที่ห่างไกลที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้งานอินเทอร์เนต รวมทั้งบางครอบครัวที่ไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่เท่าเทียมกับคนอื่น ๆ ในชั้นเรียน นอกจากนั้น หากสัญญาณอินเทอร์เนตล่ม อาจทำให้ยากต่อการติดต่อสื่อสารเพื่อแจ้งข่าว