Amoxicillin (อะม็อกซีซิลลิน) คือ ยาปฏิชีวนะชนิดเพนิซิลลิน (penicillin) ที่ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ออกฤทธิ์ โดยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่จะไม่ออกฤทธิ์สำหรับรักษาในกรณีติดเชื้อไวรัส
[embed-health-tool-bmi]
ข้อบ่งใช้
อะม็อกซีซิลลิน ใช้สำหรับ
อะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) คือ ยาปฏิชีวนะชนิดเพนิซิลลิน (penicillin) เพื่อรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ออกฤทธิ์ โดยหยุดยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่จะไม่ออกฤทธิ์สำหรับรักษาในกรณีติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดทั่วไป ไข้หวัดใหญ่ อีกทั้งยานี้ยังสามารถใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และลำไส้จากเชื้อแบคทีเรียเอชไพโลไร (bacteria H. pylori) ได้อีกด้วย
วิธีการใช้ยา อะม็อกซีซิลลิน
- สามารถรับประทานยานี้พร้อมอาหาร หรือไม่ก็ได้ ตามแพทย์กำหนด ทุก ๆ 8 ถึง 12 ชั่วโมง
- ขนาดยานั้นขึ้นอยู่กับอาการ ช่วงอายุ และการตอบสนองของสุขภาพต่อการรักษา
- ดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างใช้ยานี้
- ยาปฏิชีวนะจะออกฤทธิ์ได้ดี เมื่อปริมาณยาในร่างกายอยู่ในระดับคงที่ ดังนั้น โปรดรับประทานยาในเวลาที่ห่างเท่า ๆ กัน เพื่อช่วยเตือนความจำ หรือรับประทานในเวลาเดียวกันของแต่ละวัน
- ไม่ควรหยุดยา เพิ่ม และลดขนาดยาเอง จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากแพทย์
- แจ้งให้แพทย์ทราบ หากยังคงมีอาการหรืออาการแย่ลง
วิธีการเก็บรักษายา อะม็อกซีซิลลิน
- ยาอะม็อกซีซิลลิน ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง และหลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
- ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำ หรือช่องแช่แข็ง
- ไม่ควรทิ้งยาอะม็อกซีซิลลินลงในชักโครก หรือในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
- เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง
ยาอะม็อกซีซิลลิน บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน หากคุณมีข้อกังวล หรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จากเภสัชกร และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งได้ในทันที
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ Amoxicillin
ก่อนใช้ ยาอะม็อกซีซิลลิน
- ควรแจ้งแพทย์ หรือเภสัชกร ให้ทราบหากคุณมีอาการแพ้ยาในกลุ่มอะม็อกซีซิลลิน ยาเพนิซิลลิน ยาเซฟาโลสปอริน (Cephalosporins) หรือยาอื่น ๆ
- โปรดระบุสมุนไพร อาหารเสริมที่คุณกำลังใช้ รวมถึงสภาวะโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ โดยเฉพาะกับผู้ที่เป็นโรคต้อหิน และสตรีกำลังตั้งครรภ์
- แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาที่คุณกำลังใช้อยู่ร่วมไม่ว่าจะเป็นยาที่แพทย์กำหนด หรือยาตามร้านขายยา เช่น วิตามิน ยาคลอแรมเฟนิคอล (Chloramphenicol) ยาคลอโรมัยเซติน (Chloromycetin) ยาโพรเบเนซิด (Probenecid) หรือยาเบเนมิด (Benemid)
- หากคุณเคยเป็นโรคไต ภูมิแพ้ หอบหืด ไข้ละอองฟาง โรคลมพิษ หรือโรคฟีนิลคีโตนูเรีย (Phenylketonuria) อาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อวิเคราะห์ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนใช้ยาอะม็อกซีซิลลิน จากอ้างอิงจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยานี้จัดเป็นยากลุ่มเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์ประเภท B
ต่อไปนี้คือประเภทความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- A = ไม่เสี่ยง
- B = ไม่พบความเสี่ยงในงานวิจัยบางชิ้น
- C = อาจมีความเสี่ยงบางอย่าง
- D = พบหลักฐานเกี่ยวกับความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ Amoxicillin
แจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น
- มีรอยด่างขาว แผลเปื่อยภายในปาก หรือบนริมฝีปาก
- เป็นไข้ ผื่นคัน ข้อต่อบวม
- ลมพิษ
- มีปัญหาในการหายใจ
- ใบหน้า ลิ้น หรือคอบวม
- ผิวซีดหรือเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะเป็นสีเข้ม
- ร่างกายอ่อนแรง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- เลือดออกทางจมูก ปาก ช่องคลอด หรือทวารหนักผิดปกติ
- รอยฟกช้ำม่วง หรือแดงใต้ผิวหนัง
- อาการแพ้ทางผิวหนัง
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่าอาจรวมถึง
- ปวดกระเพาะอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
- คันช่องคลอดหรือมีตกขาว
- ปวดศีรษะ
- ลิ้นบวม หรือดูเป็นสีดำ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงเหล่านี้หลังจากการใช้ ยาอะม็อกซีซิลลิน อาจมีผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาอะม็อกซีซิลลิน อาจมีปฏิกิริยากับยาอื่น ๆ ที่คุณกำลังใช้ร่วมด้วย โดยอาจเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการมีปฏิกิริยาดังกล่าว ควรแจ้งรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ให้แพทย์ทราบ ไม่ว่าจะเป็นยาที่ได้รับคำสั่งจากทางแพทย์ ยาที่หาซื้อเองโดยการจำหน่ายทางเภสัชกร ดังนี้
- ยาอะคริวาสตีน (Acrivastine)
- ยาบูโพรพิออน (Bupropion)
- ยาคลอร์เตตระไซคลีน (Chlortetracycline)
- ยาเดเมโคลไซคลีน (Demeclocycline)
- ยาด็อกซีไซคลีน (Doxycycline)
- ยาไลมีไซคลีน (Lymecycline)
- ยาเมโคลไซคลีน (Meclocycline)
- ยาเมทาไซคลีน (Methacycline)
- ยาเมโทเทรกเซต (Methotrexate)
- ยาไมโนไซคลีน (Minocycline)
- ยาออกซีเตตระไซคลีน (Oxytetracycline)
- ยารอลิเตตระไซคลีน (Rolitetracycline)
- าเตตระไซคลีน (etracycline)
- ยาเวนลาฟาซีน (Venlafaxine)
- ยาวาร์ฟาริน (Warfarin)
- ยาอะซีโนคูมารอล (Acenocoumarol)
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาอะม็อกซีซิลลิน อาจอาจทำปฏิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาอะม็อกซีซิลลิน อาจส่งผลให้อาการโรคต่าง ๆ เหล่านี้ ของคุณแย่ลง เช่น อาการแพ้ยาปฏิชีวนะชนิดเพนิซิลลิน (penicillins) เซฟาโลสปอริน (cephalosporin) โรคติดเชื้อ โรคไตขั้นรุนแรง โรคทางพันธุกรรมที่เกี่ยวกับความบกพร่องของระบบเผาผลาญ เป็นต้น
ขนาดยา Amoxicillin
ข้อมูลนี้ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์โดยตรง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรของคุณก่อนที่จะใช้ ยาอะม็อกซีซิลลิน
ขนาดยาอะม็อกซีซิลลินสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อแอคตีโนไมโคสิส (Actinomycosis)
- รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน หรือ 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับป้องกันการติดเชื้อแอนแทรกซ์ (Anthrax)
- รับประทานยาครั้งละ 500 มิลลิกรัมทุก ๆ 8 ชั่วโมง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อบาซิลลัสแอนแทรกซ์ที่ผิวหนัง (Cutaneous Bacillus anthracis)
- รับประทานยาครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียเอนโดคาร์ดิติส (Bacterial Endocarditis)
- รับประทานยาครั้งละ 2 กรัม ก่อนเข้ารับการรักษา 1 ชั่วโมง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อหนองในเทียม
- ครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 3-7 วัน หรือรับประทานยา ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 3-7 วัน หรือรับประทานยา ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อเอชไพโรไล (Helicobacter pylori)
- รับประทานยา ครั้งละ 1 กรัม 2 ถึง 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 14 วัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคไลม์ (Lyme Disease) ชนิดข้ออักเสบ
- รับประทานยา ครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 14-30 วัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคไลม์ชนิดหัวใจอักเสบ
- รับประทานยา ครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 14-30 วัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคไลม์ชนิดเป็นผื่นและปวดศีรษะแบบไมเกรน (Erythema Chronicum Migrans)
- รับประทานยา ครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 14-30 วัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคไลม์ชนิดเป็นที่ระบบประสาท
- รับประทานยา ครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 14-30 วัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบ
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 10 ถึง 14 วัน หรือครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคปอดบวม
- รับประทานยา ครั้งละ 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันหรือ ครั้งละ 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 7 ถึง 10 วัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคโพรงจมูกอักเสบ
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 10 ถึง 14 วันหรือ ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือเนื้อเยื่ออ่อน
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 7 ถึง 10 วันหรือ ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 7 ถึง 10 วันหรือ ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 7 ถึง 10 วันหรือ ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาภาวะต่อมทอนซิล
- ชนิดออกฤทธิ์ทันที: รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 7-10 วัน หรือครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
- ชนิดออกฤทธิ์เป็นระยะเวลานาน : รับประทานยา ครั้งละ 775 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน ภายใน 1 ชั่วโมง หลังอาหารเป็นเวลา 10 วัน สำหรับอาการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัสไพโอจีน (Streptococcus pyogenes)
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย
- รับประทานยา ครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 7-21 วันหรือ ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
ขนาดยาอะม็อกซีซิลลินสำหรับเด็ก
ขนาดยาทั่วไปสำหรับป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียเอนโดคาร์ดิติส
- รับประทานยา 50 มิลลิกรัม ภายใน 1 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการรักษา
ขนาดยาทั่วไปสำหรับป้องกันการติดเชื้อแอนแทรกซ์
- รับประทานยา 80 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาที่เท่ากันในแต่ละครั้งทุก ๆ 8 ชั่วโมง
- ขนาดยาสูงสุด: 500 มิลลิกรัม ต่อครั้ง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อบาซิลลัสแอนแทรกซ์ที่ผิวหนัง
- การรักษาการยืนยันอาการติดเชื้อบาซิลลัสแอนเทรกซ์ที่ผิวหนัง : รับประทานยา 80 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาที่เท่ากันในแต่ละครั้งทุก ๆ 8 ชั่วโมง
- ขนาดยาสูงสุด: 500 มิลลิกรัม ต่อครั้ง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบ
- 4 สัปดาห์ถึง 3 เดือน : 20 ถึง 30 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่า ๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
- 4 เดือนถึง 12 ปี: 20 ถึง 50 มิลลิกรัม ต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่า ๆ กันทุก 8-12 ชั่วโมง
- โรคหูชั้นกลางอักเสบฉับพลันจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัสนิวโมเนียที่ดื้อยา (Streptococcus pneumonia) อาจจำเป็นต้องใช้ขนาดยา 80 ถึง 90 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็น 2 ครั้งในขนาดยาเท่า ๆ กันในแต่ละช่วง 12 ชั่วโมง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเนื้อเยื่ออ่อน
- 4 สัปดาห์ถึง 3 เดือน : 20 ถึง 30 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่า ๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
- 4 เดือนถึง 12 ปี : 20 ถึง 50 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่า ๆ กันทุก 8 ถึง 12 ชั่วโมง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ
- 4 สัปดาห์ถึง 3 เดือน: 20 ถึง 30 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่า ๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
- 4 เดือนถึง 12 ปี: 20 ถึง 50 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่า ๆ กันทุก 8 ถึง 12 ชั่วโมง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคปอดบวม
- รับประทานยา 40 ถึง 50 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นหลายขนาดยาในทุก 8 ชั่วโมง
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาภาวะต่อมทอนซิลหรือคอหอยอักเสบ
- 4 สัปดาห์ถึง 3 เดือน: 20 ถึง 30 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่าๆ กันทุก 12 ชั่วโมง
- 4 เดือนถึง 12 ปี: 20 ถึง 50 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็นขนาดยาเท่าๆ กันทุก 8 ถึง 12 ชั่วโมง
- ชนิดออกฤทธิ์ทันที : รับประทานยาครั้งละ 250 ถึง 500 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 7 ถึง 10 วันหรือ ครั้งละ 500 ถึง 875 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวัน
- ชนิดออกฤทธิ์นาน : รับประทานยา ครั้งละ 775 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวันภายใน 1 ชั่วโมงหลังอาหาร เป็นเวลา 10 วัน สำหรับอาการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัสไพโอจีนเป็นครั้งที่สอง
รูปแบบของยา
ยาอะม็อกซีซิลลินมีรูปแบบดังต่อไปนี้
- ยาอะม็อกซีซิลลิน รูปแบบยาเม็ด
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา