ข้อบ่งใช้
ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ใช้สำหรับ
ควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ (Quinapril and Hydrochlorothiazide) ใช้เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง การลดระดับความดันโลหิตจะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง อาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และปัญหาเกี่ยวกับไต
ยานี้มีส่วนประกอบของยาอยู่สองชนิด ได้แก่ ยาควินาพริลและยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ยาควินาพริลอยู่ในกลุ่มของยาเออีซีอินฮิบิเตอร์ (ACE inhibitors) และทำงานโดยการขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ง่ายขึ้น ส่วนยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์อยู่ในกลุ่มของยาขับปัสสาวะ ทำงานโดยการทำให้คุณปัสสาวะมากขึ้น จึงช่วยกำจัดน้ำและเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย
วิธีใช้ยา ควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์
รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหาก ตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละ 1 ครั้งในตอนเช้า หากคุณรับประทานยานี้ก่อนนอน อาจทำให้คุณตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกได้ จึงควรรับประทานยานี้อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา
ใช้ยานี้เป็นประจำ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด และเพื่อให้จำง่ายขึ้น ควรใช้ยาในเวลาเดียวกันทุกวัน และควรใช้ยานี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณจะรู้สึกเป็นปกติ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงมักไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ
อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ กว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากยา
ยานี้มีแมกนีเซียมซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดูดซึมของยาบางชนิด
หากคุณใช้ยาลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด อย่างไบล์แอซิดไบดิ้งเรซิ่น (bile acid-binding resins) เช่น คอเลสไทรามีน (Cholestyramine) หรือคอเลสติพอล (Colestipol) ควรรับประทานยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ให้ห่างจากยาดังกล่าวอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
การเก็บรักษาคลินดามัยซิน และ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์
ควรเก็บยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเสื่อมสภาพ ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรอ่านคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ และโปรดเก็บยาให้พ้นจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
ไม่ควรทิ้งยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลวิธีกำจัดยาที่ถูกต้องได้จากเภสัชกร
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์
ก่อนใช้ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์โปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ หาก
- คุณแพ้ต่อยาควินาพริล หรือยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ หรือแพ้ต่อยาเออีซีอินฮิบิเตอร์ (ACE Inhibitor) เช่น แคปโตพริล (Captopril) ลิซิโนพริล (Lisinopril) หรือแพ้ต่อยาไทอะไซด์ (Thiazides) เช่น คลอโรไธอะไซด์ (Chlorothiazide) หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ เนื่องจากยานี้อาจมีส่วนประกอบไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- คุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ หรือมีแผนจะใช้ยาอื่น ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่หาซื้อได้เองวิตามิน อาหารเสริม สมุนไพร เป็นต้น
- คุณเป็นหรือเคยเป็นโรคใดๆ โดยเฉพาะหาก
- เคยมีอาการแพ้ รวมถึงอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น ลำคอ อย่างโรคแองจิโออีดีมา (Angioedema)
- เคยเข้ารับการกรองเลือด เช่น การกรองไขมันไม่ดีจากเลือด (LDL Apheresis)
- เคยเข้ารับการการฟอกไต
- เกาต์
- ปัญหาเกี่ยวกับไต
- โรคตับ
- ภาวะขาดน้ำ
- อาการแร่ธาตุไม่สมดุลที่ไม่ได้รับการรักษา เช่น โพแทสเซียมสูงหรือต่ำ
- โรคลูปัส (Lupus)
ยาตัวนี้อาจทำให้คุณเวียนศีรษะ และหากคุณดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะยิ่งทำให้เวียนศีรษะมากขึ้น ฉะนั้น อย่าขับรถ อย่าใช้เครื่องจักร หรืออย่าทำอะไรที่จำเป็นต้องมีการตื่นตัว จนกว่าคุณจะทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย และควรลดหรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
ก่อนการผ่าตัด โปรดแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบ เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ ทั้งยาตามใบสั่งยา ยาที่หาซื้อเอง และสมุนไพรต่างๆ
อาการเหงื่อออกมากเกินไป ท้องร่วง หรืออาเจียน อาจทำให้เกิดการสูญเสียน้ำในร่างกายมากเกินไปหรือภาวะขาดน้ำ และเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการหน้ามืดได้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากมีอาการท้องร่วงหรืออาเจียนในระยะยาว ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ เว้นแต่แพทย์จะสั่งอย่างอื่น
ยานี้อาจทำให้คุณมีปฏิกิริยาไวต่อแสงแดดได้ จึงควรจำกัดเวลาในการอยู่ใต้แสงแดด หลีกเลี่ยงการอาบแดด ควรทาครีมกันแดด และสวมเสื้อผ้าป้องกันเมื่ออยู่นอกบ้าน และต้องแจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากคุณเกิดอาการแดดเผา ผิวไหม้แดด หรือมีแผลพุพองหรือรอยแดงที่ผิวหนังนัง
ยานี้อาจเพิ่มระดับของโพแทสเซียม ก่อนใช้อาหารเสริมโพแทสเซียม หรือสารทดแทนเกลือที่มีโพแทสเซียม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
หากคุณเป็นโรคเบาหวาน ยานี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ และแจ้งผลให้แพทย์ทราบ หากคุณมีอาการระดับน้ำตาลในเลือดสูง เช่น ปัสสาวะเพิ่มขึ้นกระหายน้ำเพิ่มขึ้น โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพราะแพทย์อาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาสำหรับโรคเบาหวาน โปรแกรมการออกกำลังกาย หรืออาหารที่รับประทาน
ผู้สูงอายุอาจมีการตอบสนองต่อผลข้างเคียงของยานี้ได้มากกว่าคนวัยอื่น โดยเฉพาะอาการวิงเวียน และปัญหาเกี่ยวกับไต เช่น ปริมาณของปัสสาวะเปลี่ยนแปลง
ไม่แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้ในช่วงตั้งครรภ์ หรือวางแผนตั้งครรภ์ เพราะตัวยาอาจทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ยานี้สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนม จึงควรโปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท D โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A = ไม่มีความเสี่ยง
- B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C = อาจจะมีความเสี่ยง
- D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์
อาการเหนื่อยช้า ปวดศีรษะ วิงเวียน และหน้ามืด อาจเกิดขึ้นได้ในขณะที่ร่างกายกำลังปรับตัวเข้ากับยา และบางครั้งอาจมีอาการไอแห้งด้วย หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้น โปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที และเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการวิงเวียนและหน้ามืด ควรลุกขึ้นจากท่านั่งหรือท่านอนช้าๆ
โปรดจำไว้ว่า แพทย์สั่งจ่ายยาตัวนี้ให้คุณใช้ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่ายานี้มีประโยชน์มากกว่าโทษ และคนส่วนใหญ่ที่ใช้ยานี้ไม่เกิดผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ
ยานี้อาจทำให้เกิดเกิดการสูญเสียน้ำและเกลือหรือแร่ธาตุมากเกินไป ฉะนั้น โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากคุณมีอาการของภาวะขาดน้ำและสูญเสียแร่ธาตุ ได้แก่
- กระหายน้ำมาก
- ปากแห้งมาก
- เป็นตะคริว หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- หัวใจเต้นเร็ว ช้า หรือผิดปกติ
- สับสน
- ปัสสาวะลดลง
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากเกิดผลข้างเคียง ดังต่อไปนี้
- สัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับไต เช่น ปริมาณของปัสสาวะเปลี่ยนแปลง
- อาการของโพแทสเซียมในเลือดสูง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นช้าหรือผิดปกติ
- หมดสติ
- การมองเห็นลดลง ปวดตา
ยานี้อาจทำให้เกิดโรคตับที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ ควรรับการรักษาทันทีหากเกิดอาการของตับเสียหาย เช่น
- คลื่นไส้อาเจียนไม่หยุด
- เบื่ออาหาร
- ปวดท้อง
- ดวงตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง
- ปัสสาวะสีคล้ำ
การแพ้ยานี้ขั้นรุนแรงค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้ยารุนแรง ได้แก่
- ผดผื่น คันหรือบวม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ
- วิงเวียนขั้นรุนแรง
- หายใจติดขัด
ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจทำปฏิกิริยากับยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ได้แก่
- อะลิสคิเรน (Aliskiren)
- โดฟีทิไลด์ (Dofetilide)
- ลิเทียม (Lithium)
- ทองสำหรับฉีด (Gold injections)
- ซาคูบิทริล (Sacubitril)
- ยาที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงหรือเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ เช่น เอเวอโรลิมัส (Everolimus) ไซโรลิมัส (Sirolimus)
- ยาที่อาจเพิ่มระดับของโพแทสเซียมในเลือด เช่น ยาเออาร์บี (ARBs) อย่างลอซาร์แทน (Losartan) วาลซาร์แทน (Valsartan)
- ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีดรอสไพรีโนน (Drospirenone)
ยานี้อาจมีแมกนีเซียมที่ส่งผลกระทบต่อการดูดซึมยาบางชนิดได้ โดยเฉพาะหากรับประทานในเวลาเดียวกัน คุณจึงควรสอบถามแพทย์ให้แน่ใจว่า ต้องเว้นระยะในการรับประทานยาแต่ละชนิดนานแค่ไหน โดยยาเหล่านั้นได้แก่
- ยาปฏิชีวนะควิโนโลน (Quinolone) อย่างไซโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) หรือลีโวฟลอกซาซิน (Levofloxacin)
- ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีน (Tetracycline) อย่างด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) หรือมิโนไซคลีน (Minocycline)
- ยาไทรอยด์ เช่น เลโวไทรอกซีน (Levothyroxine)
- ยาสำหรับโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) เช่น ยาในกลุ่มไบฟอสโฟเนตส์ (Bisphosphonates) อย่างอะเลนโดรเนท (Alendronate)
ผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจมีส่วนประกอบที่สามารถเพิ่มระดับความดันโลหิตได้ โปรดแจ้งให้เภสัชกรทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ และสอบถามวิธีการใช้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะยาแก้ไอแก้หวัด ยาลดความอ้วน หรือยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (Nonsteroidal anti-inflammatory drug; NSAID) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน (Naproxen)
การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (Desensitization) สำหรับอาการแพ้ผึ้งหรือตัวต่อ ในช่วงที่ใช้ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ อาจทำให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงได้ จึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาที่คุณกำลังใช้
ยานี้อาจส่งผลกระทบต่อการตรวจในห้องแล็บบางอย่าง เช่น การทำงานของพาราไทรอยด์ (Parathyroid function) และทำให้ผลการตรวจเป็นเท็จ ควรแจ้งให้บุคลากรในห้องทุกลองและแพทย์ทุกคนทราบว่า คุณกำลังใช้ยานี้
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาปกติสำหรับภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension)
รับประทานยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ 12.5-25 มก. ร่วมกับยาควินาพริล 10 ถึง 20 มก. วันละครั้ง
คำแนะนำ
ขนาดยาเริ่มต้นของยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ควรขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละราย
การปรับขนาดยาสำหรับไต
ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ (CrCl) น้อยกว่า 25 มล./นาที : ไม่แนะนำ
การปรับขนาดยาสำหรับตับ
ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
ขนาดยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์สำหรับเด็ก
การฟอกไต
ไม่สามารถกำจัดยาควินาพริลได้จากการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) หรือการฟอกไตทางช่องท้อง
คำแนะนำอื่นๆ
- ควรใหยาควินาพริล และ ไฮโดรคลอโรไทอะไซในเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องคำนึงถึงอาหาร
- ในผู้ป่วยที่ไตบกพร่อง และจำเป็นต้องใช้ยานี้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ แนะนำให้ใช้ยาขับปัสสาวะอย่างยาไธอะไซด์ (Thiazide)
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]