ข้อบ่งใช้ เนวิราปีน
เนวิราปีน ใช้สำหรับ
เนวิราปีน (Nevirapine) ใช้ร่วมกับยารักษาอาการติดเชื้อเอชไอวีอื่นๆ (HIV) เพื่อช่วยในการควบคุมการติดเชื้อเอชไอวี ยานี้ช่วยลดประมาณของเชื้อเอชไอวีภายในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น และลดโอกาสในการเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้น เช่น การติดเชื้อใหม่ โรคมะเร็ง ยาเนวิราปีนนั้นอยู่ในกลุ่มของยาเอ็นเอ็นอาร์ทีไอ (NNRTIs)
ยาเนวิราปีนไม่สามารถรักษาการติดเชื้อเอชไอวีให้หายขาด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่น ควรทำตามดังต่อไปนี้ คือ
- ใช้ยารักษาโรคเอชไอวีที่แพทย์กำหนดทั้งหมด อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด
- ควรใช้การคุมกำเนิดแบบแบบใช้สิ่งกีดขวาง เช่น ถุงยางอนามัยหรือแผ่นยางอนามัยแบบลาเท็กซ์ หรือโพลียูรีเทน ขณะทำกิจกรรมทางเพศทั้งหมด
- ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน เช่น เข็มฉีดยา แปรงสีฟัน และมีดโกน ที่อาจสัมผัสหรือเกิดการติดเชื้อเข้าสู่ทางเลือด โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่ควรใช้ยาเนวิราปีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย จากการสัมผัสเชื้อโรคโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรใช้ยารักษาโรคเอชไอวีอื่น เพื่อป้องกันหลังจากการสัมผัสเชื้อ
วิธีการใช้ เนวิราปีน
- รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหาก โดยปกติคือวันละครั้ง เป็นเวลา 14 วัน เมื่อเริ่มต้นการรักษา แล้วตามด้วยวันละ 2 ครั้ง หรือตามที่แพทย์กำหนด
- หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับตับ ปฏิกิริยาที่ผิวหนัง หรืออาการแพ้ ขณะที่ใช้ยานี้ควรรับการรักษาในทันที และอย่าเพิ่มปริมาณยาโดยไม่รับได้รับอนุญาตจากแพทย์
- หากคุณกำลังใช้ยาในรูปแบบยาน้ำแขวนตะกอน ควรเขย่าขวดเบาๆ ก่อนใช้ยาทุกครั้ง ควรตวงยาด้วยเครื่องมือหรือช้อนสำหรับตวงยา อย่าใช้ช้อนทานอาหาร เนื่องจากอาจได้ปริมาณยาที่ไม่ถูกต้อง หากคุณใช้ถ้วยตวงยา ควรทำความสะอาดถ้วยด้วยน้ำเปล่าก่อนและหลังเพื่อความสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรคอื่นๆ
- ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา สำหรับเด็กขนาดยายังขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวอีกด้วย
- อย่าใช้ยาสำหรับรับประทานนานกว่า 28 วัน หากใกล้จะถึงระยะเวลานั้น แพทย์อาจพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ยาอื่น โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- หากคุณหยุดใช้ยานี้นานกว่า 7 วัน ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากปฏิกิริยารุนแรงตามอธิบายไว้ในหัวข้อคำเตือนและข้อควรระวัง ควรสอบถามแพทย์ถึงวิธีการกลับมาเริ่มต้นใช้ยาใหม่อีกครั้ง คุณอาจต้องรับประทานยานี้วันละครั้ง เป็นเวลา 14 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
ควรจะใช้ยานี้อย่างต่อเนื่อง (และยารักษาเชื้อเอชไอวีอื่นๆ) ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด อย่าข้ามมื้อยาใดๆ และอย่าเพิ่มปริมาณยา ใช้เกินกว่ากำหนด หรือหยุดใช้ ก่อนจะแพทย์จะอนุญาต เพราะอาจทำให้ปริมาณของไวรัสเพิ่มขึ้น ทำให้การติดเชื้อรักษาได้ยากขึ้น (ดื้อยา) หรือผลข้างเคียงรุนแรงขึ้น
ยานี้จะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อมีปริมาณของยาในร่างกายอยู่ในระดับคงที่ ดังนั้น จึงควรรับประทานยาโดยเว้นระยะเวลาที่เท่ากัน เพื่อให้ง่ายต่อการจำควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน
การเก็บรักษา เนวิราปีน
- ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
- เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรทิ้งเนวิราปีนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน
เนวิราปีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ เนวิราปีน
- ก่อนใช้เนวิราปีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีสารไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ได้ โปรดสอบถามเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติโรคประจำตัวทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ อย่างตับอักเสบบีหรือซี (hepatitis B or C) โรคตับแข็ง (cirrhosis) การฟอกไต (kidney dialysis) หรือโรคแพ้น้ำตาลกาแล็กโทสหรือแล็กโทส (galactose or lactose intolerance)
- ยานี้อาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม อย่าขับยานพาหนะ และใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว จนกว่าอาการของคุณจะดีขึ้น จำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
- ระหว่างการตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น การรักษาสามารถลดความเสี่ยง ในการส่งต่อเชื้อเอชไอวีไปสู่ลูกได้ และยาเนวิราปีนอาจเป็นส่วนหนึ่งของการรักษานั้น โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์
เนวิราปีนสามารถเข้าสู่น้ำนมแม่ได้ เนื่องจากการน้ำนมแม่สามารถถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีได้ ไม่ควรให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
เนวิราปีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ เนวิราปีน
อาการที่พบได้ทั่วไปเมื่อใช้เนวิราปีน มีดังนี้
- เกิดความเหนื่อยล้า
- คลื่นไส้อาเจียนหรือท้องเสีย
หากอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณทันที
โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากคำนวณแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากเกิดอาการที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นแต่รุนแรงดัง ต่อไปนี้
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรุนแรง อ่อนเพลีย
- ปวดหัวรุนแรงรู้สึกเสียวซ่าที่มือ , เท้า , แขน และขา
- การมองเห็นเปลี่ยนแปลง
- มีไข้ หนาวสั่น
- ต่อมน้ำเหลืองบวม
- หายใจลำบาก ไอ
- มีภาวะทางอารมณ์เปลี่ยนแปลงเช่น หงุดหงิด
- อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น หรือเต้นผิดปกติ
เนวิราปีนมักทำให้เกิดผื่นที่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตามคุณอาจไม่สามารถบอกได้ว่ามีผื่นที่หายากซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปฏิกิริยารุนแรง ดังนั้นรีบไปพบแพทย์ทันทีหากคุณมีผื่นขึ้น
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับเนวิราปีน ได้แก่
- ออริสแตท (orlistat)
- ไรฟาบูติน (rifabutin)
- วาฟาริน (warfarin)
ยาอื่นอาจส่งผลต่อการกำจัดยาเนวิราปีนออกจากร่างกาย และส่งผลกระทบต่อการทำงานของยาเนวิราปีนได้
- ยาไรฟามัยซิน (rifamycins) และอื่นๆ
ยาเนวิราปีนสามารถเพิ่มความเร็วในการกำจัดยาอื่นออกจากร่างกาย และส่งผลกระทบการทำงานของยานั้นได้ เช่น
- ยารักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ (antiarrhythmics) เช่น อะมิโอดาโรน (amiodarone) อะซูนาพรีเวียร์ (asunaprevir) โบซีพรีเวียร์ (boceprevir) โคบิซิสแตท (cobicistat) เออวิทิกราเวียร์ (elvitegravir)
- ยาบางชนิดที่ใช้เพื่อรักษาอาการชัก เช่น โคลนาซีแพม (clonazepam)
- ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals) เช่น ไอทราโคนาโซล (itraconazole) คีโตโคนาโซล (ketoconazole)
- ยาปฏิชีวนะแมคโครไลด์ (macrolide antibiotics) เช่น คลาริโทรมัยซิน (clarithromycin) เมทาโดน (methadone) ทีลาพรีเวียร์ (telaprevir) และอื่นๆ
ยาอื่นที่ใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี รวมถึงยาในกลุ่มโปรตีเอส อินฮิบิเตอร์ (protease inhibitors) เช่น อะทาซานาเวียร์ (atazanavir) ริโทนาเวียร์ (ritonavir) อาจมีปฏิกิริยากับเนวิราปีน แพทย์จะปรับปริมาณของยาและเฝ้าระวังการรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรง
อย่าใช้ยาเพรดนิโซโลน (Prednisolone) เพื่อป้องกันผดผื่น เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการผดผื่นช่วง 6 สัปดาห์แรกของการใช้ยาเนวิราปีนได้ โปรดสอบถามแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ยานี้อาจลดประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด แผ่นแปะคุมกำเนิด หรือห่วงคุมกำเนิด และส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับวิธีการคุมกำเนิดเพิ่มเติมหรือทางเลือกอื่นในการคุมกำเนิดที่น่าเชื่อถือ และควรจะใช้การคุมกำเนิดแบบแบบใช้สิ่งกีดขวาง เช่น ถุงยางอนามัย หรือแผ่นยางอนามัยแบบลาเท็กซ์หรือโพลียูรีเทน ขณะทำกิจกรรมทางเพศทั้งหมดเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่น แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณสังเกตเห็นอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย หรือเลือดออกมาก เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่า การคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมนนั้นทำงานได้ไม่ดี
เนวิราปีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น คุณควรบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
เนวิราปีนอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
เนวิราปีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาด เนวิราปีน สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี (HIV Infection)
ขนาดยาเริ่มต้น (ช่วงการเริ่มใช้ยา)
- ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที : 200 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้งเป็นเวลา 14 วัน
ขนาดยาปกติ (หลังจากช่วงการเริ่มใช้ยา)
- ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที : 200 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
- ยารูปแบบออกฤทธิ์นาน : 400 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
การใช้งาน
- ใช้ร่วมกับยาต้านรีโทรไวรัสอื่นๆ (antiretroviral agents) เพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี-1 (HIV-1)
การปรับขนาดยาสำหรับโรคไต
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์ (CrCl) อย่างน้อย 20 มล./นาที (และไม่จำเป็นต้องฟอกไต) : ไม่มีการปรับขนาดยาที่แนะนำ
- ค่าครีอะตินีนเคลียรานซ์น้อยกว่า 20 มล./นาที : ไม่มีข้อมูล
คำแนะนำ
- ยังไม่มีการศึกษายารูปแบบออกฤทธิ์นานในผู้ป่วยที่มีไตบกพร่อง
การปรับขนาดยาสำหรับโรคตับ
- ตับบกพร่องระดับปานกลางหรือรุนแรง (ไชด์พิว [Child-Pugh] บี หรือ ซี) : ข้อห้ามการใช้งาน
คำแนะนำ
ยังไม่มีการศึกษายารูปแบบออกฤทธิ์นานในผู้ป่วยที่มีตับบกพร่อง
การปรับขนาดยา
ผู้ป่วยที่ต้องระงับการใช้ยา
- หากระงับการใช้ยานี้นานมากกว่า 7 วัน ควรเริ่มต้นใช้ยาที่ขนาดต่ำ (ใช้ยาแบบออกฤทธิ์ทันที) สำหรับ 14 วันแรก
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ : ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ (มีอาการ) ควรหยุดใช้ยาอย่างถาวร
- ไม่ควรเริ่มต้นใช้ยาใหม่หลังจากอาการดีขึ้น
ผู้ป่วยที่มีผดผื่น
- ควรหยุดใช้เนวิราปีนหากเกิดอาการผดผื่นอย่างรุนแรงหรือผดผื่นที่มาพร้อมกับอาการทั่วไป
- หากผู้ป่วยมีผดผื่นระดับเบาถึงปานกลางโดยไม่มีอาการทั่วไปในช่วงเริ่มต้นใช้ยา 14 วันแรกของการใช้ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที
- ไม่ควรเพิ่มขนาดยารูปแบบออกฤทธิ์ทันทีหรือไม่ควรเริ่มต้นการรักษาด้วยยารูปแบบออกฤทธิ์นานจนกว่าอาการผดผื่นจะหายไป
- ระยะเวลาทั้งหมดทั้งหมดของการรักษาเริ่มต้นไม่ควรเกิน 28 วัน ในกรณีนั้นควรเริ่มต้นใช้ยาชนิดอื่น
การฟอกไต (Dialysis)
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis):
- ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที : ควรเสริมยาขนาด 200 มก. ให้หลังจากการฟอกไตทุกครั้ง
- ยารูปแบบออกฤทธิ์นาน : ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด
คำแนะนำ
- เมทาโบไลท์ (Metabolites) ของยานี้อาจจะเกิดการสะสมในผู้ป่วยที่ทำการฟอกไต ยังไม่มีการพิสูจน์นัยสำคัญทางการแพทย์
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้งาน
- เนื่องจากพบความเป็นพิษต่อตับ ที่รุนแรงและถึงแก่ชีวิต อย่าเริ่มใช้ยานี้ (นอกเสียจากจะมีประโยชน์มากกว่าโทษ) ในผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่ และมีปริมาณเซลล์ซีดีโฟร์ (CD4+) มากกว่า 250 เซลล์/ลบ.ม. หรือผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ และมีปริมาณเซลล์ซีดีโฟร์พลัสมากกว่า 400 เซลล์/ลบ.ม.
- อย่าใช้เนวิราปีนเป็นยาชนิดเดียวสำหรับรักษาโรคเอชไอวี-1 หรือเพิ่มเข้าในสูตรการใช้ยาที่ล้มเหลวเป็นยาชนิดเดียว
- อาจรับประทานได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงอาหาร
- หากใช้ยารูปแบบแขวนตะกอนสำหรับรับประทาน ควรเขย่าขวดยาเบาๆ ทุกครั้งก่อนใช้งาน และใช้กระบอกยาสำหรับรับประทานเพื่อตวงยาให้ถูกต้อง
- กลืนยาเม็ดออกฤทธิ์นานลงไปทั้งเม็ด โดยไม่ต้องเคี้ยว บด หรือแบ่งเม็ดยา ควรพิจารณาความสามารถในการกลืนก่อนสั่งให้ใช้ยารูปแบบออกฤทธิ์นาน
- อย่าใช้ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันทีและออกฤทธิ์นานควบคู่กัน
การเฝ้าระวัง
- ทั่วไป : คลินิกและห้องทดลอง (พื้นฐานและในช่วง 18 สัปดาห์แรกของการรักษา [ควรมีการศึกษาข้อมุลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต]) ความเป็นพิษเนื่องจากยาในผู้ป่วยที่มีพังผืดที่ตับ (hepatic fibrosis) หรือโรคตับแข็ง (cirrhosis)
- ตับ : เอนไซม์ตับ (พื้นฐานและในช่วง 18 สัปดาห์แรกของการรักษา ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต)
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ควรอ่านฉลากยาสำหรับผู้ป่วย ที่ได้รับการรับรองจากองการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (คู่มือการใช้ยา)
- หยุดใช้ยาและรับการรักษาในทันที (รวมถึงการเฝ้าระวังทางห้องทดลอง) หากสังเกตเห็นสัญญาณหรืออาการของโรคตับ หรือปฏิกิริยาผิวหนังอย่างรุนแรง
- หยุดใช้ยาและรับการรักษาในทันที หากสังเกตเห็นสัญญาณหรืออาการของโรคตับอักเสบ
- หากผดผื่นใดๆ เกิดขึ้นระหว่าง 2 สัปดาห์ของการเริ่มต้นการใช้ยา อย่าเพิ่มขนาดยาออกฤทธิ์ทันที หรืออย่าเริ่มใช้ยาออกฤทธิ์นาน หยุดใช้ยาและเข้าพบปรึกษาแพทย์ หากมีอาการผดผื่นอย่างรุนแรง หรือภาวะภูมิแพ้ (hypersensitivity)
- ปรึกษาแพทย์ทันที หากมีสัญญาณหรืออาการของการติดเชื้อ
ขนาด เนวิราปีน สำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี (HIV Infection)
ขนาดยาเริ่มต้น (ช่วงการเริ่มใช้ยา)
- ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที : อายุ 15 วันขึ้นไป 150 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 14 วัน
- ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./วัน
ขนาดยาปกติ (หลังจากช่วงการเริ่มใช้ยา)
- ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที: อายุ 15 วันขึ้นไป 150 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
- ยารูปแบบออกฤทธิ์นาน : อายุ 6 ปีขึ้นไป 400 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
- พื้นที่ผิวร่างกาย (BSA) 0.58 ถึง 0.83 ตารางเมตร : 200 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
- พื้นที่ผิวร่างกาย (BSA) 0.84 ถึง 1.16 ตารางเมตร : 300 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
- พื้นที่ผิวร่างกาย (BSA) อย่างน้อย 1.17 ตารางเมตร : 400 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
ขนาดยาปกติสูงสุด 400 มก./วัน
การใช้งาน
- ใช้ร่วมกับยาต้านรีโทรไวรัสอื่นๆ (antiretroviral agents) เพื่อรักษาการติดเชื้อเอชไอวี-1 (HIV-1)
- ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแผนการรักษาด้วยยาต้านรีโทรไวรัส และการจัดการยาสำหรับเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี:
ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที :
- อายุครรภ์ 34 สัปดาห์จนถึงน้อยกว่า 37 สัปดาห์ อายุน้อยกว่า 1 เดือน: 4 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้งในสัปดาห์แรก ตามด้วย 6 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
- อายุครรภ์อย่างน้อย 37 สัปดาห์ อายุน้อยกว่า 1 เดือน: 6 มก./กก. รับประทานวันละสองครั้ง
- อายุ 1 เดือน จนถึง น้อยกว่า 8 ปี
ขนาดยาเริ่มต้น (ช่วงการเริ่มใช้ยา)
- 200 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้งเป็นเวลา 14 วัน
ขนาดยาปกติ
- 200 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
อายุ 8 ปีขึ้นไป
ขนาดยาเริ่มต้น (ช่วงการเริ่มใช้ยา)
- 120 ถึง 150 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้งเป็นเวลา 14 วัน
ขนาดยาปกติ
- 120 ถึง 150 มก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
ขนาดยาสูงสุด: 200 มก./วัน
ยารูปแบบออกฤทธิ์นาน:
อายุ 6 ปีขึ้นไป
ขนาดยาปกติ
- พื้นที่ผิวร่างกาย (BSA) 0.58 ถึง 0.83 ตารางเมตร: 200 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
- พื้นที่ผิวร่างกาย (BSA) 0.84 ถึง 1.16 ตารางเมตร: 300 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
- พื้นที่ผิวร่างกาย (BSA) อย่างน้อย 1.17 ตารางเมตร: 400 มก. รับประทานวันละ 1 ครั้ง
คำแนะนำ:
- สำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 2 ปี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า สามารถเริ่มต้นใช้ยาโดยไม่ต้องใช้ยาในขนาดเริ่มต้น
- ตราบเท่าที่ไม่มีผลข้างเคียง ก็ไม่จำเป็นต้องลดปริมาณยา เมื่อเด็กมีอายุถึง 8 ปี ให้ใช้ยาในขนาดเดิมที่เหมาะสมตามความเติบโตของเด็ก
- ปริมาณยาโดยรวมต่อวันไม่ควรเกิน 400 มก.
- ควรมีการศึกษาแนวทางในปัจจุบันเพื่อข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อลดโอกาสการได้รับการถ่ายทอดเพื่อเอชไอวีในครรภ์ (Reduction of Perinatal Transmission of HIV)
คำแนะนำจากแผนการรักษาสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีและการป้องกันโอกาสในการถ่ายทอดเชื้อไวรัส:
ขนาดยาสำหรับป้องกัน
- น้ำหนักแรกเกิด 1.5 ถึง 2 กก.: 8 มก. รับประทานวันละครั้งเป็นจำนวน 3 ครั้ง
- น้ำหนักแรกเกิดมากกว่า 2 กก.: 12 มก. รับประทานวันละครั้งเป็นจำนวน 3 ครั้ง
ขนาดยาสำหรับรักษา
- อายุครรภ์ 34 ถึงน้อยกว่า 37 สัปดาห์เมื่อคลอด อายุไม่เกิน 1 สัปดาห์: 4 มก./กก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
- อายุครรภ์ 34 ถึงน้อยกว่า 37 สัปดาห์เมื่อคลอด อายุ 1 ถึง 6 สัปดาห์: 6 มก./กก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
- อายุครรภ์อย่างน้อย 37 สัปดาห์เมื่อคลอด อายุไม่เกิน 6 สัปดาห์: 6 มก./กก. รับประทานวันละ 2 ครั้ง
คำแนะนำ
- แนะนำให้ใช้ยารูปแบบออกฤทธิ์ทันที
- การใช้ยาต้านรีโทรไวรัสร่วมกันสำหรับการป้องกัน โดยใช้ยานี้ 3 ครั้ง (ใช้ขนาดยาสำหรับป้องกัน) ร่วมกับการใช้ยาซิโดวูดีน (zidovudine) 6 สัปดาห์ หรือการรักษาโรคเอชไอวีแบบครอบคลุมเชื้ออย่างกว้างๆ (empiric HIV therapy) โดยใช้ยานี้ (ใช้ขนาดยาสำหรับรักษา) ร่วมกับการใช้ยาซิโดวูดีนและยาลามิวูดีน (lamivudine) แนะนำสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง ในการได้รับการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีในครรภ์ และทารกแรกเกิดที่คาดว่าจะเปิดรับเชื้อเอชไอวี
- แนะนำการใช้ยานี้ (ใช้ขนาดยาสำหรับรักษา) ร่วมกับการใช้ยาซิโดวูดีนและยาลามิวูดีน สำหรับทารกแรกเกิดที่ยืนยันว่าติดเชื้อเอชไอวี
- ระยะเวลาการรักษาโรคเอชไอวีแบบครอบคลุมเชื้ออย่างกว้างๆ ที่ดีที่สุดสำหรับทารกแรกเกิดที่มีความเสี่ยงสูง ในการได้รับถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีในครรภ์ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจะใช้การรักษาร่วมกัน 6 สัปดาห์ ในขณะที่ผู้อื่นจะหยุดใช้ยานี้ และ/หรือยาลามิวูดีนหลังจากที่ผลการตรวจในทารกเป็นลบ
- ควรเริ่มต้นการรักษานี้ให้ใกล้เคียงกับเวลาที่คลอดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ควรเริ่มภายใน 6 ถึง 12 ชั่วโมงหลังคลอด
- ควรมีการศึกษาแนวทางในปัจจุบันเพื่อข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อควรระวัง
ยังไม่มีการพิสูจน์ที่แน่ชัดถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยารูปแบบออกฤทธิ์นานสำหรับผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 6 ปี
รูปแบบของยา
รูปแบบของยามีดังนี้
- ยาน้ำแขวนตะกอนสำหรับรับประทาน
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
- ยาเม็ดสำหรับรับประทานแบบออกฤทธิ์นาน
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานเนวิราปีนควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์
[embed-health-tool-bmi]