ข้อบ่งใช้
กินยาเกินขนาด ภัยอันตรายที่อาจคร่าชีวิต
ยาเอทิลคลอไรด์ใช้สำหรับ
ยาเอทิลคลอไรด์ (Ethyl Chloride) มักใช้เพื่อป้องกันอาการปวดเนื่องจากการฉีดยาและการผ่าตัดระดับเล็ก ยานี้ยังใช้ชั่วคราวเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ยาเอทิลคลอไรด์ยังช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้ออย่างหนัก เมื่อใช้ร่วมกับเทคนิคการยืดกล้ามเนื้อ ยาเอทิลคลอไรด์เป็นสารทำความเย็น ใช้ทาลงบนผิวหนังเพื่อทำให้รู้สึกชา
วิธีการใช้ยา เอทิลคลอไรด์
ยานี้ใช้เฉพาะผิวหนังเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพจะเป็นผู้ทายา อย่าทายาลงบนบริเวณผิวหนังที่เสียหายหรือเยื่อเมือก (เช่น ภายในจมูกหรือปาก) อย่าพ่นยาเข้าดวงตา และห้ามสูดดมสเปรย์
ยานี้เป็นวัตถุไวไฟ ไม่ควรใช้ใกล้กับบริเวณที่มีไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถจุดประกายไฟได้
ก่อนทายาเอทิลคลอไรด์บริเวณที่ฉีดยาหรือผ่าตัด ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพจะทำความสะอาดบริเวณนั้น ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ อาจทาปิโตรเลียม เจลลี่เพื่อปกป้องบริเวณโดยรอบแผลผ่าตัด ควรเว้นระยะของบรรจุภัณฑ์ยาเอทิลคลอไรด์ 3-9 นิ้ว (8-23 เซนติเมตร) ออกจากผิวหนัง หากใช้ยาเอทิลคลอไรด์แบบขวด ควรคว่ำขวดยาลง และฉีดพ่นสเปรย์ตรงบริเวณที่มีอาการเป็นเวลา 3-7 วินาที หากคุณใช้ยาเอทิลคลอไรด์แบบกระป๋องละออง ควรถือขวดตั้งตรง และฉีดพ่นสเปรย์ตรงบริเวณที่มีอาการเป็นเวลา 4-10 วินาที ผู้ดูแลสุขภาพจะพ่นสเปรย์จนผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีขาว และหยุดก่อนที่จะแช่แข็ง แล้วจึงรีบทำการผ่าตัดเนื่องจากผลการชาของยาเอทิลคลอไรด์นั้น อยู่แค่ไม่กี่วินาทีจนถึงหนึ่งนาที
สำหรับการบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อ ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพควรถือขวดให้ห่าง 12-18 นิ้ว (30-46 เซนติเมตร) จากกล้ามเนื้อ แล้วพ่นสเปรยก์กวาดไปมาในอัตรา 4 นิ้ว (10.2 เซนติเมตร) ต่อวินาทีจนครอบคลุมกล้ามเนื้อทั้งหมด ตั้งแต่จุดกระตุ้นจนถึงจุดที่มีอาการปวด กล้ามเนื้อจะค่อยๆ ยืดในช่วงกระบวนการนี้ จนกว่าจะฟื้นฟูการเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่และอาการปวดบรรเทาลง
การเก็บรักษายาเอทิลคลอไรด์
ยาเอทิลคลอไรด์ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเอทิลคลอไรด์บางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเอทิลคลอไรด์ลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำอย่างอื่น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง เมื่อสินค้าหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา เอทิลคลอไรด์
ก่อนใช้ยาเอทิลคลอไรด์ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีสารไม่ออกฤทธิ์ในการรักษา ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ
ในช่วงขณะการตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้สามารถส่งผ่านน้ำนมแม่ได้หรือไม่ โปรดปรึกษาความเสี่ยงและประโยชน์กับแพทย์
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาเอทิลคลอไรด์จัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาเอทิลคลอไรด์
ไม่ค่อยพบผลข้างเคียงของยานี้
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า ยามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นแต่รุนแรงดังต่อไปนี้ ได้แก่ ผิวหนังสีเปลี่ยนไปถาวร มีอาการปวดเมื่อผิวหนังละลาย มีการติดเชื้อตรงบริเวณที่ให้ยา แผลหายช้า
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่หายากแต่รุนแรงมากดังต่อไปนี้ (เมื่อใช้ในระยะยาว) ได้แก่ ดวงตาและผิวหนังเป็นสีเหลือง ปัสสาวะสีคล้ำ ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียนบ่อยครั้ง เหนื่อยล้าผิดปกติ
การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้คือ ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ) วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาเอทิลคลอไรด์อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่าคุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาเอทิลคลอไรด์อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาเอทิลคลอไรด์อาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาเอทิลคลอไรด์สำหรับผู้ใหญ่
ใช้ยาเอทิลคลอไรด์ตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด ควรทำตามแนวทางที่ระบุบนฉลากยาอย่างระมัดระวัง
ขนาดยาเอทิลคลอไรด์ที่แพทย์แนะนำนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้ (หนึ่งในรายการนี้หรือทั้งหมด)
- สภาวะที่รักษา
- สภาวะอื่นที่คุณมี
- ยาอื่นที่คุณกำลังใช้
- การตอบสนองต่อยา
- น้ำหนัก
- ส่วนสูง
- อายุ
- เพศ
ขนาดยาเอทิลคลอไรด์สำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของขนาดยานี้สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยาก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาสเปรย์ใช้เฉพาะที่
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]