โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) เป็นเกลือที่แตกตัวเป็นโซเดียม และไบคาร์บอเนตภายในน้ำ การแตกตัวนี้จะทำให้เกิดสารละลายด่าง (solution alkaline) ซึ่งสามารถแก้ความเป็นกรดได้
[embed-health-tool-bmr]
ประโยชน์ของ โซเดียมไบคาร์บอเนต
โซเดียมไบคาร์บอเนต ใช้สำหรับทำอะไร
โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate) เป็นเกลือที่แตกตัวเป็นโซเดียม และไบคาร์บอเนตภายในน้ำ การแตกตัวนี้จะทำให้เกิดสารละลายด่าง (solution alkaline) ซึ่งสามารถแก้ความเป็นกรดได้ เพราะเหตุนี้โซเดียมไบคาร์บอเนตจึงมักจะใช้เพื่อรักษาสภาวะที่เกิดจากการมีกรดภายในร่างกายมากเกินไป เช่น อาการแสบร้อนกลางอก (heartburn) จากกรดไหลย้อน
การรับประทานโซเดียมไบคาร์บอเนต สามารถช่วยรักษาและบรรเทาอาการ และภาวะต่างๆ ได้แก่ ทำความสะอาดลำไส้ รักษาการทำงานของไต บรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย เพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย รักษาภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และรักษานิ่วในทางเดินปัสสาวะ
สามารถทาโซเดียมไบคาร์บอเนตบริเวณผิวหนังเพื่อรักษาแผลไหม้จากสารเคมี ฟันผุ กำจัดขี้หู รักษาผื่นผิวหนังอักเสบ (eczema) แมลงกัดต่อย การอักเสบบริเวณเยื่อบุทางเดินอาหาร พิษจากต้นพอยซั่นโอ๊ค (poison oak) และต้นพอยซั่นไอวี (poison ivy) อาการคันที่ผิวหนัง (pruritus) และอาการคันและเป็นสะเก็ดที่ผิวหนังอย่างโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาติจากแพทย์เท่านั้นเนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อผิวหนังได้
ฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนตเข้าทางหลอดเลือดดำเพื่อกู้ชีพหัวใจ (heart resuscitation) การทำงานของไตไม่ดี โคเคนเป็นพิษ (cocaine toxicity) เพื่อป้องกันความเสียหายต่อไตเนื่องจากสีย้อมที่ใช้ขณะการตรวจเอ็กซเรย์ พิษจากยาแก้แพ้บางชนิด พิษจากสารกําจัดศัตรูพืช (pesticide poisoning) ป้องกันผลข้างเคียงของเคมีบำบัด การสลายของกล้ามเนื้อ และน้ำสะสมภายในปอดเนื่องจากสารเคมีบางชนิด
การทำงานของโซเดียมไบคาร์บอเนต
มีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของโซเดียมไบคาร์บอเนต ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาวิจัยแสดงว่าโซเดียมไบคาร์บอเนตมีการแตกตัวทำให้เกิดสารละลายด่างซึ่งสามารถแก้ความเป็นกรดได้
ข้อควรระวังและคำเตือน
เราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้ โซเดียมไบคาร์บอเนต
ควรปรึกษากับแพทย์และเภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรถึงอาการหรือลักษณะ ดังต่อไปนี้
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรจะได้รับยาหรือสมุนไพรบำรุง ที่จัดจำหน่ายโดยแพทย์เท่านั้น
- อยู่ในระหว่างการใช้ยาหรือสมุนไพรอื่นๆ ร่วมด้วย รวมถึงยาทุกชนิดที่ซื้อรับประทานเองโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์
- มีอาการแพ้สารที่มีส่วนประกอบของโซเดียมไบคาร์บอเนตหรือยาและสมุนไพรชนิดอื่น
- มีอาการเจ็บป่วย มีอาการผิดปกติ หรือมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อน
- มีอาการแพ้ต่าง ๆ เช่นแพ้อาหาร สีผสมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์
ข้อบังคับสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้ ประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารนี้จะต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โซเดียมไบคาร์บอเนตมีความปลอดภัยแค่ไหน
โซเดียมไบคาร์บอเนตมักปลอดภัยหากรับประทานอย่างเหมาะสมในระยะสั้น และเมื่อฉีดเข้าหลอดเลือดดำโดยอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตในปริมาณมากเมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
การใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตเป็นเวลานาน หรือใช้ในขนาดสูงทั้งโดยการรับประทาน หรือการฉีดเข้าหลอดเลือดดำนั้นอาจไม่ปลอดภัย เคยมีรายงานการพบอาการแทรกซ้อนในกระเพาะอาหารที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับอิเล็กโทรไลต์อย่างรุนแรง (electrolyte) ซึ่งสามารถทำให้กระเพาะอาหารเกิดการทะลุได้
ยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอถึงความปลอดภัยของการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตในการรักษาและทาผิวหนังโดยตรง
- สำหรับการตั้งครรภ์และการให้นมบุตร : ไม่พบข้อมูลที่น่าเชื่อถือเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตขณะที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยของคุณ ควรหลีกเลี่ยงการใช้
- สำหรับเด็ก : โซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นมักจะปลอดภัยเมื่อฉีดเข้าหลอดเลือดดำและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเหมาะสมในทารกและเด็ก โซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นอาจจะไม่ปลอดภัยเมื่อทาบนผิวหนังเนื่องจากเคยมีรายงานพบอาการระดับโซเดียมในเลือดสูงในเด็กหลังจากการใช้ การศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยรับประทานโซเดียมไบคาร์บอเนต เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้ในรูปแบบรับประทานสำหรับเด็ก
- ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตนจากเบาหวาน (Diabetic ketoacidosis) : ผู้ที่มีภาวะนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตเพราะอาจจะเพิ่มกรดภายในเลือดที่เรียกว่าคีโตน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน เมื่อระดับของกรดในเลือดนั้นมีสูงเกินไป
- ภาวะบวมน้ำ (edema) : เนื่องจากโซเดียมไบคาร์บอเนตนั้นมีโซเดียมที่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการบวมที่เกิดจากน้ำส่วนเกินภายในร่างกาย ผู้ที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว โรคตับ หรือสภาวะที่เกี่ยวข้องกับอาการน้ำสะสมภายในร่างกาย ควรระมัดระวังในการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต
- ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง : ผู้ที่มีระดับแคลเซียมในเลือดสูงอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการขับไบคาร์บอเนต ดังนั้นการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น กลุ่มอาการมิลค์ อัลคาไล (milk-alkali syndrome)
- ภาวะโซเดียมไบคาร์บอเนตในเลือดสูง : โซเดียมไบคาร์บอเนตอาจจะเพิ่มระดับของโซเดียมภายในเลือด ผู้ที่มีระดับโซเดียมในเลือดสูงอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต
- ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ : โซเดียมไบคาร์บอเนตอาจจะลดระดับของโพแทสเซียมในเลือดได้ ผู้ที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต
- ภาวะขาดธาตุเหล็ก : โซเดียมไบคาร์บอเนตสามารถลดปริมาณการดูดซึมธาตุเหล็กส่วนเกินในร่างกายได้ ผู้ที่มีภาวะขาดธาตุเหล็กควรแยกใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต และอาหารเสริมธาตุเหล็กในเวลาที่ต่างกัน
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ โซเดียมไบคาร์บอเนต
ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับผลข้างเคียงของโซเดียมไบคาร์บอเนต หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงใด ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้เสมอ
ปฏิกิริยาระหว่างยา
ปฏิกิริยาที่อาจจะเกิดขึ้นกับ โซเดียมไบคาร์บอเนต
โซเดียมไบคาร์บอเนตอาจเกิดปฏิกิริยากับตัวยาอื่นที่คุณใช้ร่วมด้วย หรืออาจมีผลข้างเคียงต่อการรักษาอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักสมุนไพรศาสตร์ก่อนใช้สมุนไพรเสมอ
ขนาดการใช้
ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้
ปริมาณของโซเดียมไบคาร์บอเนต
สำหรับผู้ใหญ่
รับประทาน
- สำหรับการออกกำลังกาย เคยมีการใช้ในขนาด 100-400 มก./กก. ของน้ำหนักตัว รับประทาน 1-3 ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย
การฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือฉีดเป็นช็อท (shot)
- สำหรับการป้องกันความเสียหายต่อไต เคยมีการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำในอัตรา 1 มล./กก. ต่อชั่วโมง เป็นเวลานานถึง 12 ชั่วโมงก่อน หรือ 3 มล./กก. เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนการตรวจหลอดเลือดหัวใจ (cardiac angiography)
ตามด้วย 1 มล./กก./ชั่วโมง เป็นเวลา 6-12 ชั่วโมง หลังจากการตรวจหลอดเลือดหัวใจ ในบางกรณีอาจฉีดยาเอ็น-อะเซทิลซิสเทอีน (N-acetylcysteine) ในขนาด 2400 มก. ร่วมกับโซเดียมไบคาร์บอเนต
- สำหรับการออกกำลังกาย เคยมีการใช้ในขนาด 100-400 มก./กก. ของน้ำหนักตัว รับประทาน 3 ชั่วโมง ก่อนออกกำลังกาย
ปริมาณการใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต อาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละบุคคล โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพ และปัจจัยอื่นๆ การใช้ยาสมุนไพรนั้นไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอไป ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือแพทย์ในเรื่องปริมาณที่เหมาะสม
สมุนไพรดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบใด
สมุนไพรดังกล่าวอาจมีรูปแบบดังต่อไปนี้
- ผง
- แคปซูล