ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
สารก่อภูมิแพ้เป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายกับทุกๆ คน เว้นแต่ว่าคนนั้นจะมีอาการแพ้ต่อสารนั้น ภูมิแพ้ข้าวสาลี (Wheat Allergy) เกี่ยวข้องกับการที่แอนตี้บอดี้ หรือสารภูมิต้านทาน (Immunoglobulin) ตอบสนองต่อโปรตีนชนิดใดชนิดหนึ่งที่พบในข้าวสาลี ได้แก่
ปฏิกิริยาแพ้ส่วนมากมักเกี่ยวกับอัลบูมินและโกลบูลิน การแพ้ไกลอาดินและกลูเตนพบได้ยากมากกว่า ซึ่งมักจะทำให้ผู้คนมักสับสนระหว่างอาการแพ้กลูเตนในข้าวสาลี กับโรคเซลิแอค (Celiac Disease) และความผิดปกติในการย่อยอาหารอื่นๆ
บางคนมีปฏิกิริยาแพ้เมื่อหายใจเอาฝุ่นแป้งสาลีเข้าไป ในขณะที่บางคน การกินจะกระตุ้นให้เกิดอาการ ปฏิกิริยาแพ้อาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีหรือบางครั้งหลายชั่วโมง ที่ได้รับประทานหรือสูดหายใจเอาแป้งสาลีเข้าไป
ภูมิแพ้ข้าวสาลีเกิดขึ้นได้ทั่วไป โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
อาการทั่วไปของภูมิแพ้ข้าวสาลีได้แก่
อาจแพ้ยาอย่างรุนแรงซึ่งจะนำไปสู่
ภูมิแพ้เฉียบพลันและรุนแรง (Anaphylaxis) ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์
อาจมีอาการที่ไม่ได้ระบุถึงข้างต้น หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาแพทย์
หากคุณมีสัญญาณบ่งชี้หรืออาการใดตามรายการข้างต้น หรือมีคำถามใดๆ โปรดปรึกษาหมอ ร่างกายของคนเราแสดงออกแตกต่างกัน จึงเป็นการดีที่สุดในการพูดคุยกับหมอ เพื่อดูว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สดในสถานการณ์ของคุณ
หากมีอาการภูมิแพ้ข้าวสาลี การรับประทานโปรตีนจากข้าวสาลี จะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ให้เกิดอาการแพ้ คุณอาจแพ้โปรตีนจากข้าวสาลีใดๆ ในสี่ประเภทนี้ ได้แก่ อัลบูมิน โกลบูลิน ไกลอาดินและกลูเตน
แหล่งของโปรตีนจากข้าวสาลี
แหล่งของโปรตีนจากข้าวสาลีบางอย่างเป็นที่ทราบกันอย่างแน่ชัด เช่น ขนมปัง แต่โปรตีนจากข้าวสาลีทั้งหมด โดยเฉพาะกลูเตน อาจพบได้ในอาหารสำเร็จรูปหรือแม้กระทั่งเครื่องสำอางบางชนิด ผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำและดินน้ำมันสำหรับเด็ก อาหารที่อาจมีโปรตีนจากข้าวสาลีรวมถึง
หากคุณเป็นภูมิแพ้ข้าวสาลี คุณอาจแพ้ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต และข้าวไรย์ด้วยก็ได้ แต่ก็มีโอกาสค่อนข้างต่ำ หากคุณไม่ได้แพ้ธัญพืชอะไรยกเว้นข้าวสาลี อาหารที่ไม่มีข้าวสาลีเป็นสิ่งที่ต้องถูกจำกัดน้อยกว่าอาหารที่ไม่มีกลูเตน
อาการแพ้อย่างเฉียบพลันและรุนแรงจากข้าวสาลีและการออกกำลัง
บางคนที่เป็นภูมิแพ้ข้าวสาลีจะเกิดอาการแพ้ ก็เมื่อออกกำลังกายภายในสองสามชั่วโมง หลังจากรับประทานข้าวสาลี การเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่มีสาเหตุมาจากการออกกำลัง มักจะกระตุ้นปฏิกิริยาแพ้ หรือทำให้การตอบสนองต่อโปรตีนจากข้าวสาลีของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายแย่ลง ภาวะนี้มักจะส่งผลต่ออาการแพ้เฉียบพลันและรุนแรง ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ปัจจัยเสี่ยงหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ข้าวสาลี เช่น
ข้อมูลนี้ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สิ่งสำคัญก็คือ การเข้ารับการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ข้าวสาลีอย่างถูกต้อง เพื่อที่คุณจะได้หลีกเลี่ยงอาหาร และรู้ว่าตนไม่ได้เป็นโรคอื่น เช่น โรคเซลิแอค โดยปกติแล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้จะสามารถวินิจฉัยอาการนี้ได้
ในการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ แพทย์จะถามคำถามเกี่ยวกับอาการและประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว เพื่อชี้ว่าอาการภูมิแพ้เกิดขึ้นเป็นปกติในครอบครัวของคุณหรือไม่
เนื่องจากอาการของโรคภูมิแพ้ข้าวสาลีอาจใกล้เคียงกับอาการของโรคเซลิแอคและอาการแพ้กลูเตน (Non-Celiac Gluten Sensitivity) แพทย์จะตรวจด้วยวิธีที่เฉพาะ เพื่อตัดโรคอื่นที่ใกล้เคียงกับโรคที่คุณเป็นออกไป และระบุว่าคุณเป็นโรคภูมิแพ้ข้าวสาลีหรือไม่ ผลการตรวจอาจรวมถึง การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยการหยดน้ำยาลงบนผิวหนังที่แขน และใช้เข็มสะกิดตรงกลางหยดน้ำยา (Skin-Prick Test) การตรวจเลือดหรือทำทั้งสองวิธี
ในการทดสอบทางผิวหนังด้วยการสะกิด แพทย์จะฉีดโปรตีนจากข้าวสาลีที่ฆ่าเชื้อแล้วจำนวนเล็กน้อยใต้ผิวหนังของคุณ ปกติแล้วจะเป็นที่ปลายแขน หรือหลังส่วนบน หากจุดที่ฉีดเป็นรอยแดงหรือบวม แสดงว่าคุณเป็นโรคภูมิแพ้ข้าวสาลี
โรคภูมิแพ้ข้าวสาลีอาจวินิจฉัยได้ผ่านการตรวจเลือด แพทย์อาจเจาะเลือดออกเล็กน้อย เพื่อตรวจหาแอนติบอดีบางชนิดในระบบภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านข้าวสาลี มีการตรวจเลือดเฉพาะสำหรับโรคเซลิแอคด้วย
วิธีรักษาที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงโปรตีนจากข้าวสาลี แต่อาจจะเป็นเรื่องยากเพราะอาหารหลายชนิดมีข้าวสาลีเป็นส่วนประกอบ สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบฉลากอาหารว่ามีส่วนประกอบของข้าวสาลีหรือไม่
ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamine) จะลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วย ทำให้อาการแพ้ลดลงหรือหายไปด้วย ควรรับประทานยานี้หลังจากสูดดมหรือรับประทานข้าวสาลี ควรรับประทานยาต้านฮิสตามีนภายใต้คำแนะนำของแพทย์
การใช้ยาเอพิเนฟริน (Epinephrine) หรืออะดรีนาลีน (Adrenaline) เป็นวิธีรักษาอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่จะแพ้ยาอย่างรุนแรงสูง ควรพกยาเอพิเนฟรินสำหรับฉีดสองหลอด และใช้เครื่องฉีดอัตโนมัติเพื่อฉีดยานี้ทางผิวหนัง
ยาอะดรีนาลีนช่วยให้ทางเดินหายใจเปิดกว้างขึ้น ผู้ป่วยจึงหายใจได้ง่ายขึ้น ยานี้ยังช่วยทำให้ความดันโลหิตที่ต่ำมาก กลับมาอยู่ในระดับปกติอีกด้วย
ไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองต่อไปนี้ อาจช่วยให้คุณจัดการกับโรคภูมิแพ้ข้าวสาลีได้
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย