น้ำท่วม มักก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำขังเป็นเวลานาน ส่งผลให้คนในพื้นที่ที่น้ำท่วมเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น โรคฉี่หนู โรคตาแดง โรคอุจจาระร่วง โรคน้ำกัดเท้า การศึกษาเกี่ยวกับโรคที่มากับน้ำท่วม การดูแลตนเอง และวิธีรับมืออย่างเหมาะสม อาจช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคที่มากับน้ำท่วมได้
[embed-health-tool-bmi]
โรคและความเสี่ยงต่อสุขภาพที่มากับ น้ำท่วม
โรคและความเสี่ยงต่อสุขภาพที่มากับน้ำท่วม ที่อาจพบได้บ่อย มีดังนี้
-
โรคฉี่หนู (Leptospirosis หรือ Weil’s disease)
โรคฉี่หนู เกิดจากร่างกายติดเชื้อแบคทีเรียเลปโตสไปรา (Leptospira) ผ่านทางดวงตา ปาก หรือบาดแผล ส่วนใหญ่มักเป็นหนู วัว หมู สุนัข เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมมักทำให้มีน้ำขังและเชื้ออาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำและเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลที่เป็นอยู่เดิม หรือผ่านบาดแผลใหม่ที่เกิดจากการขีดข่วนจากสิ่งของที่ลอยมาตามน้ำ อาการโรคฉี่ เช่น ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น หนาวสั่น คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดเมื่อยตามตัว ไม่อยากอาหาร ซึ่งมักทำให้สับสนกับโรคอื่นหรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นไข้หวัดได้
-
โรคตาแดง (Conjunctivitis หรือ Pink eye)
เป็นการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบริเวณเปลือกตาและในลูกตาซึ่งมักปนเปื้อนมากับน้ำ เชื้อก่อโรคที่พบได้บ่อยคืออะดีโนไวรัส (Adenoviruses) แต่ก็อาจเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรียชนิดอื่น ได้เช่นกัน ทำให้หลอดเลือดฝอยในเยื่อบุตาอักเสบจนบวมแดง ตาขาวจึงกลายเป็นสีแดงหรือสีชมพู หากขยี้ตาข้างที่ติดเชื้อแล้วไปสัมผัสกับดวงตาอีกข้างอาจทำให้เป็นตาแดงทั้งสองข้างได้ โดยทั่วไป มักไม่กระทบต่อการมองเห็น แต่อาจทำให้คัน ระคายเคือง ไวต่อแสง มีน้ำตาไหล และอาจมีขี้ตาสีเขียวขุ่นหนาจนลืมตาไม่ขึ้นในตอนเช้า
โรคน้ำกัดเท้ามักเกิดจากการติดเชื้อราในกลุ่มเดอร์มาโตไฟท์ (Dermatophyte) ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ก่อให้เกิดโรคกลากและสังคัง โดยทั่วไป เชื้อราชนิดมักอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น ทั้งยังกินเคราตินซึ่งเป็นโปรตีนที่พบในเส้นผม เล็บ และผิวหนังเป็นอาหาร นอกจากนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อราชนิดอื่นได้ เช่น แคนดิดา (Candida) ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม บริเวณเท้ามักอับชื้นไและอาจเปียกน้ำเป็นเวลานาน จนเสี่ยงเกิดโรคน้ำกัดเท้าได้ง่าย อาการมีตั้งแต่เท้าแห้ง คัน ตกสะเก็ด มีตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นระหว่างนิ้วเท้า ไปจนถึงแผลเปื่อยที่มีของเหลวไหลออกมาหรือมีกลิ่นเหม็น
-
โรคอุจจาระร่วง (Diarrhea)
น้ำท่วมมักส่งผลให้อาหารปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ปรสิต เนื่องจากมีโอกาสนำน้ำที่ไม่สะอาดมาใช้เตรียมอาหาร ปรุงอาหารหรือทำความสะอาดภาชนะ หรือล้างมือไม่สะอาดก่อนเตรียมอาหารและรับประทานอาหาร โรคอุจจาระร่วงมักทำให้ถ่ายอุจจาระเหลวอย่างน้อย 3 ครั้ง/วัน อาเจียน ไม่มีแรงรับประทานอาหาร กระหายน้ำบ่อย ปวดท้อง มีไข้ และอาจสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในปริมาณมากจนทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย หรือเกิดภาวะขาดน้ำได้
วิธีดูแลสุขภาพในภาวะ น้ำท่วม
การดูแลสุขภาพในภาวะน้ำท่วม อาจทำได้ดังนี้
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนเตรียมอาหารและก่อนรับประทานอาหาร
- รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ หากรับประทานอาหารที่มีบรรจุภัณฑ์ให้สังเกตว่าตัวบรรจุภัณฑ์ไม่มีรอยบุบ บวม หรือเป็นสนิม รวมทั้งตรวจสอบวันหมดอายุก่อนรับประทานด้วย
- ใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่มั่นใจว่าผ่านการทำล้างความสะอาดเป็นอย่างดี
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า นำเข้าปาก หรือขยี้ตา เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้
- ล้างเท้าและส่วนของร่างกายที่แช่อยู่ในน้ำแล้วเช็ดให้แห้งทุกครั้ง ไม่ควรใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำขังเป็นเวลานาน เมื่อขึ้นจากน้ำควรรีบอาบน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายทันที
- หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อหรือไม่สบาย
- หลีกเลี่ยงการถ่ายอุจจาระในพื้นที่น้ำท่วม เพราะอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจาย หากไม่มีห้องน้ำสำหรับขับถ่ายควรขับถ่ายในถุงดำแล้วโรยปูนขาวในถุง จากนั้นมัดถุงให้แน่นก่อนนำไปทิ้งในที่ที่เหมาะสม