งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข แต่ทำงานหนักมากไป อาจกลายเป็นคน บ้างาน หรือ เสพติดการทำงาน ได้ ซึ่งการเสพติดงานนั้น ส่งผลกระทบทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ในระยะยาวอาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ แต่…เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังบ้างาน วันนี้ Hello คุณหมอ มีสัญญาณของการบ้างานมาฝากค่ะ
บ้างาน คืออะไร
มีอยู่หลายคำจำกัดความทีเดียวที่ใช้เพื่ออธิบายถึงขอบเขตและความหมายของคำว่าบ้างาน หรือ เสพติดการทำงาน (Workaholic) ซึ่งก็มักจะหนีไม่พ้นคำอธิบายที่ว่า การบ้างาน คือสภาวะของบุคคลผู้ซึ่งหมกหมุ่นอยู่กับการทำงานตลอดเวลา ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนักหน่วงในการทำงาน แม้จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดยาว ก็ยังคงใช้เวลาจดจ่ออยู่กับภาระงาน จนเรียกได้ว่าเป็นการเสพติดงาน
อาการ เสพติดงาน นี้ ก็คล้ายกับอาการเสพติดชนิดอื่นๆ คือไม่สามารถที่จะหยุดได้จนกว่าจะประสบความสำเร็จหรือบรรลุผล เป้าหมายของผู้ที่ทุ่มเทในการทำงานอาจเป็นตำแหน่งที่สูงขึ้น เงินเดือนที่มากขึ้น โบนัสที่เพิ่มขึ้น หรือเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น
ช่างฟังดูเป็นตัวอย่างของความตั้งใจทำงาน และสร้างแรงผลักดันในการบรรลุเป้าหมายเสียจริงๆ แต่ทว่า อาการเสพติดก็มักจะมีผลกระทบที่ไม่ต่างกันสักเท่าไรไม่ว่าจะเป็นการเสพติดการกินหวาน เสพติดยา หรือเสพติดงาน สิ่งที่จะเข้ามาหยุดอาการเสพติดเหล่านี้ได้ ก็คือปัญหาทางสุขภาพ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายเริ่มเจ็บป่วยหรือทรุดโทรมลง ผู้ที่ เสพติดการทำงาน ก็จะรู้สึกตัวได้ว่าถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องหยุดหรือพักงานลงบ้าง
สัญญาณที่บอกว่ากำลัง บ้างาน
นักวิจัยภาควิชาจิตวิทยาสังคมศาสตร์ (The Department of Psychosocial Science) แห่งมหาวิทยาลัยเบอร์เกน (University of Bergen) ประเทศนอร์เวย์ ได้สร้างแบบสอบถามเพื่อสำรวจว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า เสพติดการทำงาน หรือไม่ ดังนี้
- ต้องการที่จะเพิ่มเวลาในการทำงานให้มากขึ้นหรือไม่
- เวลาที่ใช้ในการทำงานจริงๆ มากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
- ทำงานตามคำสั่งเพื่อลดความรู้สึกผิด ลดความวิตกกังวล ลดความรู้สึกไร้ค่าในตัวเองหรือไม่
- มีคนบอกให้เพลาๆ เรื่องงานลงบ้าง แต่คุณก็ไม่สนใจฟังหรือไม่
- รู้สึกเครียดหากไม่ได้ทำงาน หรือมีคนมาสั่งห้ามไม่ให้ทำงานหรือไม่
- ไม่มีเวลาไปทำงานอดิเรก พักผ่อนในวันหยุด หรือออกกำลังกาย เพราะใช้เวลาทั้งหมดไปกับการทำงานหรือไม่
- มีอาการทางสุขภาพเนื่องจากการทำงานหนักหรือไม่
จากคำถามทั้ง 7 ข้อนี้ หากคุณตอบว่า “ใช่” “มีบ้าง” หรือ “ทุกครั้ง” ตั้งแต่ 4 ข้อขึ้นไปล่ะก็ นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณเริ่มมีอาการ เสพติดการทำงาน เข้าแล้ว
หรือคุณอาจสังเกตตนเองว่ามีพฤติกรรมดังต่อไปนี้เป็นประจำหรือไม่ ถ้าหากใช่มากกว่า 4 ข้อขึ้นไปล่ะก็ ถือว่าคุณมีอาการ เสพติดการทำงาน แล้วเช่นกัน
- ยังคงทำงานอยู่แม้ว่าจะเลยเวลาทำงานไปแล้วก็ตาม
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอเพราะต้องใช้เวลาไปกับการทำงานให้เสร็จเรียบร้อย
- หมกหมุ่นอยู่กับการสร้างความสำเร็จจากการทำงาน
- กลัวว่างานจะล้มเหลวหรือไม่เป็นดังที่คาดหวัง
- วิตกกังวลหากประสิทธิภาพในการทำงานของตนเองลดน้อยลง
- มีปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์กับชีวิตคู่ คนรัก เพื่อน ครอบครัว เพราะทำงาน
- ใช้เรื่องงานเป็นเหตุผลในการไม่เข้าสังคมกับผู้อื่น
- มีเวลาให้กับครอบครัว คนรัก เพื่อน น้อยลง
ผลกระทบต่อสุขภาพ
ความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการ เสพติดการทำงาน ที่มักจะพบได้บ่อยๆ ก็คือความเครียดสะสม ซึ่งเกิดจากจากการหมกหมุ่นและแก้ไขปัญหาในการทำงาน ระยะยาวอาจนำมาซึ่งภาวะซึมเศร้า ออฟฟิศซินโดรม การกดทับที่เส้นประสาทหรือหมอนรองกระดูกคอ เป็นต้น
นอกจากนี้ อาการเสพติดงานยังส่งผลให้มีการนอนหลับและพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเมื่อสะสมไปนานๆ เข้า ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาหารทางสุขภาพเรื้อรังด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะความดันโลหิตสูง หรือบางรายที่มักจะสูบบุหรี่ในเวลาทำงาน ก็อาจมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโรคปอดหรือระบบทางเดินหายใจด้วยเช่นกัน
ทำอย่างไรเมื่อกลายเป็นคนบ้างาน
หากคุณเป็นคนที่ เสพติดการทำงาน และเริ่มที่จะสัมผัสถึงอาการทางสุขภาพที่เกิดขึ้นแล้ว นั่นแปลว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเริ่มปรับเปลี่ยนชีวิตการทำงานให้เข้าสู่รูปแบบชีวิตการทำงานที่สมดุล หรือ Work life balance ดังนี้
- ปรับตารางการทำงานเสียใหม่ เพิ่มเวลาพักผ่อนเข้ามาในตารางงานบ้าง
- ปรับเวลาการเข้านอนให้เหมาะสม เลิกเข้านอนดึกโดยไม่จำเป็น
- หาเวลาพักให้กับตัวเอง ไปเที่ยว ไปดูหนัง หรือไปพักร้อนบ้าง
- พยายามหลีกเลี่ยงการนำงานกลับมาทำที่บ้าน
- ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างบ้าง
- ปรับวิธีคิดในการทำงาน เน้นการทำงานที่ควบคู่ไปกับความสุข มากกว่าที่จะต้องเครียดอยู่ตลอดเวลา
- เชื่อใจเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมทีมในการทำงาน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแบกรับงานมาทำเพียงคนเดียว
- หากเป็นไปได้ พยายามเลือกทำงานกับบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรแบบ Work life balance เพื่อที่จะได้เปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานให้ดูผ่อนคลายมากขึ้น