backup og meta

สูตรน้ำเลมอน หรือ เลมอนเนด

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 18/05/2020

    สูตรน้ำเลมอน หรือ เลมอนเนด

    ไม่ว่าจะฤดูกาลใด น้ำมะนาว ไม่ว่าจะเป็น มะนาวเขียว ที่คนไทยรู้จักกันดี หรือ มะนาวเหลือง ผลรี มักใช้ปรุงอาหารตะวันตก ที่มีชื่อเรียกทับศัพท์ว่า “เลมอน’  (Lemon) หรือที่เรียกว่ายังคงเป็นเครื่องดื่มยอดฮิต ที่ช่วยคลายความร้อน และเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายของเราได้เป็นอย่างดีอยู่เสมอ นอกจากนั้นพืชตระกูล มะนาว ยังเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่สามารถนำมาปรุงอาหารในเมนูต่าง ๆ ได้อีกมากมาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยกรดซิตริก (Citric acid) ธาตุเหล็ก และวิตามินซีสูงอีกด้วย บทความของ Hello คุณหมอ วันนี้ จึงขอนำ สูตรน้ำเลมอน หรือ เลมอนเนด เพื่อสุขภาพ มาฝากทุกคนให้ได้ลองทำกันค่ะ

    ประโยชน์ของ เลมอน (Lemon)

    ถึงแม้จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก แต่สรรพคุณลึก ๆ แล้ว ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยมะนาวเหลือง หรือ ผลเลมอน ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบันนั้นมักให้ประโยชน์ด้านสุขภาพ ดังต่อไปนี้

    • บำรุงหัวใจ

    มะนาวเหลือง หนึ่งผลประกอบด้วยวิตามินซี ถึง 31 มก. หรือ 51% นับได้ว่าครึ่งหนึ่งของ เลมอน แทบจะเป็นวิตามินซีเกือบทั้งหมด จากงานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นถึงการรับประทานผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูงไว้ว่า อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด หากรับประทานให้อยู่ในปริมาณที่พอดี หรือก่อนรับประทานควรนำไปเจือจางด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ผสมกับน้ำผึ้ง บีบใส่คลุกกับอาหาร เป็นต้น เพื่อไม่ให้กรดในมะนาวเข้าไปกัดกร่อนอวัยวะภายในมากจนเกินไป

    เมื่อของเสียในร่างกายสะสมจนเกิดการตกผลึก จับตัวเป็นก้อนเล็ก ๆ  จนในที่สุดทำให้กลายเป็นนิ่วแข็ง แต่กรดซิตริก (Citric acid) ในมะนาวเหลืองอาจปกป้องคุณได้ โดยการเพิ่มปริมาณปัสสาวะ และเพิ่มค่า (Positive potential of the Hydrogen ions : PH) ในปัสสาวะ เพียงแค่คุณรับประทานเลมอน ในปริมาณวันละ 1/2 ถ้วย หรือ 125 มล. ก็เป็นที่เพียงพอ

    • ปรับปรุงช่องทางเดินอาหาร

    นอกจากวิตามินซี มะนาวเหลืองยังประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต ที่มาในรูปแบบเส้นใยอีก 10% ซึ่งเส้นใยหลักของ เลมอน นั้นเรียกว่า เพกติน (Pectin) เป็นเส้นใยที่สามารถละลายน้ำ น้ำตาลได้อย่างง่ายดาย ทำให้เข้าไปชะลอการย่อยของน้ำตาล และแป้งต่าง ๆ จากอาหารที่เรารับประทาน จนควบคุมระดับของน้ำตาลไม่ให้อยู่ในระดับสูงขึ้นได้

    ประโยชน์-เลมอน

    สูตรน้ำเลมอน หรือ เลมอนเนด เพื่อสุขภาพ

    ก่อนที่จะเริ่มทำ น้ำเลมอน คุณควรเตรียมวัตถุดิบ และอุปกรณ์ในการทำให้พร้อม ดังนี้

    • มะนาวเหลือง หรือ เลมอน (จำนวนลูกให้ดูตามความเหมาะสม) *สามารถใช้มะนาวเขียวแทนได้
    • น้ำเปล่า 2 ถ้วย
    • น้ำตาล หรือน้ำเชื่อม 2 ถ้วย

    ขั้นตอนการทำ

    1. ล้างผิวเปลือกของลูกมะนาวให้สะอาด
    2. หั่นมะนาวแบ่งออกเป็นครึ่งซีก และคั้นมะนาว เพื่อแยกน้ำกับเมล็ดออก ให้ได้น้ำมะนาวในปริมาณ 2 ถ้วย
    3. นำน้ำตาล หรือน้ำเชื่อมใส่ลงไป คนจนน้ำตาล และน้ำเชื่อมละลายเข้ากัน จากนั้นลองชิมรสชาติ หากยังไม่เป็นที่พึงพอใจ คุณสามารถปรุงได้เองตามใจชอบ โดยอาจใส่น้ำมะนาว หรือน้ำตาลเพิ่ม หรืออาจจะตัดรสด้วยการใส่เกลือเล็กน้อย

    วัตถุดิบสำคัญของ สูตรน้ำเลมอน หรือ เลมอนเนด  อย่างการใช้น้ำเชื่อมเพิ่มความหวาน หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ คุณสามารถนำน้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมจากหญ้าหวาน เข้ามาปรุงแทนน้ำตาลได้ เพื่อเป็นการลดคอเลสเตอรอล และถ้าหากคุณเบื่อในรสชาติเดิม ๆ  คุณอาจเปลี่ยนสูตรเองได้ โดยการน้ำไปผสมกับเมนูน้ำผลไม้อื่น ๆ เช่น น้ำสตรอว์เบอร์รี น้ำแอปเปิ้ล น้ำผัก เป็นต้น

    เคล็ดลับเพิ่มเติม บ่มมะนาว อย่างไร ให้ได้น้ำเยอะ

    เมื่อเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่ามะนาวหนึ่งลูกที่เราต้องการใช้มี น้ำมะนาว อยู่ภายในมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นก่อนการนำมะนาวไปใช้ในปริมาณมากอย่างการทำเครื่องดื่มทานเล่น คุณอาจลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้

    1. นำน้ำอุ่นแช่กับมะนาว ให้เทน้ำอุ่นที่ไม่ร้อนจนเกินไป ใส่ลงในถ้วย หรือชาม และนำมะนาวลงไปแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 30-40 นาที
    2. นวดมะนาว คลึงมะนาวไปมาคล้ายกับการปั้นดินน้ำมัน ระวังอย่าทุบ หรือใช้แรงเยอะจนเกินไป เพราะการนวดเบา ๆ นี้ จะทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ในเนื้อมะนาวผ่อนตัวลง จะช่วยเพิ่ม น้ำมะนาว ได้มากขึ้น
    3. อุ่นมะนาวในไมโครเวฟ เป็นวิธีที่ง่าย และรวดเร็วมากที่สุด โดยอุ่นทิ้งไว้ประมาณ 10-20 วินาที ในการนำใส่ไมโครเวฟทุกครั้งควรใส่ทั้งลูกเข้าไป ไม่ควรมีการผ่า หรือแบ่งครึ่งก่อน เพราะอาจทำให้ความร้อนดูดความชื้นจากมะนาวไปเสียหมด

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 18/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา