ทำหมันชาย เป็นการคุมกำเนิดอย่างถาวร โดยการตัดหรือปิดท่อนำอสุจิ เพื่อช่วยปิดกั้นไม่ให้ตัวอสุจิสามารถไปปฏิสนธิกับไข่ของผู้หญิง จึงทำให้ไม่สามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้ เหมาะสำหรับคู่รักที่ไม่ต้องการมีบุตรในอนาคต อย่างไรก็ตาม การทำหมันอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนการทำหมันและการดูแลตัวเองหลังทำหมัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ อาการปวดเรื้อรัง และอาการบวมในถุงอัณฑะ
[embed-health-tool-bmi]
ทำหมันชาย คืออะไร
การทำหมันชาย คือ การคุมกำเนิดแบบถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการมีบุตรในอนาคตหรือมีบุตรเพียงพอแล้ว โดยการปิดผนึกหรือตัดท่อนำอสุจิเพื่อไม่ให้อสุจิผ่านออกมาผสมกับไข่ของผู้หญิงขณะมีเพศสัมพันธ์ หลังจากการทำหมันยังสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติโดยไม่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ทางเพศ และจะยังคงหลั่งน้ำอสุจิเมื่อถึงจุดสุดยอดออกมาได้เช่นเดิม แต่จะไม่มีตัวอสุจิหลงเหลืออยู่ จึงไม่สามารถทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ได้
อย่างไรก็ตาม การทำหมันไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในเทียม หนองในแท้ เอชไอวี/เอดส์ ดังนั้น จึงควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดหรือแพร่กระจายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ประเภทของการทำหมันชาย มีดังนี้
- การทำหมันแบบผ่าตัด เป็นการทำหมันโดยเริ่มด้วยการฉีดยาชาบริเวณผิวหนังถุงอัณฑะ จากนั้นจะใช้มีดกรีดเปิดผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะเหนือท่ออสุจิ เพื่อตัดท่ออสุจิและผูกปลายท่อ และเย็บปิดแผล
- การทำหมันโดยไม่ใช้มีดผ่าตัด เป็นการใช้เครื่องมือเจาะบริเวณผิวหนังของถุงอัณฑะลงไปถึงท่ออสุจิ จากนั้นจึงตัดท่ออสุจิและผูกปิดผนึกปลายท่อ โดยวิธีทำหมันนี้จะมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยและไม่มีการเย็บปิดแผล แต่อาจใช้ผ้าพันแผลปิดแผลไว้
ประโยชน์ของการทำหมันชาย
ประโยชน์ของการทำหมันชาย มีดังนี้
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์มากกว่า 99%
- มีผลข้างเคียงต่ำ
- มีค่าใช้จ่ายที่น้อยว่าการทำหมันในผู้หญิง เนื่องจากไม่ต้องดมยาสลบ หรือ ระงับความเจ็บปวดทางช่องไขสันหลัง
- ไม่ส่งผลกระทบต่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) อารมณ์ทางเพศ และการแข็งตัวของอวัยวะเพศ
ผลข้างเคียงของการทำหมันชาย
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการทำหมันชาย มีดังนี้
- ปัสสาวะลำบาก
- มีไข้ หนาวสั่น
- มีอาการปวดและเลือดออกเล็กน้อยในถุงอัณฑะหลังทำหมัน
- อัณฑะฟกช้ำ อักเสบ และบวม
- การติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
นอกจากนี้ หากมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีเลือดไหลออกมาก อัณฑะบวม มีอาการปวดรุนแรง หลอดน้ำอสุจิโป่ง (Spermatocele) และมีก้อนเนื้อเยื่ออักเสบหรือที่เรียกว่า แกรนูโลมา (Granuloma) บริเวณที่ผ่าตัด ควรเข้าพบคุณหมอในทันที
การดูแลตัวเองหลังทำหมันชาย
การดูแลตัวเองหลังทำหมัน มีดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อพักฟื้นบาดแผล
- ควรปิดผ้าพันแผลไว้ 3-4 วันหลังทำหมัน และควรสวมกางเกงชั้นในที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อช่วยพยุงอัณฑะ
- สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ และควรเช็ดบริเวณอวัยวะเพศให้แห้งทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก เช่น การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย การยกของหนัก อย่างน้อย 2-3 วัน หลังทำหมัน
- หากสังเกตว่ามีอาการบวม ควรประคบเย็นโดยใช้น้ำแข็งห่อผ้าหรือเจลเย็น
- รับประทานยาแก้ปวด เช่น อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen)
- ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 สัปดาห์ และควรสวมถุงยางอนามัย หลังจากการทำหมัน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากยังอาจมีอสุจิที่ค้างอยู่ในท่ออสุจิ
- เข้ารับการวิเคราะห์น้ำอสุจิหลังการทำหมัน 6-12 สัปดาห์ เพื่อตรวจดูว่ายังมีตัวอสุจิหลงเหลืออยู่หรือไม่