ยาคุมฉุกเฉิน เป็นยาคุมกำเนิดที่ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถุงยางอนามัยขาด นับหน้า 7 หลัง 7 ผิด ถูกล่วงละเมิดทางเพศ อย่างไรก็ดี วิธีกินยาคุมฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจใช้ยาคุมชนิดนี้ เพราะหากกินยาคุมฉุกเฉินผิดวิธี หรือกินบ่อยเกินไป อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
[embed-health-tool-ovulation]
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ยาคุมกำเนิดชนิดหนึ่ง ที่อาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือเกิดความผิดพลาดในการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ถุงยางอนามัยขาดหรือรั่ว ลืมกินยาคุมกำเนิดชนิดรายเดือนติดต่อกัน 2 เม็ดขึ้นไป รวมถึงการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ยาคุมฉุกเฉินมีตัวยาลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยชะลอกระบวนการตกไข่ของผู้หญิง โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ยาคุมฉุกเฉินสามารถลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ถึง 95% หากกินภายใน 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือเกิดความผิดพลาดในการคุมกำเนิด แต่หากกินยาคุมฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินที่จำหน่ายในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ยาคุมฉุกเฉินชนิดเม็ดเดียว มีตัวยาฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรล 1.5 มิลลิกรัม คือ กินครั้งเดียว 1 เม็ด ภายใน 72 ชั่วโมง หรือทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์
- ยาคุมฉุกเฉินชนิด 2 เม็ด กล่องละ 1 แผง แต่ละแผงมียาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด ประกอบด้วยฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรล เม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม ควรกินยาเม็ดแรกอย่างช้าไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และกินยาเม็ดที่ 2 ห่างจากเม็ดแรกประมาณ 12 ชั่วโมง
ยาคุมฉุกเฉินทั้งชนิดเม็ดเดียว หรือชนิด 2 เม็ดอาจมีผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้ อาเจียน หากมีอาการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากกินยา จำเป็นที่จะต้องกินยาใหม่อีกครั้ง เพราะร่างกายอาจยังดูดซึมยาได้ไม่เต็มที่ จึงอาจลดประสิทธิภาพของยา และอาจทำให้ตั้งครรภ์ได้
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินมักเป็นอาการที่ไม่ค่อยรุนแรง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ปวดท้อง ประจำเดือนอาจมาเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของตัวยาลดลง และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เช่น รังไข่ผิดปกติ เยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ การตั้งครรภ์นอกมดลูก
ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเมื่อใด
ควรใช้ยาคุมฉุกเฉิน ในกรณีฉุกเฉิน เช่น
- ถุงยางอนามัยขาด หรือใช้ถุงยางอนามัยผิดวิธี เช่น ถอดถุงยางอนามัยหลังอวัยวะเพศอ่อนตัว เพราะอาจทำให้อสุจิไหลเข้าไปในช่องคลอด ซึ่งอาจส่งผลให้ตั้งครรภ์ได้
- ลืมกินยาคุมกำเนิดชนิดรายเดือนตั้งแต่ 2 เม็ดขึ้นไป หรืออย่างน้อย 2-3 เม็ดติดต่อกัน
- นับระยะปลอดภัย หรือที่เรียกว่า หน้า 7 หลัง 7 ผิด
- มีเพศสัมพันธ์ช่วงเวลาตกไข่พอดี
- มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- มีเพศสัมพันธ์แล้วแตกใน
- ไดอะแฟรม หรือหมวกครอบปากมดลูกหลุดขณะมีเพศสัมพันธ์
- มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ