ความรุนแรงทางเพศ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ผู้กระทำคุกคาม ใช้ความรุนแรงและบีบบังคับทางร่างกาย อารมณ์หรือจิตใจ ซึ่งไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย โดยการกระทำนั้นสามารถส่งผลกระทบในระยะยาวให้กับเหยื่อ เช่น การบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความคิดฆ่าตัวตาย ดังนั้น การป้องกันตัวเองและการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น จึงอาจเป็นวิธีที่ในการหลีกหนีจากความรุนแรงทางเพศได้
[embed-health-tool-ovulation]
ความรุนแรงทางเพศ คืออะไร
ความรุนแรงทางเพศ คือ การกระทำทางเพศใด ๆ ต่อบุคคลหนึ่ง โดยที่บุคคลนั้นไม่ยินยอมพร้อมใจ เช่น การตามตื้อ การสัมผัสร่างกาย การโทรศัพท์ก่อกวนหรือใช้คำพูดลามกอนาจาร การอวดอวัยวะเพศ การแสดงภาพหรือสื่ออนาจารของผู้อื่น การพยายามล่วงละเมิดทางเพศหรือการข่มขืน ซึ่งพฤติกรรมความรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นโดยการคุกคาม การใช้ความรุนแรง และการบีบบังคับ ทั้งทางร่างกาย อารมณ์หรือจิตใจ ทั้งต่อเพศหญิง เพศชาย เด็กหรือผู้ใหญ่
ประเภทของ ความรุนแรงทางเพศ
การล่วงละเมิดทางเพศอาจแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนี้
- การล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น พยามข่มขืน การสัมผัสร่างกาย บังคับให้เหยื่อกระทำทางเพศ โดยสิ่งเหล่านี้เป็นการทำร้ายทั้งร่างกาย จิตใจและทางเพศ
- การล่วงละเมิดทางเพศโดยใช้ยา เป็นการกระทำที่ผู้กระทำผิดใช้ประโยชน์จากการใช้ยาหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยสมัครใจของใครบางคน และผู้กระทำความผิดจงใจบังคับให้เหยื่อเสพยาหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับยาหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขาดสติ และเรี่ยวแรงในการขัดขืนความรุนแรงทางเพศนั้น
- การร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง ญาติหรือผู้ปกครอง เป็นความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ความรุนแรงทางเพศแบบนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ด้อยกว่า เช่น พี่ข่มขืนน้องสาว พ่อลวนลามลูกสาว ญาติทำอนาจารหลานชายหรือหลานสาว
- ความรุนแรงทางเพศของคู่นอน มักเกิดขึ้นกับการทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นการการล่วงละเมิดทางร่างกายและอารมณ์ เช่น การทำร้ายร่างกายและข่มขืนคู่นอนของตัวเอง
- การสะกดรอยตาม เป็นพฤติกรรมติดตามผู้อื่นจนก่อให้เกิดความหวาดกลัวและความไม่ปลอดภัยทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
- การใช้เทคโนโลยีเพื่อทำร้ายผู้อื่น เช่น ภาพถ่ายดิจิทัล วิดีโอ แอปพลิเคชั่น โซเชียลมีเดีย โดยใช้เพื่อลงสื่ออนาจารหรือติดตามคุกคามผู้อื่นด้วยเทคโนโลยี
- การล่วงละเมิดทางเพศโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เป็นพฤติกรรมที่เมื่อบุคคลไปสถานพยาบาล เข้าพบคุณหมอนักกายภาพบำบัด หรือพบผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์อื่น ๆ แล้วได้รับการกระทำที่ไม่เหมาะสม เช่น ลวนลาม ใช้คำพูดอนาจาร
- การแสวงประโยชน์ทางเพศโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือ เป็นการละเมิดความไว้วางใจจากบุคคลอย่างร้ายแรง ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพและผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือ ได้แก่ คุณหมอ นักบำบัด อาจารย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทนายความ ผู้นำศาสนา รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ
- การข่มขืนกระทำชำเราโดยผู้กระทำชำเราหลายคน เป็นการข่มขืนหมู่ เกิดขึ้นเมื่อมีผู้กระทำความผิด 2 คนหรือมากกว่า กระทำการร่วมกันเพื่อกระทำชำเราเหยื่อคนเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงทางเพศอาจมีอีกหลายประเภท หากการกระทำทางเพศนั้นเกิดขึ้นกับบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม ก็รวมอยู่ในความรุนแรงทางเพศได้เช่นกัน
ความรุนแรงทางเพศ ส่งผลกระทบอย่างไร
ความรุนแรงทางเพศสามารถส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจในหลายส่วน เช่น เกิดรอยฟกช้ำ บาดเจ็บที่อวัยวะเพศ ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ตั้งครรภ์ ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งผลที่ตามมาอาจเกิดขึ้นอย่างเรื้อรังยากที่จะหายไปได้ และอาจมีแนวโน้มทำให้เหยื่อเกิดพฤติกรรมลบต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น การใช้ยาเสพติด การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่กระทำขึ้นเพื่อหลีกหนีบาดแผลภายในจิตใจ
ยิ่งไปกว่านั้น ความรุนแรงทางเพศยังอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น หยุดงาน การทำงานแย่ลง การตกงานเนื่องจากไม่สามารถทำงานได้ ทำให้เหยื่อไม่สามารถหารายได้ได้ ซึ่งส่งผลกระทบระยะยาวทั้งต่อความเป็นอยู่ของตัวเองและครอบครัว
นอกจากนี้ ความรุนแรงทางเพศยังอาจเชื่อมโยงกับความรุนแรงในรูปแบบอื่น ๆ อีก เช่น การถูกล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็ก อาจมีแนวโน้มที่จะเจอกับความรุนแรงทางเพศอีกเมื่อโตขึ้น และกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรงจากคู่นอนในวัยผู้ใหญ่ หรือการรังแกกันในโรงเรียนมัธยม ซึ่งอาจเป็นการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนด้วย
การป้องกันความรุนแรงทางเพศ
ทุกคนสามารถป้องกันตัวเองจากความรุนแรงทางเพศได้ ดังนี้
- เมื่อยู่บ้านควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าต่างและประตูทุกบานล็อกอย่างแน่นหนา
- ตรวจสอบตัวตนของพนักงานขายหรือพนักงานบริการก่อนที่จะให้เข้าไปบ้าน แต่หากไม่มีความจำเป็นไม่ควรให้ผู้อื่นเข้าบ้านเด็ดขาด
- หากอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เปลี่ยวคนเดียว โดยเฉพาะตอนกลางคืน เช่น ห้องซักผ้า ลานจอดรถ ดาดฟ้า มุมตึก
- หากกลับบ้านคนเดียวแล้วพบว่าประตูหรือหน้าต่างเปิดอยู่ ไม่ควรเข้าบ้านไปดูด้วยตัวเอง แต่ควรโทรแจ้งตำรวจเพื่อเข้ามาตรวจสอบทันที
- หากเดินข้างนอกคนเดียว ควรตื่นตัวกับสภาพแวดล้อมและผู้คนรอบตัวยู่เสมอ
- หากเดินข้างนอกคนเดียว ควรอยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอให้มากที่สุด
- หากเดินข้างนอกคนเดียว ควรเดินชิดขอบทาง หลีกเลี่ยงประตู พุ่มไม้ และตรอกซอกที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดี
- หากกำลังมีปัญหาให้ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เช่น กรีดร้อง ตะโกนขอความช่วยเหลือหรือตะโกนว่า “ไฟไหม้!” เพื่อให้ผู้อื่นออกมาช่วยได้ทัน
- หากเดินข้างนอกคนเดียวแล้วรู้สึกว่าถูกตาม ให้เดินเข้าไปในร้านค้าหรือเคาะประตูบ้านคนแถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ
- สำหรับโซเชียลต่าง ๆ ควรปกปิดความเป็นส่วนตัวให้มากที่สุด ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวนง่าย ๆ และควรตรวจสอบให้แน่ใจทั้งสินค้าและบริการที่ได้รับผ่านทางโซเชียลเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง