ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน หรือมากกว่านั้น อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การตั้งครรภ์ ความเครียดสะสม ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ โดยปกติแล้วผู้หญิงจะมีประจำเดือนทุก ๆ 28-30 วัน ตามภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล ดังนั้น หากพบว่าประจำเดือนไม่มา 1 เดือนขึ้นไป ควรตรวจครรภ์และเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด
[embed-health-tool-ovulation]
ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน เกิดจากอะไร
ประจำเดือนไม่มา 1 เดือนขึ้นไป อาจเกิดจากสาเหตุ ดังต่อไปนี้
- การตั้งครรภ์ เมื่อมีการตั้งครรภ์ ร่างกายจะหยุดกระบวนการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนไม่มา
- วัยหมดประจำเดือน พบได้มากในผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป เนื่องจากระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ส่งผลให้การตกไข่น้อยลงจนทำให้ประจำเดือนไม่มาและหยุดลงโดยสมบูรณ์
- ยาคุมกำเนิด อาจช่วยชะลอการตกไข่ และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบาง เพื่อไม่ให้เกิดการปฏิสนธิและฝังตัวของไข่และอสุจิ ซึ่งส่งผลให้ประจำเดือนไม่มาด้วยเช่นกัน
- ความเครียด อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ที่อยู่บริเวณสมองส่วนหน้า ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนไม่มา
- น้ำหนักตัว การมีน้ำหนักมากเกิน หรือน้ำหนักน้อยเกินไป อาจทำให้ร่างกายหยุดผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จำเป็นต่อการตกไข่ หรือทำให้มีปริมาณมากเกินไปจนเสียความสมดุล และอาจทำให้ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน หรือนานกว่านั้น
- การออกกำลังกายมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเกิดความเครียด และส่งผลกระทบต่อการตกไข่ ซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือไม่มาได้
- กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่หลายใบ ส่งผลให้ฮอร์โมนแปรปรวนไม่อาจทำให้เกิดการตกไข่ได้ จึงส่งผลให้ประจำเดือนไม่มา
ภาวะแทรกซ้อนเมื่อประจำเดือนไม่มา 1 เดือน
หากประจำเดือนไม่มา 1 เดือน หรือนานกว่านั้น อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ดังนี้
- มีบุตรยากและมีปัญหาระหว่างตั้งครรภ์ ปัญหาประจำเดือนไม่มาที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลจนไม่มีการตกไข่ อาจส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากด้วยเช่นกัน
- ปวดกระดูกเชิงกราน เนื่องจากฮอร์โมนเพศมีหน้าที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก กล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยควบคุมการไหลของประจำเดือน ดังนั้น เมื่อฮอร์โมนเพศลดลง จึงอาจทำให้มีอาการปวดกระดูกเชิงกราน และเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนได้เมื่อประจำเดือนไม่มาเป็นเวลานานหรือเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน
- เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ปัญหาประจำเดือนไม่มาเนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือด ที่อาจนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือดได้
- ผลกระทบต่อจิตใจ ประจำเดือนไม่มาอาจส่งผลให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล เช่น กังวลว่าจะตั้งครรภ์ กังวลว่าจะเป็นโรคร้ายแรง
ประจําเดือนไม่มา 1 เดือน ควรทำอย่างไร
ผู้หญิงที่ประจําเดือนไม่มา 1 เดือน หรือนานกว่านั้น ควรปฏิบัติดังนี้
- ตรวจครรภ์ ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีในรูปแบบหยดและแบบจุ่ม หรือเข้ารับการตรวจครรภ์โดยคุณหมอ
- ผ่อนคลายความเครียด เนื่องจากการที่ประจำเดือนมาช้าอาจมีสาเหตุมาจากความเครียด ดังนั้นจึงควรผ่อนคลายความเครียดด้วยการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เช่น ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ นอนพักผ่อน นั่งสมาธิ
- หยุดรับประทานยาคุมกำเนิด สำหรับผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิด หากอยากให้ประจำเดือนมา ควรรับประทานยาคุมแผงเดิมให้หมดก่อน จากนั้นจึงหยุดรับประทานยาคุม อาจทำให้ประจำเดือนกลับมาเป็นปกติในรอบถัดไป
- ควบคุมน้ำหนัก ควรควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ ระวังไม่ให้น้ำหนักน้อยหรือมากจนเกินไป ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว และควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
- ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ควรออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที และไม่ควรออกกำลังกายที่ใช้แรงหนักจนเกินไปหรือนานจนเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ร่างกายมีความเครียด เหนื่อยล้า นำไปสู่ประจำเดือนขาด
- เข้ารับการตรวจสุขภาพจากคุณหมอ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มา และทำการรักษาให้เหมาะสม