backup og meta

หนองในเทียมหายเองได้ไหม

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงนันทิวดี มาเมือง · สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 29/01/2024

    หนองในเทียมหายเองได้ไหม

    หนองในเทียมหายเองได้ไหม อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ทั้งนี้ หนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย ในระยะแรก หนองในเทียมอาจไม่แสดงอาการใด ๆ และมักหายเองได้หากอาการไม่รุนแรง แต่หากรู้สึกเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศ ควรเข้ารับการตรวจรักษาโดยเร็ว เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ การติดเชื้อที่อัณฑะและต่อมลูกหมาก

    หนองในเทียม คืออะไร

    หนองในเทียม คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า คลาไมเดีย ทราโคมาติส (Chlamydia trachomatis) ผ่านทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือช่องปาก มักเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน หากสตรีตั้งครรภ์เป็นโรคหนองในเทียม อาจแพร่เชื้อให้แก่ทารกในครรภ์ได้ระหว่างคลอด ซึ่งอาจทำให้ทารกแรกเกิดติดเชื้อที่ตา และปอด และนำไปสู่โรคปอดบวมได้

    อาการหนองในเทียมในผู้ชายและผู้หญิงมีความแตกต่างกัน ดังนี้

    อาการหนองในเทียมในผู้ชาย

    • รู้สึกเจ็บอวัยวะเพศขณะถ่ายปัสสาวะ
    • รู้สึกแสบร้อนและคันองคชาต
    • มีสารคัดหลั่งลักษณะขุ่นใสบริเวณปลายองคชาต
    • อัณฑะบวม

    อาการหนองในเทียมในผู้หญิง

    • มีไข้
    • ปวดท้อง
    • ตกขาวมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
    • เลือดออกระหว่างมีเพศสัมพันธ์
    • คันและแสบร้อนรอบ ๆ ช่องคลอด หรือภายในช่องคลอด โดยเฉพาะขณะมีเพศสัมพันธ์
    • รู้สึกเจ็บแสบขณะปัสสาวะ

    หนองในเทียมหายเองได้ไหม

    ในกรณีที่ไม่รุนแรง หนองในเทียมสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ในระหว่างนั้นควรงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าหนองในเทียมจะหาย แต่หากมีอาการในระดับปานกลางหรือเจ็บแสบขณะถ่ายปัสสาวะ ควรเข้ารับการตรวจปัสสาวะ หรือคุณหมออาจขอเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งไปตรวจหาสาเหตุและดำเนินการรักษาในลำดับถัดไป

    วิธีรักษาหนองในเทียมที่นิยมใช้ อาจมีดังนี้

    • การรับประทานยาปฏิชีวนะตามที่คุณหมอสั่งจ่าย เช่น อะซิโทรมัยซิน (Azithromycin) ด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) โดยอาจจำเป็นต้องรับประทานยาติดต่อกัน 5-10 วัน
    • การให้ยาปฏิชีวนะผ่านทางหลอดเลือดดำและอาจจำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

    วิธีดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงโรคหนองในเทียม

    วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหนองในเทียม มีดังนี้

    • งดมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
    • หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน เพราะอาจยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหนองในเทียมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ
    • หลีกเลี่ยงการสวนล้างอวัยวะเพศ หรือทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศด้วยผลิตภัณฑ์เคมี ควรล้างบริเวณภายนอกอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่า
    • เมื่อขับถ่ายเสร็จแล้ว ควรเช็ดอวัยวะเพศจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนักแพร่เชื้อไปยังอวัยวะเพศ
    • เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อตรวจหาโรคหนองในเทียม และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงนันทิวดี มาเมือง

    สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 29/01/2024

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา