พยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อโปรตัวซัวซึ่งเป็นปรสิตขนาดเล็ก ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการตกขาวเยอะกว่าผิดปกติ ช่องคลอดมีกลิ่น รู้สึกคันที่อวัยวะเพศ และรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
[embed-health-tool-ovulation]
คำจำกัดความ
พยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) คืออะไร
พยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวซึ่งเป็นปรสิตขนาดเล็ก ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการตกขาวเยอะกว่าผิดปกติ ช่องคลอดมีกลิ่น รู้สึกคันที่อวัยวะเพศ และรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม โรคพยาธิในช่องคลอด มักพบได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะคลอดลูกก่อนกำหนด
โรคพยาธิในช่องคลอด พบได้บ่อยเพียงใด
โรคพยาธิในช่องคลอด สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย พบบ่อยในเพศหญิง โดยเฉพาะในผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนหลายคน หรือไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์
อาการ
อาการของ โรคพยาธิในช่องคลอด
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็น โรคพยาธิในช่องคลอด จะมีอาการดังต่อไปนี้
- ตกขาวเยอะผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น
- ตกขาวมีสีเทาเหลือง หรือเขียว
- รู้สึกคันที่อวัยวะเพศ
- รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น
ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้นหรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของ โรคพยาธิในช่องคลอด
สาเหตุของ โรคพยาธิในช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวซึ่งเป็นปรสิตขนาดเล็ก แพร่เชื้อติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ (ไม่ทราบระยะฟักตัวระหว่างการติดเชื้อ แต่คาดว่าเชื้อจะฟักตัวตั้งแต่ 4-28 วัน) โดยส่วนใหญ่ มักพบในเพศหญิงที่มีอายุระหว่าง 14-49 ปี ติดเชื้อในช่องคลอด ปากมดลูกหรือท่อปัสสาวะ
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของพยาธิในช่องคลอด
- มีคู่นอนหลายคน
- มีประวัติติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัย โรคพยาธิในช่องคลอด
ในเบื้องต้นแพทย์จะสอบถามประวัติและอาการของผู้ป่วย อาจนำปัสสาวะไปตรวจ โดยใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจหาปรสิต รวมถึงการทดสอบอื่น ๆ เพื่อตรวจหาเชื้อที่ติดจากโรคทางเพศสัมพันธ์
การรักษาพยาธิในช่องคลอด
สำหรับวิธีการรักษา โรคพยาธิในช่องคลอด ที่พบบ่อยมากที่สุด คือ การกลืนเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) หรือทินิดาโซล (Tinidazole) 1 เมกะโดส (Megadose) ในบางกรณี แพทย์อาจจะแนะนำให้คุณลดขนาดยาเมโทรนิดาโซลเป็น 2 ครั้งต่อวัน และกินติดต่อกันเป็นระยะเวลา 7 วัน
คุณและคู่ของคุณควรเข้ากับการรักษาพร้อม ๆ กัน รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าการติดเชื้อจะหายขาด ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากกินยาเมโทรนิดาโซล หรืองดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 72 ชั่วโมง หลังจากกินยาทินิดาโซล เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนอย่างรุนแรง หลังจากนั้น ประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน แพทย์ของคุณอาจจะขอทำการตรวจวินิจฉัยอาการโรคพยาธิในช่องคลอดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ติดเชื้อซ้ำอีก โรคพยาธิในช่องคลอดที่ไม่ได้รับการรักษา อาการอาจจะอยู่ได้นานหลายเดือนถึงหลายปี
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อรักษาพยาธิในช่องคลอด
- สมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด
- หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
- สอบถามประวัติทางเพศกับผู้ที่เรามีเพศสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมา จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้