สะดือเหม็น เป็นภาวะที่พบได้ในคนทุกวัย อาจเกิดจากการติดเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเกิดจากการดูแลผิวหนังบริเวณสะดือที่ไม่เหมาะสม ทำให้มีสิ่งสกปรกซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นสะสมอยู่ การทราบสาเหตุและวิธีดูแลความสะอาดของสะดือที่ถูกต้อง จึงอาจช่วยลดปัญหาสะดือเหม็นได้
[embed-health-tool-bmr]
สะดือเหม็น เกิดจากสาเหตุใด
สะดือเหม็น อาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้
สุขอนามัยที่ไม่เหมาะสม
สะดืออาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคหลายชนิด เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ที่ทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ การติดเชื้อที่ผิวหนัง ฝี การติดเชื้อในกระแสเลือด เชื้อแบคทีเรียคอรีนแบคเตอเรีย (Corynebacteria) ที่ทำให้เกิดโรคคอตีบ เชื้อโรคเหล่านี้อาจเข้าไปในสะดือเพื่อกินเศษผิวหนังที่ตายแล้ว เมื่อมีเชื้อโรค เหงื่อ สิ่งสกปรก น้ำมันสะสมอยู่ที่ผิวหนังบริเวณสะดือมาก ๆ และทำความสะอาดผิวหนังไม่ถูกวิธี เช่น ไม่เช็ดให้สะดือให้แห้งหลังอาบน้ำ อาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นบริเวณสะดือได้
การติดเชื้อยีสต์แคนดิดา (Candida)
ยีสต์แคนดิดาเป็นยีสต์ที่พบได้บนผิวหนัง โดยปกติไม่เป็นอันตราย แต่หากปล่อยให้ผิวหนังอับชื้นเป็นเวลานาน ยีสต์แคนดิดาอาจเพิ่มจำนวนและทำให้เกิดการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะบริเวณปาก ลำคอ ช่องคลอด รักแร้ และสะดือ เมื่อติดเชื้อยีสต์แคนดิดา จะทำให้ผิวหนังมีตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด บวมแดง หากเป็นโรคเบาหวานหรือโรคอ้วน อาจเสี่ยงติดเชื้อนี้ได้มากขึ้น
ซีสต์
ซีสต์ คือ ตุ่มหรือก้อนของเหลวใต้ชั้นผิวหนัง ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย ไม่ทำให้เจ็บปวด และอาจหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่หากซีสต์ติดเชื้อ ผิวหนังจะบวมแดง ไวต่อความรู้สึก มีอาการเจ็บปวด และมีหนองที่มีกลิ่นเหม็น หากมีซีสต์ติดเชื้อที่บริเวณสะดือ ก็อาจทำให้สะดือเหม็นได้
การเจาะสะดือ
การเจาะสะดืออาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซึ่งอาจทำให้เกิดหนองที่มีกลิ่นเหม็นได้ สัญญาณที่อาจบ่งบอกว่าสะดือกำลังติดเชื้อ มีดังนี้
- ผิวหนังรอบสะดือบวมแดง
- มีเลือดออกจากผิวหนังรอบสะดือ
- มีไข้
หากเจาะสะดือ ควรรักษาความสะอาดให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และหากมีอาการที่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อข้างต้น ควรรีบไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด
วิธีดูแลทำความสะอาดสะดือ
การดูแลและทำความสะอาดสะดือ เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่น ๆ ที่อาจทำให้ติดเชื้อและทำให้สะดือเหม็น มีดังนี้
- อาบน้ำเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันปัญหาผิวและกลิ่นตัวในบริเวณต่าง ๆ เช่น รักแร้ เท้า สะดือ
- เช็ดทำความสะอาดผิวหนังบริเวณรอบสะดือและในรูสะดือด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นผสมสบู่อ่อน ๆ บิดหมาด จากนั้นใช้ผ้าสะอาดซับเบา ๆ ให้แห้ง
- ทำความสะอาดเสื้อผ้าหลังสวมใส่ทุกครั้ง เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย เหงื่อ น้ำมัน และสิ่งสกปรกอื่น ๆ
- หากสะดือเหม็นเนื่องจากติดเชื้อ มีหนอง หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรเข้าพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาต่อไป
ควรพบคุณหมอเมื่อใด
หากสะดือติดเชื้อโดยมีอาการคัน บวม ผิวหนังสีแดง หรือมีหนองไหลออกมาซึ่งอาจแข็งตัวเป็นก้อนรอบ ๆ สะดือ ควรรีบไปพบคุณหมอทันที และหากมีซีสต์ติดเชื้อ มีถุงน้ำ ผู้ป่วยไม่ควรเจาะถุงน้ำเองเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น เชื้อลุกลาม ซีสต์ไม่หายขาด หรือมีซีสต์เพิ่ม