backup og meta

วิธีรักษาเกลื้อน ด้วยตัวเอง โดยใช้วัตถุดิบใกล้ตัว

วิธีรักษาเกลื้อน ด้วยตัวเอง โดยใช้วัตถุดิบใกล้ตัว

เกลื้อน เป็นโรคผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อรา ที่ทำให้เกิดรอยด่างที่มีสีแตกต่างจากสีผิวปกติ ไม่ใช่โรคติดต่อหรืออันตรายแต่อย่างใด และสามารถรักษาเกลื้อนให้หายขาดได้ ด้วยการใช้ยาฆ่าเชื้อรา หรือใช้ วิธีรักษาเกลื้อน โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป เช่น เบกกิ้งโซดา กระเทียม สะเดา อย่างไรก็ตาม หากอาการเกลื้อนยังคงไม่หายไปแม้ว่าจะทำการรักษาแล้ว ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาทางจัดการเกลื้อนที่เหมาะสม

[embed-health-tool-heart-rate]

เกลื้อน เป็นอย่างไร

โรคเกลื้อน หรือเกลื้อน (Tinea versicolor) คือ โรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อราในผิวหนังที่ชื่อ Malassezia ส่งผลให้กระบวนการสร้างเม็ดสีของผิวหนังผิดปกติ เกิดเป็นรอยด่างที่มีสีเข้มหรือสีอ่อนกว่าสีผิวปกติ รอยด่างเกลื้อนมักเกิดขึ้นในบริเวณผิวหนังที่มีต่อมไขมันอยู่มาก อย่างไรก็ตาม โรคเกลื้อนไม่ใช่โรคติดต่อ และสามารถรักษาให้หายขาดได้ ข้อสำคัญคือควรรักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้เกิดการหมักหมม เพื่อป้องกันไม่ให้ เป็นเกลื้อน หรือเป็นโรคผิวหนังอื่น ๆ 

ปัจจัยที่อาจกระตุ้นการเกิดเกลื้อน

เกลื้อนอาจปรากฏขึ้นเมื่อเจอปัจจัยกระตุ้น ดังนี้

  • สภาพอากาศที่ร้อนและชื้น
  • ผิวมัน
  • เหงื่อ
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

ปัจจัยเหล่านี้ อาจสามารถเร่งการเจริญเติบโตของเชื้อราบนผิวหนัง แล้วทำให้เกิดเป็นอาการของเกลื้อนได้ในที่สุด

วิธีรักษาเกลื้อน ด้วยตัวเอง

เกลื้อนสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้ยาทาที่มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อราหรือต้านเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ไซโคลพิรอกซ์ (Ciclopirox) หรือคุณหมออาจสั่งจ่ายเป็นยาเม็ดสำหรับฆ่าเชื้อรา เช่น ไอทราโคนาโซล  (Itraconazole) นอกจากนี้ ยังสามารถใช้วิธีธรรมชาติในการช่วยรักษาเกลื้อนได้ ดังนี้

1. เบกกิ้ง โซดา 

แม้จะไม่ใช่สารสกัดจากธรรมชาติ แต่เบกกิ้งโซดาก็เป็นวัตถุดิบที่ใช้งานในครัวเรือนอยู่บ่อย ๆ เช่นเดียวกับวัตถุดิบจากธรรมชาติอื่น ๆ และถือเป็นวิธีง่าย ๆ วิธีหนึ่งที่สะดวกและเห็นผล เนื่องจากเบกกิ้งโซดามีสภาพเป็นกรด ในขณะที่เชื้อราไม่สามารถอาศัยสภาวะที่เป็นกรดได้ ดังนั้น เบกกิ้งโซดาจึงสามารถช่วยฆ่าเชื้อราที่ผิวหนังได้ดี โดยสามารถใช้เบกกิ้งโซดาในการรักษาเกลื้อนได้ ดังนี้

  • ผสมเบกกิ้งโซดา 2-3 ช้อนชา กับน้ำสะอาดประมาณ 2-3 หยด
  • เมื่อผสมจนเข้ากันแล้วให้นำไปทาบริเวณผิวหนังที่ เป็นเกลื้อน ทิ้งไว้ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ทำติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน และหมั่นสังเกตอาการ

2. กระเทียม

กระเทียม เป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยาในการต้านเชื้อราได้เป็นอย่างดี เพราะอุดมไปด้วยสารแอลลิซิน (Allicin) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา สามารถใช้รักษาอาการกลากหรือเกลื้อนได้ดี โดยสามารถใช้กระเทียมในการรักษาเกลื้อนได้ ดังนี้

  • นำกระเทียมไปตำหรือทุบให้ละเอียด แยกเอาน้ำออก ใช้แต่ส่วนที่เป็นเนื้อละเอียด
  • นำเนื้อกระเทียมที่ตำละเอียดแล้วไปทาพอกผิวหนังบริเวณที่ เป็นเกลื้อน ทิ้งไว้ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ทำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และหมั่นสังเกตอาการ

3. แอปเปิ้ลไซเดอร์

แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล มีกรดแอซิติก (Acetic acid) ที่มีสรรพคุณต้านการอักเสบและการติดเชื้อได้ดี โดยสามารถใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ในการรักษาเกลื้อนได้ ดังนี้

  • ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ลงในน้ำสะอาด 1 ถ้วย
  • นำสำลีมาจุ่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ผสมน้ำสะอาด จากนั้นนำไปทาผิวหนังบริเวณที่ เป็นเกลื้อน 
  • ทำวันละ 2-3 ครั้ง และหมั่นสังเกตอาการ

4. สะเดา

สะเดา ผักพื้นบ้านที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าเป็นผักเคียงจิ้มน้ำพริก เพราะสะเดาเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยา ใช้รักษาและบรรเทาอาการของโรคผิวหนังได้หลายชนิดโดยเฉพาะกลากและเกลื้อน โดยสามารถใช้สะเดาในการรักษาเกลื้อนได้ ดังนี้

  • ใช้ใบสะเดาประมาณ 1 กำมือ ปั่นหรือตำผสมกับน้ำสะอาดเล็กน้อยให้ละเอียด
  • นำใบสะเดาที่ปั่นละเอียดมาพอกแปะผิวหนังบริเวณที่ เป็นเกลื้อน ทิ้งไว้ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ทำวันละ 3-4 ครั้ง และหมั่นสังเกตอาการ

5. ใบชุมเห็ดเทศ

ชุมเห็ดเทศ เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดี จากผลการศึกษาที่ได้รับการเผยแพร่ใน Ethnopharmacology เมื่อปี พ.ศ. 2537 เผยว่า ใบชุมเห็ดเทศมีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนัง เช่น กลากหรือเกลื้อนได้ โดยสามารถใช้สะเดาในการรักษาเกลื้อนได้ ดังนี้

  • ใช้ใบชุมเห็ดเทศประมาณ 1 กำมือ ตำผสมกับน้ำมันมะกอกเล็กน้อยให้ละเอียด
  • นำใบชุมเห็ดเทศที่ตำละเอียดมาพอกแปะผิวหนังบริเวณที่ เป็นเกลื้อน ทิ้งไว้ 20-30 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ทำวันละ 2-3 ครั้ง และหมั่นสังเกตอาการ

เมื่อไหร่ควรไปพบคุณหมอ

โดยทั่วไปแล้ว เป็นเกลื้อน ไม่จำเป็นต้องไปพบคุณหมอ เพราะโรคเกลื้อนนั้นไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย สามารถาซื้อยาครีมฆ่าเชื้อราสำหรับรักษาโรคเกลื้อน ที่ได้รับคำแนะนำจากเภสัชกรมาใช้ได้เลย 

  • เกลื้อนไม่ลดลงแม้จะได้พยายามรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว
  • เป็นเกลื้อน และหายแล้ว แต่กลับมาเป็นอีกครั้ง
  • รอยด่างของเกลื้อนขยายเป็นดวงใหญ่ผิดปกติ

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Tinea versicolor. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tinea-versicolor/symptoms-causes/syc-20378385#:~:text=Tinea%20versicolor%20is%20a%20common,affect%20the%20trunk%20and%20shoulders. Accessed on 21 January, 2021.

Tinea versicolor. (n.d.). hopkinsmedicine.org/healthlibrary/conditions/dermatology/tinea_versicolor_85,P00320/. Accessed August 27, 2021

Tinea versicolor: Overview. (2014, December 17). ncbi.nlm.nih.gov/pubmedhealth/PMH0076676/. Accessed August 27, 2021

Tinea versicolor: Overview. (n.d.). aad.org/public/diseases/color-problems/tinea-versicolor. Accessed August 27, 2021

Antimicrobial properties of allicin from garlic. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/10594976/. Accessed November 24, 2021.

เวอร์ชันปัจจุบัน

28/02/2024

เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

ผิวหนังอักเสบ ฤดูหนาว ป้องกันได้อย่างไร

กลากที่หนังศีรษะ สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 28/02/2024

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา