ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ (Discoid eczema) เป็นหนึ่งในโรคผิวหนังอักเสบที่พบได้ค่อนข้างบ่อย มีลักษณะเป็นผื่นรูปวงกลม คล้ายเหรียญบาท สีออกชมพู แดง หรือน้ำตาล มีลักษณะเป็นขุยโดยรอบ และมักทำให้รู้สึกคัน โดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น ผิวแห้ง สภาพอากาศแห้ง การติดเชื้อ ภูมิแพ้ ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญอาจบรรเทาได้ด้วยการดูแลตัวเอง และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้อาการกำเริบ
[embed-health-tool-heart-rate]
ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ คืออะไร
ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ เป็นภาวะผิวหนังเรื้อรังที่สามารถเกิดได้บนผิวหนังทั่วร่างกาย โดยจะมีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ สาเหตุในการเกิดผื่นผิวหนังประเภทนี้ยังไม่แน่ชัด แต่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีผิวแห้ง และผิวแพ้ง่าย ที่ถูกกระตุ้นจากสารเคมีในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน และสิ่งของบางชนิด รวมถึงผู้ที่มีปัญหาโรคผิวหนัง เช่น โรคเรื้อน โรคกลาก โรคเกลื้อน
หากสังเกตเห็นความผิดปกติบนผิวหนัง ควรปรึกษาคุณหมอ เพราะหากไม่รีบรักษาอาจทำให้กลายเป็นปัญหาผิวหนังเรื้อรัง โดยอาการที่เป็นสัญญาณของโรคผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ ได้แก่
- ผิวเริ่มถลอกเป็นรูปวงกลม
- ผิวแห้งเป็นขุย
- มีผื่นสีชมพู สีแดง หรือสีน้ำตาล
- ผื่นมีอาการบวมขึ้น และอาจมีของเหลวไหลออกมาเล็กน้อย
- มีอาการคัน รู้สึกแสบร้อน
ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ เกิดขึ้นกับใครได้บ้าง
ภาวะนี้มักเกิดขึ้นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ตั้งแต่ช่วงวัยทารก เด็กเล็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ จนถึงผู้สูงอายุช่วงวัย 55-65 ปี โดยทุกช่วงวัยนั้นมักจะเผยอาการแรกของผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญออกมาได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องได้ทันเวลาก่อนอาการลุกลามจนต้องใช้เวลารักษานานกว่าเดิม
ผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ และวิธีดูแลตนเอง
เมื่อเป็นผื่นผิวหนังอักเสบรูปเหรียญ คุณหมออาจแนะนำวิธีดูแลตนเองเพื่อบรรเทาอาการของผื่น และป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ดังนี้
- อาบน้ำอุณหภูมิปกติวันละ 1-2 ครั้งหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน
- ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน และเหมาะกับสภาพผิว เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง
- รักษาสุขภาพอนามัยตนเองด้วยการล้างมือ และตัดเล็บ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดเกาผดผื่น เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อบนผิวหนังถาวร
- หลีกเลี่ยงการเผชิญสภาพอากาศร้อนจัด หรือการเผชิญแสงแดดโดยตรง
- สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ไม่รัดรูป เพื่อป้องกันเหงื่อออกมากจนอับชื้น
- ใช้ยาสเตียรอยด์ทาบนผิวหนังเฉพาะที่ เพื่อลดการอักเสบของผื่น
- หมั่นทายาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของแพทย์
- รับประทานยาแก้แพ้ตามขนาดที่ระบุไว้บนฉลากยา เมื่อเห็นว่าอาการรุนแรงขึ้น
ในกรณีที่ต้องมีการใช้ยารักษาอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรเข้ารับการวินิจฉัย เพื่อให้คุณหมอค้นหาชนิดของยาที่เหมาะสมแก่สภาพผิวหนัง และอาการที่เป็น เพราะยาแต่ละประเภทอาจมีขนาดยา วิธีการใช้ รูปแบบการใช้ ที่แตกต่างกัน ดังนั้น การปรึกษาคุณหมอก่อน อาจเป็นวิธีแรกของการรักษาที่ดีที่สุด
