backup og meta

ผื่นแดงหลังการโกนขน คืออะไร และวิธีบรรเทาอาการ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พลอย วงษ์วิไล


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 3 สัปดาห์ก่อน

    ผื่นแดงหลังการโกนขน คืออะไร และวิธีบรรเทาอาการ

    การกำจัดขนอาจเป็นวิธีที่หลายคนเคยใช้ อย่างไรก็ตาม การกำจัดขนด้วยมีโกนอาจต้องใช้ความระวัง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจากใบมีดบาด รวมไปถึง อาการผื่นแดงหลังการโกน ร่วมด้วย ซึ่งวันนี้ Hello คุณหมอ ก็ได้นำถึงวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นที่อาจทำให้คุณพ้นจาก ผื่นแดงหลังการโกนขน ได้ มาฝากทุกคนกันค่ะ

    ผื่นแดงหลังการโกนขน คืออะไร

    ผื่นแดงหลังการโกนขน (Razor Burn) คือ ผื่นที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังมีอาการระคายเคือง คัน แสบร้อนหรือเจ็บจากใบมีดที่ถูไปมา หรือผิวอาจมีตุ่มหนองจากการที่ขนเริ่มงอกขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ พฤติกรรมจากการใช้มีดโกนที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ก็อาจก่อให้เกิดผื่นแดงขึ้นหลังจากโกนขนได้

    • โกนขนโดยไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความอ่อนโยนแก่เส้นขนและผิวหนังก่อนโกน
    • โกนซ้ำกันไปมาอยู่บริเวณเดียว
    • การใช้มีดโกนที่มีอายุการใช้งานนานเกินควร
    • โกนเร็ว และแรงเกินไป
    • โกนขนสวนกับทิศทางที่ขนขึ้น

    โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการผื่นแดงหลังการโกนขนอาจเกิดขึ้นได้กับผิวหนังทั่วทั้งร่างกายที่สัมผัสกับใบมีดโกน เช่น ใบหน้า ใต้วงแขน หน้าขา หรือแม้แต่ขนบริเวณอวัยวะเพศของคุณ เป็นต้น

    วิธีบรรเทาอาการผื่นแดงหลังการโกน

    ผื่นแดงที่เกิดขึ้นบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อน บวมแดง และคันระคายเคืองร่วมด้วย ดังนั้นจึงอาจส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตัว และทรมานกับอาการเหล่านี้ได้ ซึ่งวิธีการบรรเทาอาการผื่นแดงหลังการโกนด้วยตัวเองอาจทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

    1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ระคายเคืองให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันการอักเสบ ระคายเคือง และการติดเชื้อ
    2. หาผ้าสะอาดแช่ในน้ำเย็นหรือแช่ตู้เย็นเอาไว้ แล้วนำมาประคบบริเวณที่ได้รับผลกระทบประมาณ 20 นาที สามารถทำซ้ำได้บ่อยตามที่ต้องการ
    3. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยนและรักษาความชุ่มชื้นของผิว เพื่อลดการอักเสบ อาการไหม้ เช่น ว่านหางจระเข้ ข้าวโอ๊ต น้ำมันต้นชา
    4. อาจขัดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือกรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายยา เนื่องจาก สารขัดผิวเหล่านี้อาจช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน 
    5. อาจใช้เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) อาจช่วยผ้องกันแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน จนทำให้เกิดเป็นตุ่มนู่น ซึ่งเมื่อวานเวลาใช้มีดโกนในการโกนขนอาจทำให้เกิดแผลได้ นอกจากนี้เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ยังอาจช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากผิวหนังแห้งและช่วยลดการเปลี่ยนสีของผิวหนัง
    6. อาจใช้ครีมไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone Cream) ซึ่งเป็นสเตียรอยด์เฉพาะที่ ใช้ในการลดการระคายเคืองและการอักเสบของผิวหนัง โดยปกติจะใช้ทาวันละ 1-2 ครั้ง โดยครีมไฮโดรคอร์ติโซนอาจซื้อได้ตามร้านขายยา หรือคุณหมออาจเป็นผู้สั่งจ่ายให้

    ในกรณีที่รู้สึกว่าตัวเองมีอาการระคายเคืองที่รุนแรง หรือมีผื่นแดงขึ้นจนทำให้รู้สึกเจ็บแสบผิวหนังเป็นอย่างมากนั้น คุณควรเข้ารับคำปรึกษาจากเภสัชกรตามร้านขายยา หรือคุณหมอเฉพาะทางโดยตรงในทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจก่อให้เกิดตุ่มหนองขึ้นตามรูขุมขนที่อักเสบได้

    วิธีการกำจัดขนโดยไม่ใช้มีดโกน

    หากไม่สามารถใช้มีดโกนเพื่อกำจัดขนได้ การใช้เทคนิคเหล่านี้ อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่อาจใช้ในการกำจัดขนได้

    เป็นวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะด้วยแสงเลเซอร์ที่ถูกยิงเข้าไปโดยตรงในรากขน อาจเป็นการช่วยชะลอการเจริญเติบโตของขนได้ แต่ถึงอย่างไรการเลเซอร์กำจัดขนนี้อาจต้องหมั่นเข้าพบคุณหมอตามที่ได้นัดหมายไว้ และอาจมีค่ารักษาที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้บางคนเลือกที่จะใช้มีดโกนมากกว่า

    • การถอนขน

    วิธีนี้อาจเป็นเทคนิคที่รวดเร็วต่อการกำจัดขน ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เพราะเป็นการใช้อุปกรณ์ในการหนีบขนออกโดยไม่ใช้ยาชา หรือเจลให้ความอ่อนโยน

    • ผลิตภัณฑ์กำจัดขน

    ปัจจุบันมักมีครีมกำจัดขนให้เลือกมากมายตามความเหมาะสมของสภาพผิวหนัง ซึ่งสารเคมีในผลิตภัณฑ์อาจทำให้เส้นขนอ่อนตัวลงและหลุดออกมาได้ง่าย แต่อย่างไรการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดขนควรอ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์ให้ดี เพื่อทราบส่วนประกอบภายในที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาอาการแพ้ได้

    • แว็กซ์แบบร้อน

    วิธีการกำจัดขนนี้อาจต้องระมัดระวังความร้อน เพราะส่วนใหญ่แว็กซ์ที่ใช้อาจมาจากน้ำตาล หรือขี้ผึ้งที่เหนียวเป็นพิเศษและอาจกักเก็บความร้อนไว้สูง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยแก่ผิวหนังควรเลือกใช้บริการจากร้านหรือคลินิกเสริมความงามที่มีใบรับรอง

    การกำจัดขนแบบไร้มีดโกน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม ควรศึกษาถึงข้อดีข้อเสีย รวมถึงขั้นตอนต่าง ๆ เสียก่อน เพื่อเป็นการรับมือในกรณีที่เกิดผลข้างเคียงขึ้น เพราะในบางครั้งการกำจัดขนด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดในระดับปานกลางจนถึงขั้นรุนแรงได้

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    พลอย วงษ์วิไล


    เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 3 สัปดาห์ก่อน

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา