โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ เป็นโรคทางผิวหนังที่เกิดจากเซลล์แบ่งตัวเร็วผิดปกติ ทำให้ใต้เล็บหนาตัวขึ้น เล็บจึงฉีกขาดได้ง่าย บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงขอนำเสนอ วิธีรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ มาให้ทุกคนได้ศึกษากันค่ะ จะมีวิธีการดูแลและรักษาอย่างไรบ้าง มาดูพร้อมกันเลย
สะเก็ดเงินที่เล็บ (Nail psoriasis)
สะเก็ดเงินที่เล็บ (Nail psoriasis) เป็นโรคเรื้อรังของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ใต้ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยปกติเซลล์ผิวหนังจะสร้างขึ้นใหม่ทุก ๆ 28-30 วัน แต่เมื่อเป็นโรคสะเก็ดเงิน เซลล์ผิวหนังจะผลัดเซลล์ผิวเร็วขึ้นทุก ๆ 3-4 วัน ส่งผลให้ผิวหนังงอกจากโคนเล็บหน้าขึ้น โดยเล็บจะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันไป เช่น เล็บเป็นหลุม สีเล็บเปลี่ยน เล็บเปิด
ลักษณะอาการของโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ
ลักษณะอาการของโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ จะแตกต่างกันไป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- เกิดรอยสีขาวบนเล็บ
- เล็บบิดเบี้ยว
- เล็บแตก
- เล็บฉีกง่าย
- เล็บเปิด
- มีรอยบุ๋มบนเล็บ
- เลือดใต้เล็บ
- เล็บเป็นหลุม
- เล็บฉีกขาดได้ง่าย
- ผิวหนังใต้เล็บหนาขึ้น
วิธีรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ
วิธีรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ มีด้วยกันหลากหลายวิธีทั้งทางด้านแผนปัจจุบันและแผนทางเลือก โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
การรักษาแผนปัจจุบัน
- โดยการใช้ยา ชนิดใช้ภายนอก ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เป็นยาชนิดใช้ภายนอกที่ช่วยบรรเทาอาการสะเก็ดเงิน ลดการอักเสบ เช่น ขี้ผึ้ง ครีมทาเล็บโดยตรง อิมัลชัน (Emulsions) และยาชนิดรับประทาน อย่าง Cyclosporine methotrexate Apremilast (Otezla) and Retinoids ใช้สำหรับผู้ที่มีอาการสะเก็ดเงินระดับปานกลางถึงรุนแรง มีทั้งในรูปแบบเม็ด เหลว และฉีด
- ยาต้านเชื้อราในช่องปาก มีคุณสมบัติรักษาการติดเชื้อราจากโรคสะเก็ดเงิน
- การบำบัดด้วยแสง เพื่อรักษาอาการเล็บเปิด โดยการใช้แสงเลเซอร์ ช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์ผิวหนัง แพทย์จะนำเล็บบริเวณที่เป็นสะเก็ดเงินจุ่มลงในสารซอราเลน (Psoralen) ร่วมกับแสงยูวีเอ (Ultraviolet A : UVA)
- การทำเลเซอร์ โดยการใช้แสงเลเซอร์ยิงบริเวณเส้นเลือดใต้ผิวหนังที่เกิดโรคสะเก็ดเงิน
การรักษาแผนทางเลือก
- การใช้สมุนไพร การใช้สมุนไพรเพื่อบรรเทาอาการเชื้อราที่เล็บ เช่น น้ำส้มสายชูหรือกระเทียม
อย่างไรก็ตาม หากคุณรักษาโรคสะเก็ดเงินที่เล็บหายเป็นปกติ คุณก็ไม่ควรปล่อยปละละเลย ให้หมั่นดูแลเล็บของคุณอย่างสม่ำเสมอ เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี ดูแลเล็บให้สะอาด ตัดเล็บให้สั่นไม่ปล่อยให้เล็บยาวจนเกินไป เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ