backup og meta

ลองกอง ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

ลองกอง ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการบริโภค

ลองกอง เป็นผลไม้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ผลมีลักษณะและขนาดคล้ายไข่นกกระทา เปลือกสีเหลืองอมน้ำตาล เนื้อมีสีขาวขุ่น มีเมล็ดด้านในให้รสฝาด พบมากในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ลองกองเป็นผลไม้ที่ให้กากใยสูง และยังประกอบไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินหลายชนิด เช่น แคลเซียม วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเอ โดยมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นสนับสนุนว่า ลองกองอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ อาทิ ทำให้แผลหายไวขึ้น ช่วยต้านโรคมาลาเรีย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

[embed-health-tool-bmr]

คุณค่าทางโภชนาการของ ลองกอง

ลองกอง 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 57 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้

  • คาร์โบไฮเดรต 14.2 กรัม
  • โปรตีน 1 กรัม
  • ใยอาหาร 0.8 กรัม
  • โพแทสเซียม 275 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 31 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 19 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 2 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ ในลองกองยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 โซเดียม เหล็ก

ประโยชน์ต่อสุขภาพของ ลองกอง

ลองกอง ประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของลองกอง ดังนี้

  1. อาจช่วยฟื้นฟูให้แผลหายเร็วขึ้น

ลองกองอุดมไปด้วยสารฟีนอล (Phenol) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นชัดในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านหรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ จึงช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อบุผิวที่เสียหายหรือถูกทำลายให้กลับมาสมานตัวได้อย่างรวดเร็ว การบริโภคลองกองจึงอาจช่วยฟื้นฟูบาดแผลได้เร็วขึ้น

งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับลองกอง ผลไม้นานาประโยชน์ ประโยชน์ดั้งเดิม สารพฤกษเคมี คุณค่าสารอาหาร และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เผยแพร่ในวารสาร Nutrients พ.ศ. 2565 ระบุว่า ลองกองมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิดโดยเฉพาะสารประกอบฟีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ต้านความชรา ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสมานบาดแผล ทั้งบาดแผลทั่วไป และบาดแผลพุพอง อีกทั้ง ยังสามารถนำไปสกัดใช้ได้ทั้งในทางโภชบำบัด และเวชสำอาง

งานวิจัยชิ้นนี้ สรุปว่า ลองกอง นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นพิษต่ำ และสามารถนำไปใช้บรรเทาอาการของโรคได้หลายชนิด

นอกจากนั้น อนุภาคนาโนเงินหรือซิลเวอร์นาโน (Silver nanoparticles) ในเปลือกลองกอง มีคุณสมบัติช่วยให้บาดแผลหดตัวเร็วขึ้น รวมถึงมีอัตราฟื้นฟูตัวเองที่เร็วขึ้น

งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ว่าด้วยประสิทธิภาพของอนุภาคนาโนเงินซึ่งสกัดจากเปลือกลองกองต่อการเยียวยาบาดแผล ตีพิมพ์ในวารสาร Materials Express ปี พ.ศ. 2558 โดยทำการทดลองเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างเซลล์บาดแผลในกลุ่มตัวอย่างที่ใช้เจลซึ่งมีส่วนผสมของอนุภาคนาโนเงิน กับกลุ่มตัวอย่างอื่น ๆ พบว่า อนุภาคนาโนเงินช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเจลในการรักษาบาดแผล โดยตรวจสอบจากความแข็งแรงของบาดแผล และระยะเวลาแผลปิด นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบว่า อนุภาคนาโนเงินอาจช่วยเพิ่มอัตราการผลิตโปรตีนคอลลาเจนที่ เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูตัวเองของบาดแผลในผิวหนังด้วย

ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า สารสกัดลองกอง (เปลือก) อาจมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูบาดแผลจริง

  1. อาจช่วยต้านโรคมาลาเรีย

เมล็ดของลองกองอาจมีประสิทธิภาพในการต้านโรคมาลาเรียได้ รวมทั้งเปลือก และใบของลองกองยังมีคุณสมบัติในการช่วยกำจัดโปรโตซัวชนิดพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัม (Plasmodium Falciparum) ซึ่งมีอยู่ในตัวพาหะนำโรคอย่างยุงที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมาลาเรีย

งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับคุณสมบัติของสารเททรานอทริเทอพินอยด์ (Tetranortriterpenoid) ในเมล็ดลองกองต่อการต้านเชื้อมาลาเรีย ตีพิมพ์ในวารสาร Phytochemistry ปี พ.ศ. 2549 นักวิจัยทำการทดลองในห้องทดลองด้วยการคัดแยกสารกลุ่มเททรานอไทรเทอพินอยด์ 5 ชนิด และสารกลุ่มไทรเทอพินอยด์ (Triterpenoid) 11 ชนิด เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติของสารชนิดดังกล่าว พบว่า สาร 8 ชนิด จากทั้งหมด 16 ชนิดที่ทดสอบ อาจมีประสิทธิภาพต้านมาลาเรีย ด้วยการกำจัดโปรโตซัวชนิด พลาสโมเดียม ฟัลซิพารัมที่อยู่ในยุงซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคมาลาเรีย

อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นการทดลองในห้องปฏิบัติการ ควรมีการทดลองในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่าสารประกอบในเมล็ดลองกอง มีคุณสมบัติต้านเชื้อมาลาเรียในมนุษย์ได้จริง

  1. อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

ลองกองมีสารลาเมสติคิวมิน จี (Lamesticumin G) ที่มีประสิทธิภาพยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อัลฟา กลูโคซิเดส (α-Glucosidase) ซึ่งมีหน้าที่ย่อยสลายแป้งเป็นน้ำตาลในร่างกายและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น การบริโภคลองกองจึงอาจมีส่วนช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ลดลงเป็นปกติได้

งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องลาเมสติคิวมิน จี สารยับยั้งอัลฟา กลูโคซิเดสชนิดใหม่ จากเปลือกลองกอง เผยแพร่ในวารสาร Natural Product Research ปี พ.ศ. 2561 นักวิจัยสกัดสารลาเมสติคิวมิน จี จากเปลือกลองกอง ร่วมกับสารอื่น ๆ อีก 4 ชนิด แล้วนำโครงสร้างของเปลือกลองกองไปทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อระบุคุณลักษณะ ผลปรากฏว่า สารลาเมสติคิวมิน จี อาจมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของอัลฟา กลูโคซิเดส ขณะที่สารอื่น ๆ ไม่มีคุณสมบัติแบบเดียวกัน

ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในห้องปฏิบัติการ ควรมีการทดลองในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าสารในเปลือกลองกอง อาจมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริง

นอกจากนั้น ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับประสิทธิภาพของสารในเปลือกลองกองต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองที่ป่วยเป็นเบาหวาน เผยแพร่ในวารสาร Health Notions พ.ศ. 2561 โดยนักวิจัยได้แบ่งหนูทดลองที่ป่วยเป็นเบาหวานออกเป็นกลุ่มที่บริโภคสารสกัดจากเปลือกลองกองในปริมาณที่แตกต่างกัน และกลุ่มที่ไม่ได้บริโภคสารสกัดจากเปลือกลองกอง ทดลองเป็นระยะเวลา 21 วัน พบว่า หนูทดลองที่ป่วยเป็นเบาหวานและได้บริโภคสารสกัดจากเปลือกลองกองมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลง สรุปได้ว่า สารสกัดเปลือกลองกองอาจมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในหนูทดลอง

อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นการทดลองในสัตว์ทดลอง ควรมีการทดลองในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของสารสกัดเปลือกลองกองต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน

  1. อาจมีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้

ซิลเวอร์นาโนหรืออนุภาคนาโนเงินในลองกอง มีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ด้วยการเจาะเข้าไปในผนังเซลล์แบคทีเรีย แล้วเปลี่ยนโครงสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ส่งผลให้เซลล์แบคทีเรียถูกทำลาย ดังนั้น การบริโภคลองกองอาจเป็นทางเลือกหนึ่งทางการแพทย์เพื่อใช้ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุก่อโรคในชีวิตประจำวัน

งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เกี่ยวกับคุณสมบัติของอนุภาคนาโนเงินจากสารสกัดใบลองกองเพื่อใช้ต้านเชื้อแบคทีเรีย เผยแพร่ในวารสารประกอบการประชุมทางการแพทย์นานาชาติของมหาวิทยาลัย Jenderal Soedirman ปี พ.ศ. 2564 นักวิจัยได้ทดสอบคุณสมบัติของอนุภาคนาโนเงินที่มีต่อเชื้อแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) และเอสเชอริเดีย โคไล (Escherichia Coli) ในหลอดทดลอง พบว่า อนุภาคนาโนเงินมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียทั้ง 2 ชนิด โดยความเข้มข้นระดับต่ำสุดของอนุภาคนาโนเงินที่สามารถยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียสและแบคทีเรียเอสเชอริเดีย โคไลได้ คือ 6.25 เปอร์เซ็นต์ และ 25 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

ทั้งนี้ ยังคงเป็นการทดลองในห้องปฏิบัติการ ควรมีการทดลองเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าอนุภาคนาโนเงินอาจช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการเกิดโรคได้

อีกหนึ่งงานวิจัย เกี่ยวกับคุณสมบัติของแบคทีเรียแลคติค (Lactic Acid Bacteria) ในลองกองในการต่อการต้านเชื้อแบคทีเรีย ทั้งแบคทีเรียชนิดก่อโรคและแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้อาหารเน่าเสีย เผยแพร่ในวารสาร International Journal of Environment Agriculture and Biotechnology พ.ศ. 2562 ระบุว่า ในผลลองกองมีแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลคติคซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค การบริโภคลองกองจึงอาจช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค และป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้

อย่างไรก็ตาม ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริโภคลองกองเพื่อต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและป้องกันโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียต่อไป

ข้อควรระวังในการบริโภค ลองกอง

ลองกอง อาจมีข้อควรระวังในการบริโภค ดังนี้

  • ก่อนบริโภคลองกองควรล้างเปลือกให้สะอาด เพราะอาจมีฝุ่นละออง สารเคมี และเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่
  • ควรบริโภคด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย เพราะหากสัมผัสโดนยางโดยรอบของเปลือกลองกอง อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ควบคุมปริมาณน้ำตาล หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ควรจำกัดปริมาณการบริโภคลองกองเพื่อหลีกเลี่ยงระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูง
  • หากบริโภคลองกองแล้วพบว่าลิ้น เพดานปาก ลำคอ หรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมีอาการบวม ควรหยุดบริโภคทันทีและรีบไปพบคุณหมอ

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Antimalarial tetranortriterpenoids from the seeds of Lansium domesticum Corr. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/16930641/. Accessed June 13, 2022

Lamesticumin G, a new α-glucosidase inhibitor from the fruit peels of Lansium parasiticum. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28722496/. Accessed June 13, 2022

Lansium domesticum—A Fruit with Multi-Benefits: Traditional Uses, Phytochemicals, Nutritional Value, and Bioactivities. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC9002712/#B139-nutrients-14-01531. Accessed June 13, 2022

Wound healing potential of green synthesized silver nanoparticles prepared from Lansium domesticum fruit peel extract. https://www.ingentaconnect.com/content/asp/me/2015/00000005/00000002/art00010;jsessionid=2asomubm3pqn0.x-ic-live-01. Accessed June 13, 2022

Antibacterial activity of synthesized silver nanoparticle using langsat leaf extract as bioreductor against Escherichia coli and Staphylococcus aureus.https://www.scitepress.org/Papers/2020/104917/104917.pdf. Accessed June 13, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

21/06/2022

เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

อาหาร gluten free คืออะไร ประโยชน์และข้อควรระวังในการบริโภค

อาหารลดความดันโลหิตสูง มีอะไรบ้าง


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

Duangkamon Junnet


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 21/06/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา