สมัยนี้เวลาอยากกินขนมหรือของหวาน คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงขนมถุง ขนมขบเคี้ยว หรือขนมอบแบบฝรั่ง เช่น เค้ก คุ้กกี้ พาย ทาร์ต อาจไม่ค่อยได้นึกถึงขนมไทยกันเท่าไหร่ หรืออีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะขนมไทยหากินยากกว่า หรือหาร้านอร่อยยากกว่า วันนี้ Hello คุณหมอ เลยมีเมนูขนมไทยมานำเสนอ นั่นก็คือ “ขนมปุยฝ้าย” ขนมมงคลสีหวาน เนื้อนุ่มเด้ง จะทำกินเองหรือมอบเป็นของฝากก็ได้ รับรองเลยว่ายิ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ยิ่งต้องประทับใจสุดๆ
สูตร ขนมปุยฝ้าย
ส่วนผสม
- แป้งเค้ก 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 1¾ ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เอสพี (SP) 2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นหวาน ¾ ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1¾ ถ้วยตวง
- น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นสละ ¾ ถ้วยตวง
- เชอร์รี่เชื่อมสีแดงหั่นชิ้นเล็กๆ สำหรับโรยหน้าขนม
- น้ำมะนาว
- ไม้จิ้มฟัน หรือไม้ลูกชิ้น
อุปกรณ์ที่ต้องใช้
- เครื่องผสม
- พิมพ์ถ้วยจีบ
- ถ้วยกระดาษ
- ลังถึง
วิธีทำ
- ร่อนแป้งเค้กใส่อ่างผสม พักไว้ก่อน
- ผสมน้ำเปล่ากับน้ำหวานเข้มข้นกลิ่นสละ คนให้เข้ากัน แบ่งออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ แล้วพักไว้
- ตีไข่ไก่กับเอสพีในเครื่องผสมด้วยหัวตีตะกร้อ โดยใช้ความเร็วสูงสุด พอขึ้นฟู ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทราย สลับกับน้ำหวานส่วนแรกที่ผสมไว้จนหมด ตีต่อจนขึ้นฟู
- ค่อยๆ เทนมข้นหวาน แล้วตีต่อ พอเข้ากันดีจึงลดความเร็วลงเหลือต่ำสุด
- ค่อยๆ เติมแป้งเค้กที่ร่อนไว้ สลับกับน้ำหวานส่วนที่เหลือจนหมด ผสมจนเข้ากันดี
- วางถ้วยกระดาษลงในพิมพ์ถ้วยจีบ ตักส่วนผสมที่ได้ใส่ในถ้วยกระดาษจนเต็ม วางเรียงลงลังถึง
- ใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้ลูกชิ้น จุ่มน้ำมะนาว แล้วกรีดที่หน้าขนมเป็นรูปกากบาท โรยหน้าด้วยเชอร์รี่เชื่อม
- เทน้ำใส่หม้อ ตั้งไฟรอไว้ โดยใช้ไฟแรง รอน้ำเดือด
- นำขึ้นนึ่งในน้ำเดือดไฟแรงประมาณ 12 นาที หรือจนสุก ยกลังถึงลงจากเตา
- นำขนมปุยฝ้ายออกจากลังถึง วางพักไว้บนตะแกรง
ขนมปุยฝ้ายของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว! เห็นไหมว่าทำง่ายกว่าที่คิดเยอะ จะมือใหม่หรือมือเก๋าก็ทำได้ ใครจะจัดเสิร์ฟ หรือแพ็คลงกล่องตกแต่งให้สวยงามเพื่อมอบเป็นของขวัญก็ตามสบายเลย แต่ถึงขนมปุยฝ้ายสูตรนี้จะอร่อยถูกปากแค่ไหน ก็แนะนำว่าให้กินแต่น้อย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดสูง น้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน
ทำความรู้จักกับส่วนประกอบในขนมปุยฝ้าย
เอสพี… ตัวช่วยในการทำขนม
สำหรับมือใหม่หัดทำขนม อาจยังไม่คุ้นเคยกับเอสพี (SP) เท่าไรนัก เอสพีหรือครีมเอสพี (SP Cream) หรือที่เรียกกันว่า สารเสริมคุณภาพ คือวัตถุเจือปนอาหารที่นิยมใช้ในการทำเค้กและขนมปังที่มีไข่เป็นส่วนผสมหลัก เช่น เค้กไข่ ซาลาเปา เพื่อช่วยให้ส่วนผสมรวมตัวกันดีขึ้น และเนื้อขนมนุ่มขึ้น สามารถหาซื้อได้ทั้งตามซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่
เชอร์รี่เชื่อม… สีสวย แต่ต้องบริโภคอย่างระวัง
เชอร์รี่เชื่อมสีแดงสวย ที่เราเห็นกันบ่อยๆ บนหน้าเค้ก เครื่องดื่มคอกเทล หรือใช้ตกแต่งบนไอศกรีม จริงๆ แล้วมีชื่อว่า “เชอร์รี่มาราสชีโน (Maraschino Cherry)” นิยมใช้กันแพร่หลายทั่วโลก
เชอร์รี่เชื่อมหรือเชอร์รี่มาราสชีโนในปัจจุบัน มีรสชาติหวานมาก และผ่านการเติมรสและสีผสมอาหาร เพื่อให้มีสีแดงสดน่ากินยิ่งขึ้น นั่นทำให้เชอร์รี่ ผลไม้มากประโยชน์ กลายเป็นเชอร์รี่เชื่อมที่มีสารอาหาร รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุต่ำมากหากเทียบกับเชอร์รี่สด
ฉะนั้นเวลาทำขนมปุยฝ้าย Hello คุณหมอ แนะนำว่าอย่าใส่เชอร์รี่เชื่อมเยอะเกินไป หรือหากใครแพ้สีผสมอาหารก็ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเชอร์รี่เชื่อมมีส่วนผสมของสีผสมอาหาร ก่อนซื้อจึงต้องอ่านฉลากอาหารให้ดี หรืออาจเปลี่ยนมาโรยผลไม้อบแห้งชนิดอื่นแทน เช่น ลูกเกด มะละกออบแห้ง ลูกพลับอบแห้ง แต่ก็ต้องใช้แต่น้อยเช่นกัน เพราะผลไม้อบแห้งมีน้ำตาลเยอะ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]