backup og meta

สูตรน้ำรากบัว

สูตรน้ำรากบัว

การนำบัวมาใช้ประกอบอาหาร อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่นักในเมืองไทย อย่างเช่น เมนูแกงสายบัว ที่สามารถหารับประทานได้ทั่วไป หรืออาจจะเป็นยำเกสรดอกบัวก็เป็นอีกเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กัน การที่เรานิยมนำบัวมาประกอบอาหารนั้น นอกจากจะเป็นเพราะความหาง่ายของวัตถุดิบแล้ว ยังมีเหตุผลมาจากคุณค่าทางยาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ ก็จะมาแนะนำ สูตรน้ำรากบัว อีกหนึ่งเมนูบัวที่สามารถทำได้ง่ายๆ และได้ประโยชน์จากรากบัวอย่างเต็มที่

ประโยชน์สุขภาพของรากบัว

รากบัวเป็นส่วนประกอบหนึ่งของบัว คนไทยนิยมนำมากินทั้งแบบสุกและแบบดิบ รากบัวนั้นจัดเป็นสมุนไพรจีนที่มีฤทธิ์เย็นและมีรสชาติหวาน รากบัวที่นิยมนำมาต้มนั้น คือ รากบัวแก่ เพราะจะมีความแข็งกว่ารากบัวอ่อน

รากบัวนั้น มีส่วนประกอบของวิตามินและสารอาหารต่างๆ อยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ทองแดง ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ไทอามิน สังกะสี วิตามินบี 6 และวิตามินซี นอกจากนี้รากบัวนั้นยังเป็นแหล่งที่สำคัญของใยอาหารและโปรตีนอีกด้วย

โดยรากบัวจะให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้

  • ช่วยบำรุงรักษาระบบการไหลเวียนโลหิต

รากบัวนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและรักษาระดับของพลังงาน ธาตุเหล็กและทองแดงในรากบัวนั้นมีส่วนสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยลดโอกาสในการเกิดภาวะโลหิตจาง และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น

รากบัวนั้นมีทั้งใยอาหารและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน สารประกอบทั้งสองนี้สามารถทำงานร่วมกับเพื่อช่วยให้ร่างกายจัดการและควบคุมระดับของคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น นอกจากนี้ใยอาหารและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนก็ยังสามารถช่วยชะลอกระบวนการย่อยอาหารและทำให้ระบบย่อยอาหารสมดุลขึ้นอีกด้วย

ตั้งแต่สมัยก่อนแล้วที่ใบบัวและรากบัวจะถูกนำมาใช้เป็นสมุนไพรจีน เพื่อช่วยให้ประจำเดือนมาตามปกติและลดอาการเลือดออกที่ไม่จำเป็น แม้ว่าในปัจจุบันอาจจะยังไม่มีงานวิจัยที่สนับสนุนในเรื่องนี้มากนัก แต่ก็มีแพทย์บางรายที่แนะนำให้ดื่มน้ำรากบัวหรือซุปรากบัวเพื่อช่วยทดแทนเลือดที่เสียไปและหลีกเลี่ยงภาวะโลหิตจางระหว่างการมีประจำเดือน

สูตรน้ำรากบัว

สูตรน้ำรากบัว

ส่วนผสม

  1. รากบัว ปอกเปลือกหั่นชิ้น 150 กรัม
  2. น้ำเปล่า 1 ลิตร
  3. น้ำตาลทราย หรือน้ำตาลทรายแดง 100 กรัม

อุปกรณ์

หม้อ ผ้าขาวบาง

วิธีทำ

  • ตั้งไฟ ต้มน้ำให้เดือด
  • ใส่รากบัวลงไปต้ม เติมน้ำตาลทรายลงไป
  • ต้มจนเดือด ปิดฝาจนเกือบสนิท ต้มทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
  • ปิดไฟ ปิดฝาหม้อให้สนิท พักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
  • กรองน้ำรากบัว โดยกรองผ่านผ้าขาวบางพับ 4 ทบ
  • แช่น้ำรากบัวให้เย็นก่อน หรือใส่น้ำแข็ง แล้วจึงเสิร์ฟ

น้ำรากบัวนั้นนอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่น ดับกระหายเมื่อดื่มแล้ว ยังจะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม รากบัวที่เลือกมาใช้นั้นควรระมัดระวังเรื่องความสะอาดและสารพิษด้วย เนื่องจากในส่วนรากของพืชนั้นมักจะมีสารพิษตกค้างอยู่ เพื่อความสบายใจอาจจะเลือกใช้รากบัวที่เก็บเองหรือเลือกซื้อจากร้านที่สามารถถามแหล่งที่มาของบัวได้จะดีกว่า

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

9 Amazing Benefits Of Lotus Root
https://www.organicfacts.net/health-benefits/vegetable/lotus-root.html
Accessed 25 October 2019

The Power of the Lotus
https://www.healthline.com/health/8-uses-for-lotus
Accessed 25 October 2019

LOTUS
https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-124/lotus
Accessed 25 October 2019

รากบัว ประโยชน์และสรรพคุณของรากบัว
https://www.alro.go.th/tak/ewt_news.php?nid=450&filename=index
Accessed 25 October 2019

น้ำรากบัว
https://www.maeban.co.th/menu_detail.php?bl=709
Accessed 25 October 2019

เวอร์ชันปัจจุบัน

15/07/2020

เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: Pattarapong Khuaphu


บทความที่เกี่ยวข้อง

‘คาร์โนซีน’ สุดยอดสารอาหารบำรุงสมอง

ขาดธาตุเหล็ก ควรกินอะไรดีเพื่อป้องกันโรคโลหิตจางและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 15/07/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา