สูตรหมูมะนาว เป็นเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะทำไม่ยากแถมรสชาติอร่อย แค่นึกถึงเนื้อหมูนุ่มๆ ที่มาพร้อมกับรสชาติของน้ำยำก็ทำให้เปรี้ยวปากขึ้นมา แต่ก่อนที่จะไปดูสูตรหมูมะนาว เรามาดูก่อนดีกว่าว่าเนื้อหมูมีประโยชน์สุขภาพ และข้อควรระวังอย่างไรบ้าง
เนื้อหมูเป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่คนบริโภคกันทั่วโลก ยกเว้นศาสนาอิสลามที่ห้ามบริโภคเนื้อหมู ซึ่งเนื้อหมูมีโปรตีนสูง หมู 100 กรัมจะมีโปรตีน 25.7 กรัม และหมูยังมีประโยชน์ดังต่อไปนี้
- เนื้อหมูเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ยิ่งอายุมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อของเราจะมีน้อยลง และถ้ายิ่งไม่ออกกำลังกาย ไม่ได้กินอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปตามวัย อย่างไรก็ตามการบริโภคเนื้อสัตว์ที่อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลา และอาหารที่มีโปรตีนสูงอื่นๆ จะช่วยทำให้คุณได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อไว้
- เนื้อหมูมีครีเอทีน (Creatine) ครีเอทีนพบมากในเนื้อสัตว์ ซึ่งครีเอทีนเป็นแหล่งพลังงานของกล้ามเนื้อ อาหารเสริมของเหล่านักกล้าม จึงมักจะแนะนำให้กินครีเอทีน เพื่อช่วยในเรื่องการสร้างกล้ามเนื้อ และการรักษากล้ามเนื้อให้แข็งแรง
นอกจากประโยชน์ของเนื้อหมูแล้ว หลายคนอาจกังวลว่าหมูเนื้อแดง จะเชื่อมโยงกับการเป็นโรคหัวใจหรือไม่ เพราะมีงานวิจัยที่พบว่ามีส่วนเชื่อมโยงกันระหว่างการกินหมูเนื้อแดงกับโรคหัวใจ
มีงานวิจัยที่พบว่า การกินเนื้อหมูมาก อาจเชื่อมโยงกับการมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การกินผักและผลไม้น้อย ออกกำลังกายน้อย สูบบุหรี่ และกินอาหารมากเกินไป ดังนั้นจึงควรกินหมูในปริมาณที่พอดี เลือกเป็นเนื้อหมูที่ไม่ติดมัน ซึ่งดีต่อสุขภาพและก็จะทำให้คุณไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ใครที่ชอบกินชาบู หมูกระทะ ไม่ควรกินมากจนเกินไป
สูตรหมูมะนาว
ส่วนผสม
- เนื้อหมูสันนอกไร้มัน หั่นชิ้นบาง 350 กรัม
- ผงปรุงรสหมู 1/2 ช้อนชา
- ไข่ไก่ (เฉพาะไข่ขาว) 1 ฟอง
- น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ
- ก้านคะน้า ปอกเปลือกบริเวณโคน 8-10 ต้น
- น้ำเปล่า
- น้ำแข็ง
ส่วนผสมน้ำยำ
- น้ำมะนาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสวนสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทยกลีบเล็กสับ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- เริ่มต้นด้วยการหมักหมู คือ ผสมเนื้อหมู ผงปรุงรสหมู น้ำเย็น และไข่ขาว ขยำให้เข้ากันจนไข่ขาวเริ่มซึมเข้าเนื้อหมู พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- ต่อมาคือ การผสมน้ำยำ โดยเริ่มที่การคนน้ำตาลทรายให้ละลาย และปรุงส่วนผสมอื่นๆ คนให้เข้ากันดี
- จากนั้นเตรียมลวกผักคะน้า โดยการต้มน้ำเปล่าพอเดือด เตรียมภาชนะใส่น้ำเปล่าที่ผสมน้ำแข็งไว้
- นำคะน้าลงลวกในน้ำเดือดจนสุก สะบัดให้แห้ง ใส่ลงแช่ในน้ำเย็น ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จัดใส่จาน
- สุดท้ายคือ การลวกหมู โดยให้นำเนื้อหมูที่หมักไว้ลงลวกในน้ำเดือดให้สุก นำขึ้นจัดลงบนคะน้าลวกสุก ราดด้วยน้ำยำให้ทั่ว จัดเสิร์ฟ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]