ไขมันอิ่มตัว เป็นโมเลกุลไขมันที่ไม่ซับซ้อน และแข็งตัวในอุณหภูมิห้อง เช่น ไขมันเนื้อสัตว์ ไขมันหมู การรับประทานไขมันอิ่มตัวอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง และปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม
[embed-health-tool-bmi]
ไขมันอิ่มตัว คืออะไร
ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fats) คือ โมเลกุลไขมันที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีพันธะคู่ระหว่างโมเลกุลของคาร์บอน เนื่องจากอิ่มตัวด้วยโมเลกุลของไฮโดรเจน โดยปกติ ไขมันอิ่มตัวจะแข็งในอุณหภูมิห้อง และเกิดขึ้นตามธรรมชาติในอาหารหลายชนิด โดยส่วนใหญ่มาจากแหล่งอาหารที่เป็นสัตว์ เช่น
- เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู เนื้อสัตว์ไก่ติดหนัง
- มันวัว (Tallow)
- น้ำมันหมู
- เนย ชีส ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว
นอกจากนี้ อาหารทอดและอาหารอบก็อาจมีไขมันอิ่มตัวสูงได้เช่นกัน รวมถึงน้ำมันพืช เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ก็อาจมีไขมันอิ่มตัวแต่จะไม่มีคอเลสเตอรอล (Choresterol)
ไขมันอิ่มตัวส่งผลเสียต่อสุขภาพจริงหรือ
การกินไขมันอิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันที่พบในเนื้อสัตว์ ชีส และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมวัว อาจทำให้เกิดโรคหัวใจได้ ดังนั้น จึงควรเลือกกินไขมันที่ดีต่อสุขภาพแทน เช่น ไขมันจากถั่ว เมล็ด ปลา ผัก นอกจากนี้ สมาคมโรคหัวใจในสหรัฐอเมริกายังเผยว่า การกินไขมันอิ่มตัวอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้ รวมถึงอาจจะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย ซึ่งการมีคอเลสเตอรอลสูงอาจสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ อีกทั้งไขมันอิ่มตัวยังอาจเพิ่มปริมาณไขมันไม่ดี (LDL) ได้ แต่ก็อาจเพิ่มไขมันดี (HDL) ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างไขมันอิ่มตัวกับโรคหัวใจ จึงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกินไขมันอิ่มตัวส่งผลต่อโรคหัวใจ
ข้อควรระวังในการบริโภคไขมันอิ่มตัว
สมาคมโรคหัวใจในสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ควรกินไขมันอิ่มตัวในปริมาณ 5-6% ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน เช่น ใน 1 วัน ควรกินอาหาร 2,000 กิโลแคลอรี่ จึงอาจกินไขมันอิ่มตัวได้ไม่เกิน 120 กิโลแคลอรี่ต่อวัน หรือประมาณ 13 กรัม/วัน นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำในการกินไขมันอิ่มตัว ดังนี้
- เลือกกินเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และเนื้อสัตว์ปีกไม่เอาหนัง
- กินไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งพบมากในอาหาร เช่น น้ำมันพืชชนิดต่าง ๆ หรือถั่ว เช่น ถั่วเหลือง
- กินผัก ผลไม้ และธัญพืชเต็มเมล็ด
- จำกัดปริมาณการกินเนื้อแดง รวมถึงอาหารและน้ำดื่มที่มีน้ำตาลสูง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นโรคบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคเบาหวาน อาจต้องจำกัดปริมาณการกินไขมันอิ่มตัว และผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงพันธุกรรม (Familial Hypercholesterolemia) ควรปรึกษาคุณหมอหากต้องการกินไขมันอิ่มตัว