โรคลายม์ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่เกิดจากการถูกเห็บกัด อาการจะเกิดขึ้นตั้งแต่ 3-30 วันหลังจากถูกกัด และลักษณะอาการอาจะเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ
คำจำกัดความ
โรคลายม์คืออะไร
โรคลายม์ (Lyme Disease) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า บอร์เรลเลีย เบิร์กดอร์เฟอไร (Borrelia burgdorferi) การติดเชื้อเกิดจากการถูกเห็บกัด อาการจะเกิดขึ้นตั้งแต่ 3-30 วันหลังจากถูกกัด และลักษณะอาการอาจะเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับระยะของการติดเชื้อ
จากข้อมูลของกรมควบคุมโรคติดต่อ สหรัฐฯ โอกาสในการติดเชื้อลายม์จากการถูกเห็บกัด ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเห็บประเภทใด คุณอยู่ที่ใดขณะถูกกัด และเห็บกัดคุณเป็นเวลานานแค่ไหน เห็บชนิด Black-legged จะต้องกัดคุณอยู่ถึง 24 ชั่วโมงในการแพร่เชื้อลายม์
โรคลายม์พบบ่อยแค่ไหน
โรคลายม์เป็นโรคที่พบได้บ่อย จากข้อมูลของกรมควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ จำนวนผู้ที่ติดเชื้อโรคลายม์ 30,000 คน ถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก และจากผลการประเมินล่าสุด กรมควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐอเมริการายงานว่า ชาวอเมริกันเป็นโรคลายม์สูงถึง 3 แสนคนต่อปี ควรปรึกษาเแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการของโรคลายม์
อาการของโรคลายม์ที่พบบ่อย มีดังนี้
- หนาวสั่น
- เวียนศีรษะ
- เป็นไข้
- ข้อต่อบวม
- กล้ามเนื้อใบหน้าขาดความกระชับ
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- ปัญหาเกี่ยวกับความจำ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อาการชา
- ใจสั่น
- อาการปวดร้าว
- คอแข็ง
- อาการเสียวแปลบ
บางคนอาจมีอาการหรือสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับโรคลายม์ ดังนี้
- ผื่นแดง
- ปวดข้อต่อ
- ปวดศีรษะ
อาจมีอาการอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอาการของโรค ควรติดต่อแพทย์
ควรพบหมอเมื่อใด
ผื่นแดงเป็นสัญญาณเตือนที่ดีเมื่อคุณถูกกัด และการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาอาจได้ผลในขั้นนี้ แต่หากเกิดอาการที่กล่าวไว้ข้างต้นควรรีบพบแพทย์ อาจมีอาการอื่นๆ ของโรคที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีคำถามเกี่ยวกับอาการของโรค ควรปรึกษาแพทย์
สาเหตุ
สาเหตุของโรคลายม์
ในสหรัฐอเมริกา แบคทีเรียสองชนิดที่ทำให้เกิดโรคลายม์ ได้แก่ แบคทีเรียบอร์เรลีย เบอร์กดอร์เฟรี (Borrelia burgdorferi) และ บอร์เรเลีย เมยอนไน (Borrlelia mayonii) ซึ่งมีเห็บชนิด black-legged หรือ deer ticks เป็นพาหะ เห็บชนิดนี้มีสีน้ำตาลและตัวเล็กกว่าเมล็ดฝิ่นในช่วงแรก ซึ่งทำให้ไม่สามารถสังเกตเห็นตัวเห็บได้
การติดเชื้อโรคลายม์เกิดจากการถูกเห็บกัด แบคทีเรียจะเข้าสู่ผิวหนังและผ่านไปยังกระแสเลือดในที่สุด โดยส่วนใหญ่แล้ว การติดเชื้อแบคทีเรียต้องถูกเห็บกัดอยู่นานถึง 36-48 ชั่วโมง หากคุณพบตัวเห็บที่ขยายใหญ่ นั่นแปลว่าเห็บได้กัดคุณเป็นเวลานานพอที่จะแพร่เชื้อแบคทีเรียได้ การดึงตัวเห็บออกโดยเร็ว อาจป้องกันการติดเชื้อได้
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคลายม์
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคลายม์ มีดังนี้
- ใช้เวลานานอยู่ในป่าหรือบริเวณที่หญ้าขึ้นรก ในสหรัฐอเมริกา เห็บชนิด deer ticks มีแพร่หลายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทางพื้นที่ตะวันตกของกลางประเทศ ที่ซึ่งมีพื้นที่ป่าที่เห็บชนิดนี้สามารถอาศัยอยู่ได้ เด็กที่เล่นในที่กลางแจ้งบริเวณนี้มีความเสี่ยงในการถูกเห็บกัดได้ หรือผู้ใหญ่ที่ต้องทำงานกลางแจ้งก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน
- ไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด เห็บจะเกาะผิวหนังที่ไม่ได้มีสิ่งใดปกปิด หากคุณอยู่ในบริเวณที่มีเห็บอยู่ทั่วไป ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดทั้งเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว อย่าปล่อยให้สัตรว์เลี้ยงของคุณไปเล่นบริเวณที่มีหญ้าหรือวัชพืชขึ้นรก
- ไม่ดึงตัวเห็บออกหรือทำไม่ถูกต้อง แบคทีเรียที่อยู่ในตัวเห็บจะเข้าสู่กระแสเลือด หากเห็บกัดคุณนานถึง 36-48 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้น หากคุณดึงเห็บออกภายในสองวัน โอกาสที่จะเป็นโรคลายม์ยังคงต่ำอยู่
การวินิจฉัยและรักษาโรค
ข้อมูลเหล่านี้ไม่เจตนาให้ใช้แทนคำปรึกษาทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคลายม์
แพทย์จะทำการวินิจฉัยโรคจากอาการและประวัติการพบตัว รวมถึงการตรวจเลือด 2 ขั้นตอน สามารถช่วยในการตรวจวินิจฉัยได้ หากทำอย่างถูกวิธีตามรายงานของกรมควบคุมและป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ความแน่นอนของผลเลือดอยู่ที่ระดับของโรค ในช่วงสองสามสัปดาห์แรกหลังจากติดเชื้อ ผลอาจเป็นลบ เนื่องจากแอนติบอดี้ต้องใช้เวลาสองถึงสามสัปดาห์ในการสร้าง ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคลายม์ที่ยังไม่มีอาการตรวจทดสอบ
การรักษาโรคลายม์
การรักษาโรคลายม์มักใช้ยาปฏิชีวนะ โดยทั่วไป หากรีบเข้ารับการรักษา การรักษาจะใช้เวลาสั้นและสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้เร็ว
ยาปฏิชีวนะ
- ยาปฏิชีวนะสำหรับรับประทาน การรักษาโรคลายม์ระยะเริ่มต้นมักใช้ยาดอกซี่ไซคลิน (doxycycline) สำหรับผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 8 ขวบหรือยาอะมอกซีซิลิน (amoxicillin) หรือยาเซฟูรอกซิม (cefuroxime) สำหรับผู้ใหญ่ เด็กเล็กหรือสตรีมีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาเหล่านี้อยู่ที่ 14 ถึง 21 วัน แต่มีการศึกษาพบว่า การใช้ยา 10-14 วันก็ให้ผลการรักษาที่เท่ากัน
- ยาปฏิชีวนะสำหรับฉีด หากเชื้อแพร่กระจายไปถึงระบบสมองส่วนกลาง แพทย์อาจใช้การฉีดยาปฏิชีวนะเป็นเวลา 14-28 วัน ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาการติดเชื้อ แม้ว่ายังคงมีอาการของโรคอยู่และอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูก็ตาม การฉีดยาปฏิชีวนะสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาวลดจำนวนลง อาการท้องร่วงเล็กน้อยถึงรุนแรงหรือ ภาวะที่เชื้อโรคในร่างกายไม่เกิดการตอบสนอง หรือการติดเชื้อที่อวัยวะที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคลายม์ที่ต่อต้านยาปฏิชีวนะ
หลังการรักษา ผู้ป่วยบางรายยังคงมีอาการอยู่ เช่น ปวดกล้ามเนื้อและอ่อนเพลีย สาเหตุของอาการต่อเนื่องที่เรียกว่า อาการหลังการรักษาโรคลายม์ ยังไม่ทราบแน่ชัด และการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหลายตัวไม่ช่วยให้การรักษาดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญบางท่านลงความเห็นว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคลายม์นั้นมีแนวโน้มที่สามารถสร้างภูมิต้านตนเอง ที่ก่อให้เกิดอาการเหล่านี้ แต่ยังคงมีความต้องการในการศึกษาเรื่องนี้ต่อไป
ยาบิสมาซีน (Bismacine)
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ออกคำเตือนเกี่ยวกับการใช้บิสมาซีน ซึ่งเป็นตัวฉาสำหรับฉีดที่แพทย์ทางเลือกสามารถเป็นผู้สั่งจ่ายเพื่อรักษาโรคลายม์ได้ ยาบิสมาซีน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โครมาซีน (chromacine) ประกอบด้วยแร่โลหะบิสมัทปริมาณสูง แม้ว่าจะสามารถรับประทานยาตัวนี้เพื่อรักษาแผลในกระเพาะ แต่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่า สามารถใช้ยาตัวนี้เพื่อรักษาโรคลายม์ในรูปแบบการฉีดได้ ยาบิสมาซีนสามรถทำให้เกิดภาวะแร่โลหะบิสมัทเป็นพิษ ซึ่งนำไปสู่อาการหัวใจล้มเหลวและไตวายได้
การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง
การเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการเยียวยาตนเองเพื่อรับมือโรคลายม์
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการเยียวยาตนเองดังต่อไปนี้ อาจช่วยรับมือกับโรคลายม์ได้
- ปกปิดร่างกาย เมื่อคุณอยู่ในบริเวณที่รกหรือหญ้าขึ้นสูง ควรสวมรองเท้า กางเกงขายาวและสวมถุงเท้าขึ้นมาทับบริเวณข้อเท้า สวมเสื้อแขนยาว หมวกและถุงมือ พยายามเดินบริเวณทางเดินและหลีกเลี่ยงการเดินลุยพุ่มไม้หรือกอหญ้า และจูงสุนัขของคุณตลอดเวลาที่เดิน
- ใช้ยาไล่แมลง ทาหรือพ่นยาไล่แมลงที่มีปริมาณดีท หรือสารกันแมลง (DEET) ร้อยละ 20 หรือมากกว่า ผู้ปกครองควรทายาไล่แมลงให้ลูก อย่าให้ยาถูกมือ เข้าตาหรือปากของเด็ก ระลึกไว้เสมอว่ายาไล่แมลงก็มีโทษ จึงควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีตัวยาเพอร์เมทริน (permethrin) กับเสื้อผ้า หรือซื้อเสื้อผ้าที่ผ่านการกำจัดสารเคมีแล้ว
- จัดการบริเวณสนามหญ้าให้สะอาดไม่รกทึบ ตัดหญ้าและพุ่มไม้ซึ่งเป็นที่อยู่ของเห็บ และวางกองฟืนไว้บริเวณที่แดดส่องถึง
- ตรวจดูว่ามีเห็บเกาะที่ร่างกายของตัวเอง ลูกๆหรือสัตว์เลี้ยงหรือไม่ ควรระแวดระวังเป็นพิเศษหลังจากเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่รกหรือหญ้าขึ้นสูง ขนาดของเห็บ Deer ticks นั้นไม่ใหญไปกว่าหัวเข็มหมุด ดังนั้นคุณอาจไม่พบตัวเห็บหากคุณไม่สังเกตให้ดี
- อาบน้ำทันทีเมื่อเข้าบ้าน เห็บมักเกาะบริเวณผิวหนังอยู่เป็นชั่วโมงก่อนที่จะกัดคุณ การอาบน้ำและใช้ใยขัดผิวสามารถทำให้เห็บหลุดจากผิวได้
- อย่ามั่นใจว่าคุณมีภูมิคุ้มกันโรคลายม์ เพราะคุณสามารถเป็นโรคลายม์ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง
- ใช้แหนบดึงเห็บออกทันทีที่พบ ค่อยๆ ดึงตัวเห็บบริเวณหัวหรือปากของมัน อย่าบี้หรือบีบเห็บแต่ดึงตัวเห็บออกอย่างช้าๆ เมื่อดึงตัวเห็บออกมาแล้ว ให้ฆ่าเห็บและใช้ยาฆ่าเชื้อทาบริเวณที่ถูกเห็บกัด
หากมีคำถามเกี่ยวกับโรค ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความเข้าใจในวิธีการรักษาที่ดีที่สุด
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด