หลายประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบ เอปซีลอน โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ผลงานวิจัยล่าสุดที่เผยแพร่ทางวารสาร Science ได้ระบุว่า เชื้อไวรัสเอปซีลอน เกิดการกลายพันธุ์จนสามารถหลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด-19 ได้ บทความนี้ Hello คุณหมอ จึงพาทุกคนมาดูรู้จักกับ เชื้อไวรัสเอปซีลอน ให้มากขึ้นกัน เพื่อที่เราจะได้ป้องกันตนเองและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อย่างทันท่วงที
เอปซีลอน โควิดสายพันธุ์ใหม่ คืออะไร
โควิดสายพันธุ์เอปซีลอน (Epsilon) พบครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ย่อยด้วยกัน คือ
- B.1.427 เกิดจากการกลายพันธุ์จากยีนเอสของโปรตีนหนาม (S Protein) ตำแหน่ง ที่เรียกว่า “L452R’
- B.1.429 เกิดจากการหลายพันธุ์ในหนามโปรตีน 5 ตำแหน่ง ที่เรียกว่า I4205V, D1183Y (ในยีนส์ ORF1b) และ L452R, W152C, S13I (ในยีนส์ S)
ในเดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาพบว่า มีการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวนี้สูงถึง 15% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด โดยในปัจจุบันได้มีการแพร่ระบาดไปแล้วมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปยุโรป
โควิดสายพันธุ์เอปซีลอน ต้านทานวัคซีนได้จริงหรือไม่
แมทธิว แม็กคัลลัม (Matthew McCallum) นักชีวเคมีจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ เชื้อไวรัสโควิดเอปซีลอน ผ่านวารสาร Science เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม โดยระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์เอปซีลอน เกิดการกลายพันธุ์จากหนามโปรตีนอีก 3 ตำแหน่ง ทำให้ต้านทานวัคซีนชนิด mRNA ได้ดีขึ้น จากการทดลอง ได้มีการนำเลือดของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) และวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 2 เข็มแล้ว มาทดสอบประสิทธิภาพกับ ไวรัสเอปซีลอน พบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันลดลง 2.3-5 เท่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ
ดูแลตนเองลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เอปซีลอน
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน โควิดสายพันธุ์เอปซีลอน ยังไม่มีการระบาดในประเทศไทย แต่เราก็ต้องดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เอปซีลอน โดยมีวิธีในการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน และควรเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสกับใบหน้า ตา จมูก โดยไม่จำเป็น
- แยกของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร หรือสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกรับประทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เราจะต้องหมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการที่เข้าข่ายต่อการติดเชื้อโควิด-19 เช่น ไอ ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น มีน้ำมูก ให้รีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจเชื้อทันที